Heiken Ashi คืออะไร? พื้นฐานที่เทรดเดอร์ต้องเข้าใจ
Heiken Ashi คือ เทคนิคการแสดงผลกราฟแท่งเทียนแบบปรับปรุงจากแบบดั้งเดิม โดยใช้การคำนวณค่าเฉลี่ยของราคาเพื่อให้ดูแนวโน้มของตลาดได้ชัดเจนขึ้น
คำว่า “Heiken Ashi” มาจากภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า “แท่งเทียนเฉลี่ย” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงหลักการทำงานของมัน
กราห Heiken Ashi ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาความรกรุงรังของกราฟแท่งเทียนธรรมดา โดยช่วยกรองสัญญาณรบกวนที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้เทรดเดอร์สามารถมองเห็นทิศทางของแนวโน้มได้ง่ายขึ้น
จุดเด่นหลักของ Heiken Ashi คือ ช่วยให้ผู้เทรดสามารถระบุแนวโน้มและจุดกลับตัวได้แม่นยำมากขึ้น เนื่องจากมันใช้ข้อมูลราคาที่ผ่านการปรับปรุงแล้ว
การใช้ กราฟ Heiken Ashi จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทั้งนักเทรดมือใหม่และมืออาชีพที่ต้องการเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์แนวโน้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประวัติและที่มาของ Heiken Ashi
Heiken Ashi หรือที่บางครั้งสะกดว่า Heikin Ashi มีความหมายในภาษาญี่ปุ่นว่า “แท่งเทียนเฉลี่ย” เทคนิคการวิเคราะห์กราฟนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดย มูเนฮิสะ ฮอมมะ (Munehisa Homma) ในช่วงศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันกับที่คิดค้นกราฟแท่งเทียนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
จุดประสงค์หลักของการพัฒนา Heiken Ashi คือเพื่อช่วยให้นักเทรดสามารถมองเห็นแนวโน้มของตลาดได้ชัดเจนขึ้น โดยการกรองสัญญาณรบกวน (Noise) ที่มักเกิดขึ้นในกราฟแท่งเทียนปกติออกไป ทำให้การตัดสินใจเทรดง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น
หลักการทำงานของ Heiken Ashi
การคำนวณของ Heiken Ashi
สูตร Heiken Ashi ประกอบด้วยการคำนวณ 4 ค่าหลัก ซึ่งแตกต่างจากแท่งเทียนธรรมดาอย่างสิ้นเชิง:
องค์ประกอบ
|
สูตรการคำนวณ
|
---|
Open
|
(Open + Close ของแท่งก่อนหน้า) ÷ 2
|
---|
Close
|
(Open + High + Low + Close ปัจจุบัน) ÷ 4
|
---|
High
|
ค่าสูงสุดจาก High, Open, Close ปัจจุบัน
|
---|
Low
|
ค่าต่ำสุดจาก Low, Open, Close ปัจจุบัน
|
---|
การคำนวณแบบนี้ทำให้ Heiken Ashi ไม่แสดงราคาที่แท้จริง แต่จะแสดงค่าเฉลี่ยที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว
ความแตกต่าง Heiken Ashi กับแท่งเทียนธรรมดาคือ ราคาเปิดของแท่งใหม่จะเป็นจุดกึ่งกลางของแท่งก่อนหน้า ไม่ใช่ราคาเปิดที่แท้จริง
ความแตกต่างจากกราฟแท่งเทียนทั่วไป
กราฟแท่งเทียนธรรมดาแสดงข้อมูลราคาที่แท้จริงในแต่ละช่วงเวลา แต่ Heiken Ashi จะนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุงเพื่อให้ดูแนวโน้มได้ชัดเจนขึ้น
ความแตกต่าง Heiken Ashi ที่สำคัญ:
- แท่งเทียนมีความต่อเนื่องมากกว่า
- สัญญาณรบกวนลดลง
- การระบุแนวโน้มทำได้ง่ายขึ้น
- ไม่แสดงราคาที่แท้จริง
