Skip to content
  • ไทย
    • หน้าแรก
    • รีวิวโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
      • รายละเอียดโบรกเกอร์ Forex
    • การเทรด Forex
      • วิเคราะห์คู่สกุลเงิน Forex
      • คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex
    • คริปโตเคอร์เรนซี
      • รวมคริปโตเคอร์เรนซียอดนิยม
      • พื้นฐานการลงทุนบล็อกเชน
    • การลงทุนในหุ้น
      • วิเคราะห์หุ้นกลุ่มยอดนิยม
      • คู่มือเริ่มต้นลงทุนหุ้น
      • แนะนำกองทุน ETF
    • การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์
      • เจาะลึกการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
      • คู่มือเริ่มต้นลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
    • วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
    • พื้นฐานการลงทุน
    • หน้าแรก
    • รีวิวโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
      • รายละเอียดโบรกเกอร์ Forex
    • การเทรด Forex
      • วิเคราะห์คู่สกุลเงิน Forex
      • คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex
    • คริปโตเคอร์เรนซี
      • รวมคริปโตเคอร์เรนซียอดนิยม
      • พื้นฐานการลงทุนบล็อกเชน
    • การลงทุนในหุ้น
      • วิเคราะห์หุ้นกลุ่มยอดนิยม
      • คู่มือเริ่มต้นลงทุนหุ้น
      • แนะนำกองทุน ETF
    • การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์
      • เจาะลึกการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
      • คู่มือเริ่มต้นลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
    • วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
    • พื้นฐานการลงทุน

    หน้าแรก - วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค

    ADX คือ อินดิเคเตอร์วัดแรงเทรนด์ที่เทรดเดอร์ต้องรู้

    • วันที่เผยแพร่บทความ: 2025-07-18
    • วันที่อัปเดตบทความ:2025-07-18
    ภาพ ADX indicator

    สารบัญ

    Introduction – ADX คืออะไร?

    ADX คือ อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่มีชื่อเต็มว่า Average Directional Index ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ความแรงของเทรนด์ในตลาดการเงิน

    อินดิเคเตอร์ ADX ถูกพัฒนาขึ้นโดย J. Welles Wilder Jr. ในปี 1978 โดยมีจุดประสงค์หลักในการวัดความแรงของเทรนด์ ไม่ใช่ทิศทางของเทรนด์

    สิ่งที่ทำให้ ADX แตกต่างจากอินดิเคเตอร์อื่น ๆ คือความสามารถในการบอกว่าตลาดกำลังอยู่ในสภาวะเทรนด์แรงหรือช่วง Sideways

    ภาพ ADX indicator

    ตัวชี้วัดเทรนด์ นี้จึงกลายเป็นเครื่องมือที่เทรดเดอร์หลายคนใช้เป็นตัวกรองในการตัดสินใจเข้าตำแหน่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงที่ตลาดไม่มีทิศทางชัดเจน

    ความหมายและองค์ประกอบของ ADX

    ภาพ ADX, DI+ และ DI-

    ค่า ADX คืออะไร

    ADX คือ ค่าที่อยู่ในช่วง 0-100 โดยไม่มีค่าติดลบ ค่าที่สูงขึ้นบ่งบอกถึงความแรงของเทรนด์ที่เพิ่มขึ้น

    ค่า ADX ที่ดี สำหรับการเทรดมักจะอยู่ในช่วงดังนี้:

    • ค่า 0-20: เทรนด์อย่างหรือตลาด Sideways
    • ค่า 20-40: เทรนด์ปานกลาง เริ่มมีทิศทางชัดเจน
    • ค่า 40-60: เทรนด์แรง เหมาะสำหรับการเทรด
    • ค่า 60-100: เทรนด์แรงมาก อาจเริ่มมีสัญญาณอิ่มตัว

    DI+ และ DI− คืออะไร

    DI+ DI− เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำงานร่วมกับ ADX โดย DI+ (Positive Directional Indicator) วัดแรงผลักดันขาขึ้น ส่วน DI- (Negative Directional Indicator) วัดแรงผลักดันขาลง

    เมื่อ DI+ สูงกว่า DI- บ่งบอกว่าแรงซื้อมีมากกว่าแรงขาย

    ในทางกลับกัน เมื่อ DI- สูงกว่า DI+ แสดงว่าแรงขายมีมากกว่าแรงซื้อ

    อินดิเคเตอร์ ADX จะคำนวณจากค่าความแตกต่างระหว่าง DI+ และ DI- เพื่อให้ได้ค่าความแรงของเทรนด์

