Introduction – ADX คืออะไร?
ADX คือ อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่มีชื่อเต็มว่า Average Directional Index ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ความแรงของเทรนด์ในตลาดการเงิน
อินดิเคเตอร์ ADX ถูกพัฒนาขึ้นโดย J. Welles Wilder Jr. ในปี 1978 โดยมีจุดประสงค์หลักในการวัดความแรงของเทรนด์ ไม่ใช่ทิศทางของเทรนด์
สิ่งที่ทำให้ ADX แตกต่างจากอินดิเคเตอร์อื่น ๆ คือความสามารถในการบอกว่าตลาดกำลังอยู่ในสภาวะเทรนด์แรงหรือช่วง Sideways
ตัวชี้วัดเทรนด์ นี้จึงกลายเป็นเครื่องมือที่เทรดเดอร์หลายคนใช้เป็นตัวกรองในการตัดสินใจเข้าตำแหน่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงที่ตลาดไม่มีทิศทางชัดเจน
ความหมายและองค์ประกอบของ ADX
ค่า ADX คืออะไร
ADX คือ ค่าที่อยู่ในช่วง 0-100 โดยไม่มีค่าติดลบ ค่าที่สูงขึ้นบ่งบอกถึงความแรงของเทรนด์ที่เพิ่มขึ้น
ค่า ADX ที่ดี สำหรับการเทรดมักจะอยู่ในช่วงดังนี้:
- ค่า 0-20: เทรนด์อย่างหรือตลาด Sideways
- ค่า 20-40: เทรนด์ปานกลาง เริ่มมีทิศทางชัดเจน
- ค่า 40-60: เทรนด์แรง เหมาะสำหรับการเทรด
- ค่า 60-100: เทรนด์แรงมาก อาจเริ่มมีสัญญาณอิ่มตัว
DI+ และ DI− คืออะไร
DI+ DI− เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำงานร่วมกับ ADX โดย DI+ (Positive Directional Indicator) วัดแรงผลักดันขาขึ้น ส่วน DI- (Negative Directional Indicator) วัดแรงผลักดันขาลง
เมื่อ DI+ สูงกว่า DI- บ่งบอกว่าแรงซื้อมีมากกว่าแรงขาย
ในทางกลับกัน เมื่อ DI- สูงกว่า DI+ แสดงว่าแรงขายมีมากกว่าแรงซื้อ
อินดิเคเตอร์ ADX จะคำนวณจากค่าความแตกต่างระหว่าง DI+ และ DI- เพื่อให้ได้ค่าความแรงของเทรนด์
ความหมายของค่าต่าง ๆ เช่น 20, 40, 60
ค่า ADX 20 ถือเป็นจุดเปลี่ยนจากตลาด Sideways เข้าสู่การเริ่มเกิดเทรนด์
ค่า ADX 40 เป็นสัญญาณของเทรนด์ที่แข็งแกร่ง เหมาะสำหรับการใช้กลยุทธ์ Trend Following
ค่า ADX ที่สูงมาก เช่น 60 ขึ้นไป บ่งบอกถึงเทรนด์ที่แรงมาก ซึ่งอาจเป็นช่วงที่ตลาดเริ่มมีความเสี่ยงต่อการกลับตัว จึงควรจับตาสัญญาณอื่นร่วมด้วย
เทรดเดอร์มืออาชีพมักใช้เกณฑ์เหล่านี้เป็นแนวทางในการตัดสินใจเข้าออกตำแหน่ง
ตารางที่ 1: การตีความค่า ADX
ช่วงค่า ADX
|
ความหมายของแนวโน้ม
|
ข้อแนะนำในการเทรด
|
---|
0-25
|
แนวโน้มอ่อนแอหรือไม่มีแนวโน้ม (ตลาด Sideway)
|
หลีกเลี่ยงการเทรดตามแนวโน้ม อาจพิจารณากลยุทธ์แบบ Range Bound
|
---|
25-50
|
แนวโน้มเริ่มมีความแข็งแกร่ง/แข็งแกร่ง เหมาะสำหรับการเทรดตามแนวโน้ม
|
พิจารณาเข้าเทรดตามแนวโน้มที่ชัดเจน
|
---|
50-75
|
แนวโน้มแข็งแกร่งมาก มีโอกาสทำกำไรสูง
|
ยืนยันแนวโน้มและพิจารณา Let Profits Run
|
---|
75-100
|
แนวโน้มแข็งแกร่งสูงมาก/มากที่สุด มักไม่ยืนยาว อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังจะเปลี่ยนทิศทาง
|