การที่ Heiken Ashi ไม่แสดงราคาจริง อาจดูเป็นข้อเสีย แต่กลับเป็นจุดแข็งในการวิเคราะห์แนวโน้ม
ข้อดีในการใช้งาน Heiken Ashi
ข้อดีของ Heiken Ashi ที่โดดเด่นมากที่สุดคือ การลดสัญญาณรบกวนในตลาด ทำให้เทรดเดอร์มองเห็นภาพรวมของแนวโน้มได้ชัดเจนขึ้น
ข้อดีหลักๆ ได้แก่:
- ช่วยระบุแนวโน้มได้ง่ายและแม่นยำ
- ลดความสับสนจากการเปลี่ยนแปลงราคาแบบวูบวาบ
- เหมาะสำหรับการเทรดตามแนวโน้ม (Trend Following)
- ง่ายต่อการเข้าใจสำหรับมือใหม่
ข้อดีของ Heiken Ashi ยังรวมถึงการที่มันช่วยให้เทรดเดอร์มีความมั่นใจมากขึ้นในการเปิดโพซิชั่น เพราะสัญญาณที่ได้มีความชัดเจนกว่า
นอกจากนี้ Heiken Ashi ยังช่วยลดความเครียดในการเทรด เนื่องจากแนวโน้มที่ปรากฏในกราฟมีความราบรื่นและไม่วูบวาบเหมือนแท่งเทียนธรรมดา
วิธีอ่านกราฟ Heiken Ashi อย่างมืออาชีพ
วิธีดูแท่งเทียนขึ้นและลง
วิธีอ่าน Heiken Ashi เริ่มต้นจากการเข้าใจสีและรูปร่างของแท่งเทียน ซึ่งจะบอกทิศทางของแนวโน้มได้อย่างชัดเจน
แท่งเทียนสีเขียว (หรือขาว) หมายถึงแนวโน้มขึ้น และแท่งเทียนสีแดง (หรือดำ) หมายถึงแนวโน้มลง
ความพิเศษของ Heiken Ashi คือ หางของแท่งเทียนจะบอกความแข็งแกร่งของแนวโน้ม:
- แท่งไม่มีหางด้านล่าง = แนวโน้มขึ้นแข็งแกร่ง
- แท่งไม่มีหางด้านบน = แนวโน้มลงแข็งแกร่ง
- แท่งมีหางทั้งสองด้าน = แนวโน้มไม่ชัดเจน
วิธีอ่าน Heiken Ashi ยังสามารถบอกความต่อเนื่องของแนวโน้มได้ ถ้าแท่งเทียนมีสีเดียวกันติดต่อกันหลายแท่ง แสดงว่าแนวโน้มนั้นมีความแข็งแกร่ง
สัญญาณกลับตัวจาก Heiken Ashi
สัญญาณ Heiken Ashi ที่สำคัญที่สุดคือการเปลี่ยนสีของแท่งเทียน ซึ่งบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม
สัญญาณกลับตัวที่ควรจับตา:
- แท่งเทียนเปลี่ยนจากเขียวเป็นแดง
- แท่งเทียนเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียว
- แท่งเทียนที่มี Doji (เปิด-ปิดใกล้เคียงกัน)
- การปรากฏของหางยาวผิดปกติ
สัญญาณ Heiken Ashi จะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น หากมีการยืนยันจากแท่งเทียนถัดไป หรือจากอินดิเคเตอร์อื่นๆ
การเปลี่ยนสีของแท่งเทียนเพียงแท่งเดียวอาจยังไม่เพียงพอ ควรรอให้แท่งต่อไปยืนยันสัญญาณ
การยืนยันแนวโน้ม
Heiken Ashi แนวโน้ม ที่แข็งแกร่งจะมีลักษณะที่ชัดเจน โดยแท่งเทียนจะมีสีเดียวกันติดต่อกันหลายแท่ง
เครื่องหมายของแนวโน้มที่แข็งแกร่ง:
- แท่งเทียนสีเดียวกัน 3-5 แท่งติดต่อกัน
- ขนาดของแท่งเทียนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
- หางของแท่งเทียนสั้นลง
- ไม่มีการย้อนกลับที่รุนแรง
Heiken Ashi แนวโน้ม ที่กำลังจะสิ้นสุดจะแสดงสัญญาณเตือนก่อน เช่น แท่งเทียนเริ่มมีหางยาวขึ้น หรือขนาดของแท่งเทียนเริ่มเล็กลง
การใช้ Heiken Ashi ร่วมกับ Support และ Resistance จะช่วยยืนยันแนวโน้มได้ดียิ่งขึ้น
ประเภทของแท่งเทียน Heiken Ashi และการตีความเชิงลึก
นอกจากการดูสีและหางของแท่งเทียนแล้ว การทำความเข้าใจประเภทของแท่งเทียน Heiken Ashi ยังช่วยให้การตีความสัญญาณมีความละเอียดและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