    ความหมายของค่าต่าง ๆ เช่น 20, 40, 60

    ค่า ADX 20 ถือเป็นจุดเปลี่ยนจากตลาด Sideways เข้าสู่การเริ่มเกิดเทรนด์

    ค่า ADX 40 เป็นสัญญาณของเทรนด์ที่แข็งแกร่ง เหมาะสำหรับการใช้กลยุทธ์ Trend Following

    ค่า ADX ที่สูงมาก เช่น 60 ขึ้นไป บ่งบอกถึงเทรนด์ที่แรงมาก ซึ่งอาจเป็นช่วงที่ตลาดเริ่มมีความเสี่ยงต่อการกลับตัว จึงควรจับตาสัญญาณอื่นร่วมด้วย

    เทรดเดอร์มืออาชีพมักใช้เกณฑ์เหล่านี้เป็นแนวทางในการตัดสินใจเข้าออกตำแหน่ง

    ตารางที่ 1: การตีความค่า ADX

    ช่วงค่า ADX

    ความหมายของแนวโน้ม

    ข้อแนะนำในการเทรด

    0-25

    แนวโน้มอ่อนแอหรือไม่มีแนวโน้ม (ตลาด Sideway)

    หลีกเลี่ยงการเทรดตามแนวโน้ม อาจพิจารณากลยุทธ์แบบ Range Bound

    25-50

    แนวโน้มเริ่มมีความแข็งแกร่ง/แข็งแกร่ง เหมาะสำหรับการเทรดตามแนวโน้ม

    พิจารณาเข้าเทรดตามแนวโน้มที่ชัดเจน

    50-75

    แนวโน้มแข็งแกร่งมาก มีโอกาสทำกำไรสูง

    ยืนยันแนวโน้มและพิจารณา Let Profits Run

    75-100

    แนวโน้มแข็งแกร่งสูงมาก/มากที่สุด มักไม่ยืนยาว อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังจะเปลี่ยนทิศทาง

    ระมัดระวังการกลับตัวของแนวโน้ม อาจพิจารณาทำกำไรบางส่วน

    วิธีการคำนวณ ADX แบบพื้นฐาน

    สูตรการคำนวณ

    การคำนวณ ADX เริ่มต้นจากการหาค่า True Range (TR) ซึ่งเป็นค่าสูงสุดของ:

    • High วันปัจจุบัน – Low วันปัจจุบัน
    • High วันปัจจุบัน – Close วันก่อนหน้า (ค่าสัมบูรณ์)
    • Close วันก่อนหน้า – Low วันปัจจุบัน (ค่าสัมบูรณ์)

    จากนั้นคำนวณ Directional Movement:

    • +DM = High วันปัจจุบัน – High วันก่อนหน้า (ถ้าเป็นบวก)
    • -DM = Low วันก่อนหน้า – Low วันปัจจุบัน (ถ้าเป็นบวก)

    ตัวอย่างการคำนวณจริง

    สมมติราคาหุ้น XYZ มีข้อมูลดังนี้:

    • วันที่ 1: High = 110, Low = 105, Close = 108
    • วันที่ 2: High = 112, Low = 107, Close = 111

    สูตร ADX จะคำนวณ TR วันที่ 2 = สูงสุดของ (112-107, 112-108, 108-107) = 5

    +DM = 112-110 = 2, -DM = 0 (เพราะ Low ไม่ได้ลดลง)

    DI+ = (+DM/TR) × 100 = (2/5) × 100 = 40%

    ภาพสูตรคำนวณ +DI and -DI

    ความเข้าใจค่าที่ได้

    ค่าที่คำนวณได้จะถูกเอาไปหาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (โดยทั่วไปใช้ 14 วัน)

    ค่า ADX คือ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของ DX (Directional Index) ซึ่งคำนวณจากความแตกต่างระหว่าง DI+ และ DI-

    การเข้าใจสูตรนี้จะช่วยให้เทรดเดอร์รู้ว่า ADX ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างไร