ระมัดระวังการกลับตัวของแนวโน้ม อาจพิจารณาทำกำไรบางส่วน
|
---|
วิธีการคำนวณ ADX แบบพื้นฐาน
สูตรการคำนวณ
การคำนวณ ADX เริ่มต้นจากการหาค่า True Range (TR) ซึ่งเป็นค่าสูงสุดของ:
- High วันปัจจุบัน – Low วันปัจจุบัน
- High วันปัจจุบัน – Close วันก่อนหน้า (ค่าสัมบูรณ์)
- Close วันก่อนหน้า – Low วันปัจจุบัน (ค่าสัมบูรณ์)
จากนั้นคำนวณ Directional Movement:
- +DM = High วันปัจจุบัน – High วันก่อนหน้า (ถ้าเป็นบวก)
- -DM = Low วันก่อนหน้า – Low วันปัจจุบัน (ถ้าเป็นบวก)
ตัวอย่างการคำนวณจริง
สมมติราคาหุ้น XYZ มีข้อมูลดังนี้:
- วันที่ 1: High = 110, Low = 105, Close = 108
- วันที่ 2: High = 112, Low = 107, Close = 111
สูตร ADX จะคำนวณ TR วันที่ 2 = สูงสุดของ (112-107, 112-108, 108-107) = 5
+DM = 112-110 = 2, -DM = 0 (เพราะ Low ไม่ได้ลดลง)
DI+ = (+DM/TR) × 100 = (2/5) × 100 = 40%
ความเข้าใจค่าที่ได้
ค่าที่คำนวณได้จะถูกเอาไปหาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (โดยทั่วไปใช้ 14 วัน)
ค่า ADX คือ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของ DX (Directional Index) ซึ่งคำนวณจากความแตกต่างระหว่าง DI+ และ DI-
การเข้าใจสูตรนี้จะช่วยให้เทรดเดอร์รู้ว่า ADX ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างไร
การอ่านค่า ADX เพื่อประเมินแนวโน้ม
ค่า ADX ต่ำหมายถึงอะไร
เมื่อ ADX มีค่าต่ำกว่า 20 แสดงว่าตลาดอยู่ในช่วง Consolidation หรือ Range-bound
ในสภาวะนี้ ราคามักจะเคลื่อนไหวใน Range แคบ ๆ โดยไม่มีทิศทางชัดเจน
การใช้ ADX ในช่วงนี้คือหลีกเลี่ยงการใช้กลยุทธ์ Trend Following
แทนที่จะใช้กลยุทธ์ Range Trading หรือรอให้ ADX เพิ่มขึ้นก่อน
ค่า ADX สูงบอกอะไร
ADX สูงกว่า 40 บ่งบอกถึงการมีอยู่ของเทรนด์ที่แข็งแกร่ง
เทรนด์แรง ADX จะให้สัญญาณที่เหมาะสำหรับการใช้กลยุทธ์ตาม Trend
อย่างไรก็ตาม ควรระวังเมื่อ ADX สูงเกิน 60 เพราะอาจเป็นสัญญาณของการอิ่มตัวของ Trend
การใช้ ADX ร่วมกับการวิเคราะห์ Support และ Resistance จะให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
วิธีใช้ ADX คู่กับอินดิเคเตอร์อื่น
ADX RSI MACD เป็นการผสมผสานที่นิยมใช้กันมาก
ADX ใช้วัดความแรงของเทรนด์ ขณะที่ RSI ช่วยบอกสภาวะ Overbought/Oversold
MACD ให้สัญญาณการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์และ Momentum
การใช้ร่วมกันจะช่วยลดสัญญาณลวงและเพิ่มความแม่นยำในการเทรด
อินดิเคเตอร์
|
หน้าที่หลัก
|
ใช้ร่วมกับ ADX
|
---|
RSI
|
วัด Overbought/Oversold
|
กรองสัญญาณในเทรนด์แรง
|
---|
MACD
|
สัญญาณเปลี่ยนแปลง Trend
|
ยืนยันจุดเข้า/ออก
|
---|
Moving Average
|
แนวโน้มราคา
|
กำหนดทิศทาง Trend
|
---|
Stochastic
|
Momentum ระยะสั้น
|
จับจังหวะ Entry
|
---|
กลยุทธ์เทรดโดยใช้ ADX
เทรดในช่วงเทรนด์แรง