- แท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Bar): แท่งเทียนสีเขียว (หรือขาว) ที่มีไส้เทียนเฉพาะด้านบนเท่านั้น บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งและต่อเนื่อง ยิ่งลำตัวแท่งเทียนยาวเท่าไหร่ ยิ่งแสดงถึงแรงซื้อที่มากและแนวโน้มที่แข็งแกร่ง
- แท่งเทียนขาลง (Bearish Bar): แท่งเทียนสีแดง (หรือดำ) ที่มีไส้เทียนเฉพาะด้านล่างเท่านั้น บ่งบอกถึงแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่งและต่อเนื่อง ยิ่งลำตัวแท่งเทียนยาวเท่าไหร่ ยิ่งแสดงถึงแรงขายที่มากและแนวโน้มที่แข็งแกร่ง
- แท่งเทียนไม่ตัดสินใจ (Indecision Bar): แท่งเทียนที่มีลำตัวเล็กและมีไส้เทียนทั้งด้านบนและด้านล่าง บ่งบอกถึงความไม่ชัดเจนของทิศทางตลาด หรือการที่แรงซื้อและแรงขายกำลังต่อสู้กันอย่างสูสี แท่งเทียนประเภทนี้มักปรากฏขึ้นเมื่อแนวโน้มกำลังจะอ่อนแรงลง หรืออาจเกิดการกลับตัว
- การปรากฏของแท่ง Doji ซึ่งมีราคาเปิดและปิดใกล้เคียงกันมาก ก็เป็นสัญญาณหนึ่งของ Indecision Bar ที่บ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนของตลาด
การสังเกตขนาดของลำตัวแท่งเทียนและไส้เทียนยังเป็นสิ่งสำคัญ:
- ลำตัวแท่งเทียนยาว: แสดงถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่งและมีโมเมนตัมสูง
- ลำตัวแท่งเทียนสั้น: แสดงถึงแนวโน้มที่อ่อนแรงลง หรืออาจเกิดการพักตัว/กลับตัว
- ไส้เทียนยาวผิดปกติ: โดยเฉพาะเมื่อปรากฏหลังจากแนวโน้มที่ยาวนาน อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการกลับตัวของแนวโน้ม
เปรียบเทียบ Heiken Ashi กับแท่งเทียนธรรมดา
เปรียบเทียบการมองเห็นแนวโน้ม
Heiken Ashi กับ แท่งเทียน แบบดั้งเดิมมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในการแสดงข้อมูลราคา
กราฟแท่งเทียนธรรมดาจะแสดงข้อมูลราคาที่แท้จริง ทำให้มีความผันผวนสูง และบางครั้งอาจทำให้เกิดความสับสนในการอ่านแนวโน้ม
ในขณะที่ Heiken Ashi กับ แท่งเทียน ธรรมดาเมื่อเปรียบเทียบกัน จะเห็นว่า Heiken Ashi ให้ภาพที่ราบรื่นและต่อเนื่องกว่า
ข้อดีของ Heiken Ashi ในการมองแนวโน้ม:
- ลดสัญญาณรบกวนได้มาก
- แนวโน้มมีความชัดเจนขึ้น
- ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ-ขาย
- เหมาะสำหรับ Swing Trading
แต่ในทางกลับกัน แท่งเทียนธรรมดาก็มีข้อดีในการแสดงราคาที่แท้จริง ทำให้เหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้น
การใช้งานในกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน
เปรียบเทียบ Heiken Ashi กับแท่งเทียนธรรมดาในด้านการใช้งาน จะพบว่าแต่ละแบบเหมาะกับกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน
Heiken Ashi เหมาะสำหรับ:
- Trend Following Strategy
- Swing Trading
- Position Trading
- การเทรดระยะยาว
แท่งเทียนธรรมดาเหมาะสำหรับ:
- Scalping
- Day Trading
- การเทรดแบบ Contrarian
- การหา Entry Point ที่แม่นยำ
เปรียบเทียบ Heiken Ashi ยังแสดงให้เห็นว่า มันไม่เหมาะสำหรับการใช้กับแพทเทิร์นแท่งเทียนแบบดั้งเดิม เพราะแท่งเทียนไม่ได้แสดงราคาจริง