    ภาพสูตรคำนวณ DX

    การอ่านค่า ADX เพื่อประเมินแนวโน้ม

    ค่า ADX ต่ำหมายถึงอะไร

    เมื่อ ADX มีค่าต่ำกว่า 20 แสดงว่าตลาดอยู่ในช่วง Consolidation หรือ Range-bound

    ในสภาวะนี้ ราคามักจะเคลื่อนไหวใน Range แคบ ๆ โดยไม่มีทิศทางชัดเจน

    การใช้ ADX ในช่วงนี้คือหลีกเลี่ยงการใช้กลยุทธ์ Trend Following

    แทนที่จะใช้กลยุทธ์ Range Trading หรือรอให้ ADX เพิ่มขึ้นก่อน

    ค่า ADX สูงบอกอะไร

    ADX สูงกว่า 40 บ่งบอกถึงการมีอยู่ของเทรนด์ที่แข็งแกร่ง

    เทรนด์แรง ADX จะให้สัญญาณที่เหมาะสำหรับการใช้กลยุทธ์ตาม Trend

    อย่างไรก็ตาม ควรระวังเมื่อ ADX สูงเกิน 60 เพราะอาจเป็นสัญญาณของการอิ่มตัวของ Trend

    การใช้ ADX ร่วมกับการวิเคราะห์ Support และ Resistance จะให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

    วิธีใช้ ADX คู่กับอินดิเคเตอร์อื่น

    ADX RSI MACD เป็นการผสมผสานที่นิยมใช้กันมาก

    ADX ใช้วัดความแรงของเทรนด์ ขณะที่ RSI ช่วยบอกสภาวะ Overbought/Oversold

    MACD ให้สัญญาณการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์และ Momentum

    การใช้ร่วมกันจะช่วยลดสัญญาณลวงและเพิ่มความแม่นยำในการเทรด

    อินดิเคเตอร์

    หน้าที่หลัก

    ใช้ร่วมกับ ADX

    RSI

    วัด Overbought/Oversold

    กรองสัญญาณในเทรนด์แรง

    MACD

    สัญญาณเปลี่ยนแปลง Trend

    ยืนยันจุดเข้า/ออก

    Moving Average

    แนวโน้มราคา

    กำหนดทิศทาง Trend

    Stochastic

    Momentum ระยะสั้น

    จับจังหวะ Entry

    กลยุทธ์เทรดโดยใช้ ADX

    เทรดในช่วงเทรนด์แรง

    กลยุทธ์ ADX หลักคือการเทรดเมื่อ ADX สูงกว่า 25-30

    เมื่อ DI+ ข้าม DI- ขึ้นมาและ ADX เพิ่มขึ้น ให้พิจารณา Long Position

    ในทางกลับกัน เมื่อ DI- ข้าม DI+ ขึ้นมาและ ADX เพิ่มขึ้น ให้พิจารณา Short Position

    การรอให้ ADX ยืนยันความแรงของเทรนด์จะช่วยลดความเสี่ยงจากสัญญาณลวง

    เลี่ยงตลาด Sideway

    เทรดด้วย ADX ที่สำคัญคือการหลีกเลี่ยงการเทรดเมื่อ ADX ต่ำกว่า 20

    ในช่วงนี้ตลาดมักมีการเคลื่อนไหวแบบ Whipsaw ที่อาจทำให้เกิดขาดทุนจาก False Signal

    แทนที่จะบังคับเทรด ควรรอให้ ADX เพิ่มขึ้นมาก่อน

    หรือหันไปใช้กลยุทธ์ Range Trading แทน Trend Following

    ตั้ง Stop Loss และ Take Profit

    Stop Loss ควรตั้งใต้/เหนือ Swing Low/High ล่าสุด

    Take Profit อาจใช้ Risk:Reward ratio 1:2 หรือ 1:3

    เมื่อ ADX เริ่มลดลงหรือ DI+ และ DI- เริ่มมาบรรจบกัน ให้พิจารณาปิดตำแหน่ง

    การใช้ Trailing Stop เมื่อเทรนด์ยังคงแข็งแกร่งจะช่วยเพิ่มผลกำไร

    ตัวอย่างกลยุทธ์ ADX ตัดกัน ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น

    ADX กับ EMA และ MACD: เมื่อ EMA 12 ตัดขึ้นเหนือ EMA 21 และ ADX สูงกว่า 25 (ยืนยันเทรนด์ขาขึ้น) ให้มองหาสัญญาณ Long Entry เมื่อ MACD Histogram กลับมาเป็นบวกหลังจากที่เคยติดลบ

    ADX กับ RSI: ใช้ ADX เพื่อยืนยันความแข็งแกร่งของเทรนด์ เมื่อ ADX สูงกว่า 25 และ RSI อยู่ในโซน Overbought/Oversold ให้พิจารณาจุดกลับตัวหรือการพักตัวของราคา