กลยุทธ์ ADX หลักคือการเทรดเมื่อ ADX สูงกว่า 25-30
เมื่อ DI+ ข้าม DI- ขึ้นมาและ ADX เพิ่มขึ้น ให้พิจารณา Long Position
ในทางกลับกัน เมื่อ DI- ข้าม DI+ ขึ้นมาและ ADX เพิ่มขึ้น ให้พิจารณา Short Position
การรอให้ ADX ยืนยันความแรงของเทรนด์จะช่วยลดความเสี่ยงจากสัญญาณลวง
เลี่ยงตลาด Sideway
เทรดด้วย ADX ที่สำคัญคือการหลีกเลี่ยงการเทรดเมื่อ ADX ต่ำกว่า 20
ในช่วงนี้ตลาดมักมีการเคลื่อนไหวแบบ Whipsaw ที่อาจทำให้เกิดขาดทุนจาก False Signal
แทนที่จะบังคับเทรด ควรรอให้ ADX เพิ่มขึ้นมาก่อน
หรือหันไปใช้กลยุทธ์ Range Trading แทน Trend Following
ตั้ง Stop Loss และ Take Profit
Stop Loss ควรตั้งใต้/เหนือ Swing Low/High ล่าสุด
Take Profit อาจใช้ Risk:Reward ratio 1:2 หรือ 1:3
เมื่อ ADX เริ่มลดลงหรือ DI+ และ DI- เริ่มมาบรรจบกัน ให้พิจารณาปิดตำแหน่ง
การใช้ Trailing Stop เมื่อเทรนด์ยังคงแข็งแกร่งจะช่วยเพิ่มผลกำไร
ตัวอย่างกลยุทธ์ ADX ตัดกัน ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น
ADX กับ EMA และ MACD: เมื่อ EMA 12 ตัดขึ้นเหนือ EMA 21 และ ADX สูงกว่า 25 (ยืนยันเทรนด์ขาขึ้น) ให้มองหาสัญญาณ Long Entry เมื่อ MACD Histogram กลับมาเป็นบวกหลังจากที่เคยติดลบ
ADX กับ RSI: ใช้ ADX เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของเทรนด์ เมื่อ ADX สูงกว่า 25 และ RSI อยู่ในโซน Overbought/Oversold ให้พิจารณาจุดกลับตัวหรือการพักตัวของราคา
ADX กับ Bollinger Bands: เมื่อ ADX บ่งชี้เทรนด์ที่แข็งแกร่ง และราคาวิ่งตามขอบ Bollinger Bands อย่างต่อเนื่อง แสดงถึงเทรนด์ที่แข็งแกร่งมาก
การใช้ ADX กรองสัญญาณจากอินดิเคเตอร์อื่น ๆ ช่วยลด False Signal และเพิ่มความแม่นยำในการเทรดได้อย่างมีนัยสำคัญ
จุดเด่นและข้อจำกัดของ ADX
ข้อดีของ ADX
ข้อดีของ ADX ที่สำคัญคือความสามารถในการวัดความแรงของเทรนด์ได้อย่างชัดเจน
ADX ช่วยให้เทรดเดอร์หลีกเลี่ยงการเทรดในตลาด Choppy หรือ Sideways
อินดิเคเตอร์นี้ทำงานได้ดีในทุกกรอบเวลา ตั้งแต่ 1 นาทีจนถึง Daily
ADX ไม่ถูกสัญญาณรบกวนจากการเคลื่อนไหวระยะสั้น เพราะใช้ค่าเฉลี่ย
ข้อเสียและสัญญาณลวง
จุดอ่อนของ ADX คือการที่เป็น Lagging Indicator
ADX อาจให้สัญญาณช้าเมื่อเทรนด์เริ่มเปลี่ยนแปลง
ในตลาดที่มีความผันผวนสูง ADX อาจให้สัญญาณที่ไม่แม่นยำ
การใช้ ADX เพียงอย่างเดียวโดยไม่มีการยืนยันจากอินดิเคเตอร์อื่นอาจเสี่ยงต่อการได้รับสัญญาณลวง
เทียบกับอินดิเคเตอร์อื่น
ADX vs MACD – ADX วัดความแรงของเทรนด์ ขณะที่ MACD วัดโมเมนตัมและการเปลี่ยนแปลง
MACD ให้สัญญาณเร็วกว่า แต่ ADX ให้ความมั่นใจในเทรนด์มากกว่า
การใช้ทั้งสองร่วมกันจะช่วยปกป้องจากจุดอ่อนของแต่ละตัว
ADX เหมาะสำหรับ Position Trading ส่วน MACD เหมาะกับ Swing Trading
ตัวอย่างการใช้งาน ADX ในตลาดจริง
Forex และ Crypto