การเลือกใช้ระหว่าง Heiken Ashi และแท่งเทียนธรรมดาควรพิจารณาจากสไตล์การเทรดและ Time Frame ที่ใช้
กลยุทธ์การเทรดด้วย Heiken Ashi
กลยุทธ์ตามแนวโน้ม
กลยุทธ์ Heiken Ashi แบบตามแนวโน้มเป็นวิธีการเทรดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากตรงกับจุดแข็งของ Heiken Ashi
ขั้นตอนการเทรดตามแนวโน้ม:
- ระบุแนวโน้ม – รอให้มีแท่งเทียนสีเดียวกัน 3 แท่งติดต่อกัน
- รอสัญญาณเข้า – เข้าซื้อเมื่อแท่งเทียนสีเขียวปรากฏ หรือขายเมื่อแท่งสีแดงปรากฏ
- วาง Stop Loss – ใต้/เหนือแท่งเทียนที่มีหางยาวล่าสุด
- ออกจากตลาด – เมื่อแท่งเทียนเปลี่ยนสี
กลยุทธ์ Heiken Ashi แบบนี้เหมาะกับตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน และ Time Frame ตั้งแต่ H1 ขึ้นไป
การใช้ Moving Average ร่วมกับ Heiken Ashi จะช่วยยืนยันแนวโน้มได้ดียิ่งขึ้น
กลยุทธ์กลับตัว
กลยุทธ์การเทรดกลับตัวด้วย Heiken Ashi ต้องการความระมัดระวังมากกว่า เนื่องจากสัญญาณอาจช้ากว่าแท่งเทียนธรรมดา
สัญญาณกลับตัวที่ควรจับตา:
- การเปลี่ยนสีของแท่งเทียนหลังจากแนวโน้มยาวนาน
- การปรากฏของแท่งเทียนที่มีหางยาวผิดปกติ
- การที่แท่งเทียนเริ่มเล็กลงหลังจากใหญ่มาก
- การเกิด Doji หลังจากแนวโน้มแข็งแกร่ง
การเทรดกลับตัวควรใช้ Position Size ที่เล็กกว่าปกติ เนื่องจากความเสี่ยงสูงกว่า
การใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น
อินดิเคเตอร์ Heiken Ashi ทำงานได้ดีเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ
อินดิเคเตอร์ที่เข้ากันดีกับ Heiken Ashi:
- RSI – ช่วยระบุภาวะ Overbought/Oversold
- MACD – ยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
- Bollinger Bands – ระบุ Support/Resistance
- Volume – ยืนยันความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหว
วิธีเทรด Heiken Ashi ร่วมกับ RSI เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม โดยใช้ RSI เพื่อกรอง Entry ที่มีความเสี่ยงสูง
การใช้ Moving Average หลายเส้นร่วมกับ Heiken Ashi จะช่วยระบุ Support และ Resistance ได้ดี
อินดิเคเตอร์ Heiken Ashi เมื่อใช้ร่วมกับ Volume จะช่วยยืนยันการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดีและข้อจำกัดของ Heiken Ashi
จุดแข็งของ Heiken Ashi
ข้อดี Heiken Ashi ที่โดดเด่นที่สุดคือ ความสามารถในการกรองสัญญาณรบกวนออกจากกราฟ ทำให้เทรดเดอร์สามารถมองเห็นแนวโน้มได้ชัดเจนขึ้น
จุดแข็งหลักๆ ของ Heiken Ashi:
ความง่ายในการใช้งาน – เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเทรด เนื่องจากสัญญาณมีความชัดเจน ไม่ซับซ้อนเหมือนแพทเทิร์นแท่งเทียนธรรมดา
การลดความเครียด – แนวโน้มที่ราบรื่นช่วยให้เทรดเดอร์มีความมั่นใจมากขึ้น และลดการตัดสินใจแบบหุนหันพลันแล่น
ประสิทธิภาพในการตาม Trend – เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเทรดตามแนวโน้ม ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถ Hold Position ได้นานขึ้น