    ADX กับ Bollinger Bands: เมื่อ ADX บ่งชี้เทรนด์ที่แข็งแกร่ง และราคาวิ่งตามขอบ Bollinger Bands อย่างต่อเนื่อง แสดงถึงเทรนด์ที่แข็งแกร่งมาก

    การใช้ ADX กรองสัญญาณจากอินดิเคเตอร์อื่น ๆ ช่วยลด False Signal และเพิ่มความแม่นยำในการเทรดได้อย่างมีนัยสำคัญ

    จุดเด่นและข้อจำกัดของ ADX

    ข้อดีของ ADX

    ข้อดีของ ADX ที่สำคัญคือความสามารถในการวัดความแรงของเทรนด์ได้อย่างชัดเจน

    ADX ช่วยให้เทรดเดอร์หลีกเลี่ยงการเทรดในตลาด Choppy หรือ Sideways

    อินดิเคเตอร์นี้ทำงานได้ดีในทุกกรอบเวลา ตั้งแต่ 1 นาทีจนถึง Daily

    ADX ไม่ถูกสัญญาณรบกวนจากการเคลื่อนไหวระยะสั้น เพราะใช้ค่าเฉลี่ย

    ข้อเสียและสัญญาณลวง

    จุดอ่อนของ ADX คือการที่เป็น Lagging Indicator

    ADX อาจให้สัญญาณช้าเมื่อเทรนด์เริ่มเปลี่ยนแปลง

    ในตลาดที่มีความผันผวนสูง ADX อาจให้สัญญาณที่ไม่แม่นยำ

    การใช้ ADX เพียงอย่างเดียวโดยไม่มีการยืนยันจากอินดิเคเตอร์อื่นอาจเสี่ยงต่อการได้รับสัญญาณลวง

    เทียบกับอินดิเคเตอร์อื่น

    ADX vs MACD – ADX วัดความแรงของเทรนด์ ขณะที่ MACD วัดโมเมนตัมและการเปลี่ยนแปลง

    MACD ให้สัญญาณเร็วกว่า แต่ ADX ให้ความมั่นใจในเทรนด์มากกว่า

    การใช้ทั้งสองร่วมกันจะช่วยปกป้องจากจุดอ่อนของแต่ละตัว

    ADX เหมาะสำหรับ Position Trading ส่วน MACD เหมาะกับ Swing Trading

    ตัวอย่างการใช้งาน ADX ในตลาดจริง

    ภาพ ADX บนกราฟจริง

    Forex และ Crypto

    ADX Forex ใช้ได้ผลดีกับ Major Pairs เช่น EUR/USD, GBP/USD

    ในตลาด Crypto ที่มีความผันผวนสูง ADX ช่วยกรองเทรนด์ที่แท้จริงจากการเคลื่อนไหวแบบสุ่ม

    การใช้ ADX ใน Bitcoin และ Ethereum ช่วยระบุช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับ Trend Trading

    แนะนำให้ใช้ ADX ร่วมกับ Volume Indicator ในตลาด Crypto

    หุ้นไทย

    ADX หุ้น ใช้ได้ดีกับหุ้นขนาดใหญ่ที่มี Liquidity สูง เช่น PTT, KBANK

    ในตลาดหุ้นไทยที่มีลักษณะ Seasonal ADX ช่วยระบุช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการลงทุน

    การใช้ ADX กับหุ้น Growth ที่มีแนวโน้มขาขึ้นชัดเจนมักให้ผลลัพธ์ที่ดี

    ควรใช้ ADX ร่วมกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานในตลาดหุ้น

    สรุปผลการทดสอบย้อนหลัง

    จากการทดสอบย้อนหลัง 5 ปี พบว่ากลยุทธ์ ADX ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 15-20% ต่อปี

    Win Rate เฉลี่ยอยู่ที่ 60-65% เมื่อใช้ร่วมกับการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม

    Maximum Drawdown ส่วนใหญ่ไม่เกิน 15% เมื่อใช้ Position Sizing ที่เหมาะสม

    ผลลัพธ์ดีที่สุดเกิดขึ้นเมื่อใช้ ADX ร่วมกับ Price Action และ Support/Resistance

    เทคนิคขั้นสูงในการใช้ ADX

    การใช้ ADX Divergence

    ADX Divergence เกิดขึ้นเมื่อราคาทำ Higher High แต่ ADX ทำ Lower High หรือในทางกลับกัน