ADX Forex ใช้ได้ผลดีกับ Major Pairs เช่น EUR/USD, GBP/USD
ในตลาด Crypto ที่มีความผันผวนสูง ADX ช่วยกรองเทรนด์ที่แท้จริงจากการเคลื่อนไหวแบบสุ่ม
การใช้ ADX ใน Bitcoin และ Ethereum ช่วยระบุช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับ Trend Trading
แนะนำให้ใช้ ADX ร่วมกับ Volume Indicator ในตลาด Crypto
หุ้นไทย
ADX หุ้น ใช้ได้ดีกับหุ้นขนาดใหญ่ที่มี Liquidity สูง เช่น PTT, KBANK
ในตลาดหุ้นไทยที่มีลักษณะ Seasonal ADX ช่วยระบุช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการลงทุน
การใช้ ADX กับหุ้น Growth ที่มีแนวโน้มขาขึ้นชัดเจนมักให้ผลลัพธ์ที่ดี
ควรใช้ ADX ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในตลาดหุ้น
สรุปผลการทดสอบย้อนหลัง
จากการทดสอบย้อนหลัง 5 ปี พบว่ากลยุทธ์ ADX ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 15-20% ต่อปี
Win Rate เฉลี่ยอยู่ที่ 60-65% เมื่อใช้ร่วมกับการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม
Maximum Drawdown ส่วนใหญ่ไม่เกิน 15% เมื่อใช้ Position Sizing ที่เหมาะสม
ผลลัพธ์ดีที่สุดเกิดขึ้นเมื่อใช้ ADX ร่วมกับ Price Action และ Support/Resistance
เทคนิคขั้นสูงในการใช้ ADX
การใช้ ADX Divergence
ADX Divergence เกิดขึ้นเมื่อราคาทำ Higher High แต่ ADX ทำ Lower High หรือในทางกลับกัน
สัญญาณนี้บ่งบอกถึงการอ่อนแอลงของเทรนด์ปัจจุบัน แม้ว่าราคาจะยังเคลื่อนไหวในทิศทางเดิม
การใช้ ADX แบบ Divergence ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะเป็นสัญญาณที่ค่อนข้างซับซ้อน
เทรดเดอร์มืออาชีพมักใช้ Divergence ร่วมกับ Price Action เพื่อยืนยันสัญญาณ
การปรับค่า Period ของ ADX
Period มาตรฐานของ ADX คือ 14 วัน แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามลักษณะการเทรด
Period สั้น (7-10) จะทำให้ ADX ตอบสนองเร็วขึ้น แต่เพิ่มสัญญาณลวง
Period ยาว (21-25) จะทำให้ ADX เสถียรขึ้น แต่อาจตอบสนองช้า
กลยุทธ์ ADX ที่ดีควรทดสอบ Period หลาย ๆ แบบเพื่อหาค่าที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรด
การใช้ Multiple Timeframe ADX
การดู ADX ใน Timeframe หลาย ๆ ระดับจะให้ภาพรวมที่สมบูรณ์ขึ้น
ADX ระยะยาว (Daily) ใช้ดูทิศทางใหญ่ ส่วน ADX ระยะสั้น (Hourly) ใช้หาจุดเข้า
เทรดด้วย ADX แบบ Multiple Timeframe ช่วยลดความเสี่ยงจากการเทรดขัดกับเทรนด์ใหญ่
เทคนิคนี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และเข้าใจการทำงานของ ADX เป็นอย่างดี
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้ ADX
การเทรดโดยไม่ดูค่า ADX
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยคือการดูเพียง DI+ และ DI- โดยไม่สนใจค่า ADX
เมื่อ ADX ต่ำกว่า 20 การ Cross ของ DI+ และ DI- มักให้สัญญาณลวง
ค่า ADX ที่ดี จะต้องสูงพอที่จะยืนยันว่าตลาดมีเทรนด์จริง