ข้อดี Heiken Ashi ยังรวมถึงการที่มันช่วยระบุจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของแนวโน้มได้ดีกว่าแท่งเทียนธรรมดา
ข้อควรระวังหรือข้อจำกัดในการใช้งาน
ข้อเสีย Heiken Ashi ที่สำคัญที่สุดคือ การที่มันไม่แสดงราคาที่แท้จริง ทำให้ไม่เหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้น
ข้อจำกัดหลักของ Heiken Ashi:
Lag หรือความล่าช้า – สัญญาณที่ได้จาก Heiken Ashi มักจะช้ากว่าแท่งเทียนธรรมดา เนื่องจากใช้ค่าเฉลี่ย
ไม่เหมาะกับ Scalping – เนื่องจากไม่แสดงราคาจริง จึงไม่เหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้นมาก
ข้อมูลราคาไม่ครบถ้วน – บางข้อมูลราคาที่สำคัญอาจหายไปเนื่องจากการเฉลี่ย
ข้อเสีย Heiken Ashi ยังรวมถึงการที่แพทเทิร์นแท่งเทียนแบบดั้งเดิมใช้ไม่ได้ เพราะรูปร่างของแท่งเทียนถูกปรับเปลี่ยนไปแล้ว
เทรดเดอร์ควรเข้าใจข้อจำกัดเหล่านี้ และใช้ Heiken Ashi ในสถานการณ์ที่เหมาะสม
ตารางสรุปข้อดีและข้อจำกัดของ Heiken Ashi
ข้อดีของ Heiken Ashi
|
ข้อจำกัดของ Heiken Ashi
|
---|
ลดสัญญาณรบกวนในตลาด ทำให้มองเห็นแนวโน้มชัดเจน
|
สัญญาณมีความล่าช้า (Lag) เนื่องจากใช้ค่าเฉลี่ยของข้อมูลราคาในอดีต
|
---|
ระบุแนวโน้มและจุดกลับตัวได้ง่ายและแม่นยำขึ้น
|
ไม่แสดงราคาที่แท้จริงของสินทรัพย์ ทำให้ไม่เหมาะกับการเทรดที่ต้องการความแม่นยำของราคาจริง เช่น Scalping
|
---|
เหมาะสำหรับการเทรดตามแนวโน้ม (Trend Following) และการถือโพซิชั่นระยะยาว
|
แพทเทิร์นแท่งเทียนแบบดั้งเดิม (เช่น Engulfing, Hammer) อาจใช้ไม่ได้ผล หรือต้องตีความต่างออกไป
|
---|
ง่ายต่อการเข้าใจสำหรับมือใหม่ เนื่องจากกราฟมีความราบรื่น
|
ไม่มี Gap ราคา ซึ่งนักเทรดบางคนใช้ในการวิเคราะห์โมเมนตัมหรือจุดเข้า/ออก
|
---|
ช่วยลดความเครียดในการเทรด เนื่องจากแนวโน้มมีความต่อเนื่อง ไม่วูบวาบ
|
อาจไม่เหมาะกับตลาดที่มีความผันผวนสูงมาก หรือมีสภาพคล่องต่ำ ซึ่งอาจทำให้สัญญาณไม่น่าเชื่อถือ
|
---|
ตัวอย่างการใช้งานจริงและการวิเคราะห์กราฟ
ตัวอย่างการใช้งานใน Forex
Heiken Ashi Forex เป็นการใช้งานที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากตลาด Forex มีการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่องและมีแนวโน้มชัดเจน
ในตลาด EUR/USD เมื่อเกิดแนวโน้มขาขึ้น เราจะเห็นแท่งเทียนสีเขียวติดต่อกันหลายแท่ง โดยมีหางสั้นหรือไม่มีหางเลย
การเทรด Heiken Ashi Forex ใน Time Frame H4:
- รอให้มีแท่งเทียนสีเดียวกัน 3 แท่งติดต่อกัน
- เข้าซื้อเมื่อแท่งเทียนสีเขียวปรากฏหลังจากแท่งสีแดง
- วาง Stop Loss ห่างจากแท่งเทียนล่าสุด 20-30 pips
- ตั้ง Take Profit เป็น 2-3 เท่าของ Stop Loss
ตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จใน Heiken Ashi Forex มักเกิดขึ้นในช่วงที่มีข่าวสำคัญ หรือในช่วงเซสชั่นการเทรดหลัก
ตัวอย่างในตลาด Crypto
Heiken Ashi Crypto มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากตลาด Crypto มีความผันผวนสูง และมีแนวโน้มที่ชัดเจน