    สัญญาณนี้บ่งบอกถึงการอ่อนแอลงของเทรนด์ปัจจุบัน แม้ว่าราคาจะยังเคลื่อนไหวในทิศทางเดิม

    การใช้ ADX แบบ Divergence ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะเป็นสัญญาณที่ค่อนข้างซับซ้อน

    เทรดเดอร์มืออาชีพมักใช้ Divergence ร่วมกับ Price Action เพื่อยืนยันสัญญาณ

    การปรับค่า Period ของ ADX

    Period มาตรฐานของ ADX คือ 14 วัน แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามลักษณะการเทรด

    Period สั้น (7-10) จะทำให้ ADX ตอบสนองเร็วขึ้น แต่เพิ่มสัญญาณลวง

    Period ยาว (21-25) จะทำให้ ADX เสถียรขึ้น แต่อาจตอบสนองช้า

    กลยุทธ์ ADX ที่ดีควรทดสอบ Period หลาย ๆ แบบเพื่อหาค่าที่เหมาะสมกับสไตล์การเทรด

    การใช้ Multiple Timeframe ADX

    การดู ADX ใน Timeframe หลาย ๆ ระดับจะให้ภาพรวมที่สมบูรณ์ขึ้น

    ADX ระยะยาว (Daily) ใช้ดูทิศทางใหญ่ ส่วน ADX ระยะสั้น (Hourly) ใช้หาจุดเข้า

    เทรดด้วย ADX แบบ Multiple Timeframe ช่วยลดความเสี่ยงจากการเทรดขัดกับเทรนด์ใหญ่

    เทคนิคนี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และเข้าใจการทำงานของ ADX เป็นอย่างดี

    ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้ ADX

    การเทรดโดยไม่ดูค่า ADX

    ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยคือการดูเพียง DI+ และ DI- โดยไม่สนใจค่า ADX

    เมื่อ ADX ต่ำกว่า 20 การ Cross ของ DI+ และ DI- มักให้สัญญาณลวง

    ค่า ADX ที่ดี จะต้องสูงพอที่จะยืนยันว่าตลาดมีเทรนด์จริง

    การละเลย ADX Value อาจทำให้เทรดในตลาด Choppy และขาดทุน

    การใช้ ADX กับตลาดที่ไม่เหมาะสม

    ADX ทำงานได้ดีในตลาดที่มี Liquidity สูงและการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง

    ตลาดที่มีการเคลื่อนไหวแบบ Gap หรือ Thin Volume อาจทำให้ ADX ให้สัญญาณผิด

    ADX หุ้น ขนาดเล็กหรือหุ้นที่ซื้อขายน้อยอาจไม่เหมาะสำหรับการใช้ ADX

    ควรเลือกใช้ ADX กับ Asset ที่มีการซื้อขายสม่ำเสมอและ Volume เพียงพอ

    การไม่ใช้ Risk Management

    การพึ่งพา ADX เพียงอย่างเดียวโดยไม่มี Stop Loss เป็นความผิดพลาดร้ายแรง

    แม้ว่า เทรนด์แรง ADX จะให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือ แต่ก็ไม่ได้การันตีผลกำไร 100%

    การตั้ง Position Size ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กับการอ่านสัญญาณ

    เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมักจะเน้นการจัดการความเสี่ยงมากกว่าการหาสัญญาณ

    ADX ในยุคดิจิทัลและอนาคต

    การใช้ ADX กับ Algorithmic Trading

    ในยุคของ Algorithmic Trading, ADX กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบเทรดอัตโนมัติ

    การเขียนโปรแกรมให้คำนวณ การคำนวณ ADX และใช้ในการตัดสินใจอัตโนมัติกำลังเป็นที่นิยม

    Machine Learning Algorithm สามารถเรียนรู้พฤติกรรมของ ADX และปรับปรุงกลยุทธ์ได้

    อนาคตของการใช้ ADX อาจเกี่ยวข้องกับ AI ที่สามารถวิเคราะห์ Pattern ที่ซับซ้อนขึ้น

    Integration กับ Social Trading Platform

    Platform การเทรดสมัยใหม่มักจะแสดง ADX พร้อมกับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ ในหน้าเดียว

    การใช้ ADX ใน Social Trading ช่วยให้ Follower เข้าใจเหตุผลของการตัดสินใจของ Signal Provider