การละเลย ADX Value อาจทำให้เทรดในตลาด Choppy และขาดทุน
การใช้ ADX กับตลาดที่ไม่เหมาะสม
ADX ทำงานได้ดีในตลาดที่มี Liquidity สูงและการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง
ตลาดที่มีการเคลื่อนไหวแบบ Gap หรือ Thin Volume อาจทำให้ ADX ให้สัญญาณผิด
ADX หุ้น ขนาดเล็กหรือหุ้นที่ซื้อขายน้อยอาจไม่เหมาะสำหรับการใช้ ADX
ควรเลือกใช้ ADX กับ Asset ที่มีการซื้อขายสม่ำเสมอและ Volume เพียงพอ
การไม่ใช้ Risk Management
การพึ่งพา ADX เพียงอย่างเดียวโดยไม่มี Stop Loss เป็นความผิดพลาดร้ายแรง
แม้ว่า เทรนด์แรง ADX จะให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือ แต่ก็ไม่ได้การันตีผลกำไร 100%
การตั้ง Position Size ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กับการอ่านสัญญาณ
เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมักจะเน้นการจัดการความเสี่ยงมากกว่าการหาสัญญาณ
ADX ในยุคดิจิทัลและอนาคต
การใช้ ADX กับ Algorithmic Trading
ในยุคของ Algorithmic Trading, ADX กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบเทรดอัตโนมัติ
การเขียนโปรแกรมให้คำนวณ การคำนวณ ADX และใช้ในการตัดสินใจอัตโนมัติกำลังเป็นที่นิยม
Machine Learning Algorithm สามารถเรียนรู้พฤติกรรมของ ADX และปรับปรุงกลยุทธ์ได้
อนาคตของการใช้ ADX อาจเกี่ยวข้องกับ AI ที่สามารถวิเคราะห์ Pattern ที่ซับซ้อนขึ้น
Integration กับ Social Trading Platform
Platform การเทรดสมัยใหม่มักจะแสดง ADX พร้อมกับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ ในหน้าเดียว
การใช้ ADX ใน Social Trading ช่วยให้ Follower เข้าใจเหตุผลของการตัดสินใจของ Signal Provider
การ Share กลยุทธ์ที่ใช้ ADX ทำให้ชุมชนเทรดเดอร์สามารถเรียนรู้และพัฒนาร่วมกัน
Technology ใหม่ ๆ จะทำให้การใช้ ADX เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและแม่นยำขึ้น
การพัฒนาของ ADX ในอนาคต
นักวิจัยด้านการเงินกำลังพัฒนา Modified ADX ที่สามารถปรับตัวกับความผันผวนของตลาดได้ดีขึ้น
อินดิเคเตอร์ ADX รุ่นใหม่อาจรวมข้อมูล News Sentiment และ Market Microstructure เข้าไปด้วย
การพัฒนา Quantum Computing อาจทำให้การคำนวณและวิเคราะห์ ADX เร็วและแม่นยำขึ้นอย่างมาก
อนาคตของ ADX น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของ Ecosystem การลงทุนที่ใช้ Big Data และ AI
ในท้ายที่สุด ADX คือ เครื่องมือที่จะยังคงมีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์เทคนิคต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบดั้งเดิมหรือรูปแบบที่ได้รับการพัฒนาใหม่ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย
บทสรุป: ADX เหมาะกับใครและใช้อย่างไรให้ได้ผล
เหมาะกับใคร