ในกรณีของ Bitcoin เมื่อเกิด Bull Market เราจะเห็นแท่งเทียน Heiken Ashi สีเขียวติดต่อกันเป็นเดือน
การใช้ Heiken Ashi Crypto ใน Time Frame Daily:
- ใช้สำหรับ Position Trading ระยะยาว
- เข้า Long เมื่อแท่งเทียนเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียว
- Hold Position จนกว่าแท่งเทียนจะเปลี่ยนสีกลับ
- ใช้ DCA (Dollar Cost Averaging) เมื่อมีสัญญาณเข้า
Heiken Ashi Crypto เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนใน Altcoin ที่มีแนวโน้มขาขึ้นระยะยาว
กรณีศึกษาแนวโน้มจริง
กรณีศึกษาที่น่าสนใจคือการใช้ Heiken Ashi ในช่วง COVID-19 เมื่อตลาดหุ้นมีการปรับตัวครั้งใหญ่
ในช่วงเดือนมีนาคม 2020 กราฟ Heiken Ashi ของ S&P 500 แสดงแท่งเทียนสีแดงติดต่อกันหลายแท่ง บ่งบอกถึงแนวโน้มลงที่รุนแรง
เทรดเดอร์ที่ใช้ Heiken Ashi สามารถ:
- ระบุจุดเริ่มต้นของการปรับตัวลงได้เร็ว
- Hold Short Position ได้นานขึ้นโดยไม่ถูกสัญญาณรบกวนหลอก
- ระบุจุดกลับตัวเมื่อตลาดเริ่มฟื้นตัวในเดือนเมษายน
หลังจากนั้นในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2020 กราฟ Heiken Ashi เริ่มแสดงแท่งเทียนสีเขียว บ่งบอกถึงการเริ่มต้นของ Bull Market ที่ยาวนาน
การศึกษากรณีนี้แสดงให้เห็นว่า Heiken Ashi สามารถช่วยเทรดเดอร์ในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างอื่นที่น่าสนใจคือการใช้ Heiken Ashi ในตลาดทองคำ ซึ่งมีแนวโน้มที่ชัดเจนและเหมาะกับการเทรดระยะยาว
สรุป: ควรใช้ Heiken Ashi หรือไม่?
เหมาะกับใคร
Heiken Ashi เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับเทรดเดอร์หลายประเภท โดยเฉพาะผู้ที่มีสไตล์การเทรดดังต่อไปนี้:
เทรดเดอร์มือใหม่ – ความเรียบง่ายของ Heiken Ashi ทำให้ผู้เริ่มต้นสามารถเข้าใจและใช้งานได้ง่าย โดยไม่ต้องเรียนรู้แพทเทิร์นแท่งเทียนที่ซับซ้อน
Swing Trader – ผู้ที่ชอบถือโพซิชั่นเป็นวันหรือสัปดาห์จะได้ประโยชน์จากการมองเห็นแนวโน้มที่ชัดเจน
Position Trader – นักลงทุนระยะยาวสามารถใช้ Heiken Ashi เพื่อระบุจุดเข้าและออกจากตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทรดเดอร์ที่มีปัญหาเรื่องอารมณ์ – การที่ Heiken Ashi ให้สัญญาณที่ชัดเจนช่วยลดความเครียดและการตัดสินใจแบบหุนหันพลันแล่น
แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น
เริ่มต้นใช้ Heiken Ashi ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจพื้นฐานก่อน
ขั้นตอนการเริ่มต้น:
- ศึกษาทฤษฎี – เข้าใจหลักการทำงานและข้อดี-ข้อเสียของ Heiken Ashi
- ฝึกฝนใน Demo – ใช้บัญชี Demo เพื่อทดลองใช้งานโดยไม่มีความเสี่ยง
- เริ่มจาก Time Frame ใหญ่ – ใช้ H4 หรือ Daily ก่อน เพราะสัญญาณชัดเจนกว่า
- ใช้ Position Size เล็ก – เมื่อเริ่มเทรดจริง ควรใช้ขนาดโพซิชั่นที่เล็ก
เริ่มต้นใช้ Heiken Ashi ควรมีการวางแผนการจัดการความเสี่ยงที่ชัดเจน โดยกำหนด Stop Loss และ Take Profit ทุกครั้ง
การเรียนรู้จากผิดพลาดเป็นสิ่งสำคัญ ควรจดบันทึกการเทรดและวิเคราะห์ผลลัพธ์อย่างสม่ำเสมอ