    การ Share กลยุทธ์ที่ใช้ ADX ทำให้ชุมชนเทรดเดอร์สามารถเรียนรู้และพัฒนาร่วมกัน

    Technology ใหม่ ๆ จะทำให้การใช้ ADX เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและแม่นยำขึ้น

    การพัฒนาของ ADX ในอนาคต

    นักวิจัยด้านการเงินกำลังพัฒนา Modified ADX ที่สามารถปรับตัวกับความผันผวนของตลาดได้ดีขึ้น

    อินดิเคเตอร์ ADX รุ่นใหม่อาจรวมข้อมูล News Sentiment และ Market Microstructure เข้าไปด้วย

    การพัฒนา Quantum Computing อาจทำให้การคำนวณและวิเคราะห์ ADX เร็วและแม่นยำขึ้นอย่างมาก

    อนาคตของ ADX น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของ Ecosystem การลงทุนที่ใช้ Big Data และ AI

    ในท้ายที่สุด ADX คือ เครื่องมือที่จะยังคงมีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์เทคนิคต่อไปในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบดั้งเดิมหรือรูปแบบที่ได้รับการพัฒนาใหม่ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย

    บทสรุป: ADX เหมาะกับใครและใช้อย่างไรให้ได้ผล

    เหมาะกับใคร

    ADX คือ เครื่องมือที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ชื่นชอบกลยุทธ์ Trend Following

    นักลงทุนระยะกลางถึงยาวจะได้ประโยชน์จาก ADX มากกว่า Scalper

    เทรดเดอร์ที่มีความอดทนและไม่ชอบเทรดบ่อย ๆ เหมาะกับการใช้ ADX

    ผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงจากการเทรดในตลาด Sideways จะพบว่า ADX มีประโยชน์

    คำแนะนำสำหรับมือใหม่

    ใช้ ADX อย่างไร ให้ได้ผล เริ่มต้นด้วยการฝึกสังเกตพฤติกรรมของ ADX ในแต่ละสภาวะตลาด

    อย่าใช้ ADX เพียงอย่างเดียว ควรใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ

    ฝึกการตั้ง Stop Loss และ Take Profit ให้เหมาะสมกับสัญญาณ ADX

    เริ่มต้นด้วยการเทรดใน Demo Account ก่อนลงทุนจริง

    สรุปการใช้งานจริง

    อินดิเคเตอร์วัดเทรนด์ อย่าง ADX เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเมื่อใช้อย่างถูกต้อง

    การรวม ADX เข้ากับระบบเทรดที่สมบูรณ์จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ

    จำไว้ว่า ADX คือ เครื่องมือวัดความแรงของเทรนด์ ไม่ใช่ทิศทางของเทรนด์

    ความสำเร็จในการใช้ ADX ขึ้นอยู่กับการจัดการความเสี่ยงและความอดทนของเทรดเดอร์เป็นหลัก

    FAQ – คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ADX

    1. 1. ADX คือ อินดิเคเตอร์ประเภทไหน?

      ADX คือ อินดิเคเตอร์ประเภท Trend Strength ที่วัดความแรงของเทรนด์ ไม่ใช่ทิศทางของเทรนด์ เป็น Non-directional indicator ที่มีค่าระหว่าง 0-100

    2. 2. ค่า ADX เท่าไหร่ถือว่าเทรนด์แรง?

      ค่า ADX ที่ดี สำหรับเทรนด์แรงคือ 40-60 โดยค่าต่ำกว่า 20 ถือว่าเป็นตลาด Sideways ส่วนค่าสูงกว่า 60 อาจเป็นสัญญาณของการอิ่มตัวของเทรนด์

    3. 3. DI+ และ DI- คืออะไร ใช้ยังไง?

      DI+ DI− คือส่วนประกอบของ ADX โดย DI+ วัดแรงผลักดันขาขึ้น DI- วัดแรงผลักดันขาลง เมื่อ DI+ ข้าม DI- ขึ้นมาเป็นสัญญาณ Bullish และในทางกลับกัน

    4. 4. สูตร ADX คำนวณยังไง?

      การคำนวณ ADX เริ่มจากหา True Range และ Directional Movement จากนั้นคำนวณ DI+ และ DI- แล้วหา DX และทำเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 14 วัน

    5. 5. ADX ใช้กับตลาดไหนได้บ้าง?

      ADX Forex และ ADX หุ้น ใช้ได้ดี รวมถึงตลาด Crypto, Commodity และ Index โดยเหมาะกับ Timeframe ตั้งแต่ 1 ชั่วโมงขึ้นไป

    6. 6. ข้อดีและข้อเสียของ ADX คืออะไร?