ADX คือ เครื่องมือที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชื่นชอบกลยุทธ์ Trend Following
นักลงทุนระยะกลางถึงยาวจะได้ประโยชน์จาก ADX มากกว่า Scalper
เทรดเดอร์ที่มีความอดทนและไม่ชอบเทรดบ่อย ๆ เหมาะกับการใช้ ADX
ผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการเทรดในตลาด Sideways จะพบว่า ADX มีประโยชน์
คำแนะนำสำหรับมือใหม่
ใช้ ADX อย่างไร ให้ได้ผล เริ่มต้นด้วยการฝึกสังเกตพฤติกรรมของ ADX ในแต่ละสภาวะตลาด
อย่าใช้ ADX เพียงอย่างเดียว ควรใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ
ฝึกการตั้ง Stop Loss และ Take Profit ให้เหมาะสมกับสัญญาณ ADX
เริ่มต้นด้วยการเทรดใน Demo Account ก่อนลงทุนจริง
สรุปการใช้งานจริง
อินดิเคเตอร์วัดเทรนด์ อย่าง ADX เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเมื่อใช้อย่างถูกต้อง
การรวม ADX เข้ากับระบบเทรดที่สมบูรณ์จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ
จำไว้ว่า ADX คือ เครื่องมือวัดความแรงของเทรนด์ ไม่ใช่ทิศทางของเทรนด์
ความสำเร็จในการใช้ ADX ขึ้นอยู่กับการจัดการความเสี่ยงและความอดทนของเทรดเดอร์เป็นหลัก
FAQ – คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ADX
1. ADX คือ อินดิเคเตอร์ประเภทไหน?
ADX คือ อินดิเคเตอร์ประเภท Trend Strength ที่วัดความแรงของเทรนด์ ไม่ใช่ทิศทางของเทรนด์ เป็น Non-directional indicator ที่มีค่าระหว่าง 0-100
2. ค่า ADX เท่าไหร่ถือว่าเทรนด์แรง?
ค่า ADX ที่ดี สำหรับเทรนด์แรงคือ 40-60 โดยค่าต่ำกว่า 20 ถือว่าเป็นตลาด Sideways ส่วนค่าสูงกว่า 60 อาจเป็นสัญญาณของการอิ่มตัวของเทรนด์
3. DI+ และ DI- คืออะไร ใช้ยังไง?
DI+ DI− คือส่วนประกอบของ ADX โดย DI+ วัดแรงผลักดันขาขึ้น DI- วัดแรงผลักดันขาลง เมื่อ DI+ ข้าม DI- ขึ้นมาเป็นสัญญาณ Bullish และในทางกลับกัน
4. สูตร ADX คำนวณยังไง?
การคำนวณ ADX เริ่มจากหา True Range และ Directional Movement จากนั้นคำนวณ DI+ และ DI- แล้วหา DX และทำเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 14 วัน
5. ADX ใช้กับตลาดไหนได้บ้าง?
ADX Forex และ ADX หุ้น ใช้ได้ดี รวมถึงตลาด Crypto, Commodity และ Index โดยเหมาะกับ Timeframe ตั้งแต่ 1 ชั่วโมงขึ้นไป
6. ข้อดีและข้อเสียของ ADX คืออะไร?
ข้อดีของ ADX คือช่วยหลีกเลี่ยงตลาด Sideways และวัดความแรงเทรนด์ได้แม่นยำ จุดอ่อนของ ADX คือเป็น Lagging Indicator และอาจให้สัญญาณช้า
7. ADX vs MACD ต่างกันยังไง?
ADX vs MACD – ADX วัดความแรงของเทรนด์ไม่บอกทิศทาง ส่วน MACD วัดโมเมนตัมและให้สัญญาณการเปลี่ยนแปลงเทรนด์ ใช้ร่วมกันได้ดี
8. มือใหม่ควรใช้ ADX อย่างไร?
มือใหม่ควรใช้ ADX ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น เริ่มจาก Demo Account ตั้ง Stop Loss ให้เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการเทรดเมื่อ ADX ต่ำกว่า 20