ข้อเสนอแนะจากนักเทรดมืออาชีพ
นักเทรดมืออาชีพส่วนใหญ่แนะนำให้ใช้ Heiken Ashi เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่เครื่องมือหลักเพียงอย่างเดียว
คำแนะนำจากมืออาชีพ:
ใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น – Heiken Ashi ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อใช้ร่วมกับ Support/Resistance, Moving Average, หรือ RSI
เลือก Time Frame ที่เหมาะสม – H1 ขึ้นไปจะให้สัญญาณที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่า M15 หรือ M5
ไม่ใช้กับทุกตลาด – บางตลาดที่มี Gap บ่อยหรือ Low Liquidity อาจไม่เหมาะกับ Heiken Ashi
จัดการความเสี่ยงอย่างเข้มงวด – แม้ Heiken Ashi จะช่วยลดสัญญาณรบกวน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงเหมือนเดิม
Heiken Ashi คือ เครื่องมือที่มีประโยชน์มาก หากใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม แต่ไม่ใช่เครื่องมือวิเศษที่รับประกันกำไร
การพัฒนาทักษะการเทรดต้องอาศัยเวลาและประสบการณ์ Heiken Ashi เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเรียนรู้การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ในท้ายที่สุด ความสำเร็จในการเทรดขึ้นอยู่กับการมีระเบียบวินัย การจัดการความเสี่ยง และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มากกว่าการเลือกใช้เครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่ง
FAQ (คำถามที่พบบ่อย)
Q: Heiken Ashi คือ อะไร?
A: Heiken Ashi คือเทคนิคการแสดงผลกราฟแท่งเทียนที่ใช้ค่าเฉลี่ยของราคา เพื่อให้ดูแนวโน้มได้ชัดเจนและลดสัญญาณรบกวน
Q: ข้อดีหลักของ Heiken Ashi คืออะไร?
A: ข้อดีหลักคือการลดสัญญาณรบกวน ทำให้มองเห็นแนวโน้มได้ชัดเจน และเหมาะสำหรับการเทรดตามแนวโน้ม
Q: Heiken Ashi เหมาะกับการเทรดระยะไหน?
A: เหมาะกับการเทรดระยะกลางถึงยาว เช่น Swing Trading และ Position Trading มากกว่า Scalping
Q: สามารถใช้ Heiken Ashi กับตลาดไหนได้บ้าง?
A: ใช้ได้กับทุกตลาด ทั้ง Forex, หุ้น, Crypto, และสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ควรระวังตลาดที่มี Gap บ่อย
Q: ควรใช้ Time Frame ไหนกับ Heiken Ashi?
A: แนะนำ H1 ขึ้นไป สำหรับผู้เริ่มต้นควรเริ่มจาก H4 หรือ Daily เพราะสัญญาณชัดเจนกว่า
Q: Heiken Ashi แม่นยำแค่ไหน?
A: โดยทั่วไปแล้ว Heiken Ashi ถือว่ามีความน่าเชื่อถือและแม่นยำในการระบุแนวโน้ม แต่ก็มีความล่าช้าของสัญญาณเนื่องจากการใช้ค่าเฉลี่ย 1
Q: Heiken Ashi ดีสำหรับการ Scalping หรือไม่?
A: Heiken Ashi ไม่เหมาะสำหรับการ Scalping เนื่องจากไม่ได้แสดงราคาจริงของสินทรัพย์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกลยุทธ์ที่ต้องการความแม่นยำสูง 1
Q: สูตร Heiken Ashi คำนวณอย่างไร?
A: สูตร Heiken Ashi คำนวณจากค่าเฉลี่ยของราคาเปิด ปิด สูงสุด และต่ำสุดของแท่งเทียนปัจจุบันและแท่งเทียนก่อนหน้า โดยมีสูตรเฉพาะสำหรับแต่ละองค์ประกอบ (Open, Close, High, Low)