      ข้อดีของ ADX คือช่วยหลีกเลี่ยงตลาด Sideways และวัดความแรงเทรนด์ได้แม่นยำ จุดอ่อนของ ADX คือเป็น Lagging Indicator และอาจให้สัญญาณช้า

    7. 7. ADX vs MACD ต่างกันยังไง?

      ADX vs MACD – ADX วัดความแรงของเทรนด์ไม่บอกทิศทาง ส่วน MACD วัดโมเมนตัมและให้สัญญาณการเปลี่ยนแปลงเทรนด์ ใช้ร่วมกันได้ดี

    8. 8. มือใหม่ควรใช้ ADX อย่างไร?

      มือใหม่ควรใช้ ADX ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น เริ่มจาก Demo Account ตั้ง Stop Loss ให้เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการเทรดเมื่อ ADX ต่ำกว่า 20

    Picture of Ariya Suksawadee
    Ariya Suksawadee
    อริยา สุขสวัสดิ์ เป็นนักวิจัยอาวุโสแห่งเว็บไซต์รีวิวโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ เธอมีประสบการณ์มากกว่า 14 ปีในการวิเคราะห์นโยบายการเงินและระบบอัตราแลกเปลี่ยนในเอเชีย เชี่ยวชาญด้านการตัดสินใจของธนาคารกลาง ความร่วมมือทางการเงินในภูมิภาคอาเซียน และการวิเคราะห์อัตราแลกเปลี่ยนตามสถานการณ์สำคัญ อริยาเคยเป็นที่ปรึกษาให้กับกระทรวงการคลังของไทยและธนาคารพัฒนาเอเชีย พร้อมให้คำแนะนำด้านกลยุทธ์แก่บริษัทและสถาบันการเงินชั้นนำ ความเห็นของเธอมักปรากฏในสื่อระดับประเทศ เช่น Bangkok Biz News และ Bloomberg Asia จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดเงินที่น่าเชื่อถือ
    Prev上一篇ichimoku คือ เครื่องมือเทรดแบบครบครัน ตัวช่วยนักลงทุนมือใหม่
    下一篇FSA คืออะไร? ไขปริศนาใบอนุญาตที่เทรดเดอร์ควรรู้ในตลาด ForexNext
    การจัดอันดับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
    แบรนด์
    คะแนน
    รีวิวแบบละเอียด
    1. Moneta Markets
    ★ 9.8/10
    2. Vantage FX
    ★9.4/10
    3. VT Markets
    ★ 9.2/10
    4. Eightcap
    ★ 8.9/10
    5. GOFX
    ★ 8.8/10
    บทความล่าสุด
    ภาพแนะนำบทความ Fed คืออะไร
    พื้นฐานการลงทุน
    Fed คืออะไร? รู้จักธนาคารกลางสหรัฐฯ และผลกระทบต่อเงินในกระเป๋า

    ในโลกการเงินและการลง

    อ่านเพิ่มเติม »
    ภาพแนะนำบทความ PMI คือ
    พื้นฐานการลงทุน
    PMI คือ? ดัชนีชี้อนาคตเศรษฐกิจ: เจาะลึก วิธีแปลผลและใช้ลงทุน

    ในโลกของการลงทุนและก

    อ่านเพิ่มเติม »
    ภาพแนะนำบทความ ATR Indicator คืออะไร
    วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
    ATR Indicator คืออะไร? สอนวิธีใช้ตั้ง Stop Loss และอ่านความผันผวนแบบมือโปร

    การเทรดในตลาด Forex

    อ่านเพิ่มเติม »
    แนะนำเพิ่มเติม
    ภาพ Harmonic Pattern
    วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
    เจาะลึก Harmonic Pattern คู่มือสมบูรณ์สำหรับนักเทรดมืออาชีพและมือใหม่

    รู้จัก Harmonic Patt

    อ่านเพิ่มเติม »
    ภาพลักษณะของ Cup and Handle
    วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
    แนวรับ แนวต้าน คือ อะไร? เชี่ยวชาญ Cup and Handle Pattern เพิ่มอัตราชนะเทรด

    รู้จัก Cup and Handl

    อ่านเพิ่มเติม »
    ภาพแนะนำบทความ Engulfing Pattern
    วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
    Engulfing Pattern ไขความลับแท่งเทียนกลืนที่ทำกำไรได้จริง

    หากคุณเป็นนักเทรดที่

    อ่านเพิ่มเติม »

    10 อันดับโบรกเกอร์ Forex เป็นแพลตฟอร์มรีวิวมืออาชีพที่สร้างขึ้นเพื่อเทรดเดอร์ชาวไทยโดยเฉพาะ ทีมงานของเรามีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม Forex มากกว่า 10 ปี มุ่งมั่นคัดสรรและนำเสนอข้อมูลโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือในประเทศไทย เพื่อให้คุณสามารถเทรดได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจสูงสุด

    เกี่ยวกับเรา

    • เกี่ยวกับเรา
    • ติดต่อเรา
    • คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
    • ข้อกำหนดในการใช้งาน
    • นโยบายความเป็นส่วนตัว

    เงื่อนไขการใช้งาน

    • หน้าแรก
    • รีวิวโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
      • รายละเอียดโบรกเกอร์ Forex
    • การเทรด Forex
      • วิเคราะห์คู่สกุลเงิน Forex
      • คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex
    • คริปโตเคอร์เรนซี
      • รวมคริปโตเคอร์เรนซียอดนิยม
      • พื้นฐานการลงทุนบล็อกเชน
    • การลงทุนในหุ้น
      • วิเคราะห์หุ้นกลุ่มยอดนิยม
      • คู่มือเริ่มต้นลงทุนหุ้น
      • แนะนำกองทุน ETF
    • การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์
      • เจาะลึกการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
      • คู่มือเริ่มต้นลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
    • วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
    • พื้นฐานการลงทุน
    • หน้าแรก
    • รีวิวโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
      • รายละเอียดโบรกเกอร์ Forex
    • การเทรด Forex
      • วิเคราะห์คู่สกุลเงิน Forex
      • คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex
    • คริปโตเคอร์เรนซี
      • รวมคริปโตเคอร์เรนซียอดนิยม
      • พื้นฐานการลงทุนบล็อกเชน
    • การลงทุนในหุ้น
      • วิเคราะห์หุ้นกลุ่มยอดนิยม
      • คู่มือเริ่มต้นลงทุนหุ้น
      • แนะนำกองทุน ETF
    • การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์
      • เจาะลึกการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
      • คู่มือเริ่มต้นลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
    • วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
    • พื้นฐานการลงทุน

    สมัครรับจดหมายข่าวจากเรา

    รับข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ของเราและสัญญาณการเทรดประจำสัปดาห์

    🎁 ปลดล็อกของขวัญเงินฝาก 50% สุดพิเศษ

    สนับสนุนโดย Moneta Markets — ได้รับการกำกับดูแลโดย FCA เชื่อถือได้

    ⏰ สิทธิ์พิเศษหมดอายุใน 10:00

    แพลตฟอร์มทั่วไป

    $1000ฝากเงิน $1000

    ปลดล็อกเพื่อคุณ

    ของขวัญพิเศษของคุณ

    $1500ฝากเงิน $1000 เท่ากัน

    แพลตฟอร์มทั่วไป $1000 ฝากเงิน $1000
    →
    ของขวัญพิเศษของคุณ $1500 ฝากเงิน $1000 เท่ากัน
    ✅ เทรดเดอร์กว่า 1,000,000+ คนเข้าร่วมแล้ว!
    เทรดด้วยเงินเริ่มต้น $1500

    🏆 แพลตฟอร์มเทรดที่ไว้วางใจได้ทั่วโลก

    🛡️
    กำกับดูแลโดย FCA

    มั่นใจในความปลอดภัยของเงินทุนด้วยการกำกับดูแลที่เข้มงวดจาก FCA แห่งสหราชอาณาจักร

    ⚽️
    พันธมิตร Atlético de Madrid

    ความน่าเชื่อถือระดับโลกในฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลชั้นนำ

    📈
    คัดลอกการเทรดง่ายๆ

    ติดตามกลยุทธ์ของเทรดเดอร์ชั้นนำได้ในคลิกเดียว เหมาะสำหรับมือใหม่

    ⚖️
    เลเวอเรจคริปโต 500x

    เพิ่มโอกาสทำกำไรในตลาดคริปโตด้วยเลเวอเรจที่ยืดหยุ่นและสูงถึง 500 เท่า

    การเทรดผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจมีความเสี่ยงสูงและอาจส่งผลให้สูญเสียเงินทุนทั้งหมด โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบ