Skip to content
  • ไทย
  • หน้าแรก
  • รีวิวโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
    • รายละเอียดโบรกเกอร์ Forex
  • การเทรด Forex
    • วิเคราะห์คู่สกุลเงิน Forex
    • คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex
  • คริปโตเคอร์เรนซี
    • รวมคริปโตเคอร์เรนซียอดนิยม
    • พื้นฐานการลงทุนบล็อกเชน
  • การลงทุนในหุ้น
    • วิเคราะห์หุ้นกลุ่มยอดนิยม
    • คู่มือเริ่มต้นลงทุนหุ้น
    • แนะนำกองทุน ETF
  • การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์
    • เจาะลึกการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
    • คู่มือเริ่มต้นลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
  • วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
  • พื้นฐานการลงทุน
  • หน้าแรก
  • รีวิวโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
    • รายละเอียดโบรกเกอร์ Forex
  • การเทรด Forex
    • วิเคราะห์คู่สกุลเงิน Forex
    • คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex
  • คริปโตเคอร์เรนซี
    • รวมคริปโตเคอร์เรนซียอดนิยม
    • พื้นฐานการลงทุนบล็อกเชน
  • การลงทุนในหุ้น
    • วิเคราะห์หุ้นกลุ่มยอดนิยม
    • คู่มือเริ่มต้นลงทุนหุ้น
    • แนะนำกองทุน ETF
  • การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์
    • เจาะลึกการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
    • คู่มือเริ่มต้นลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
  • วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
  • พื้นฐานการลงทุน

หน้าแรก - การเทรด Forex - คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex

เทรด Scalping Trading ให้ปัง! เทคนิคการเทรดสั้นสำหรับนักเทรดมือโปร

  • วันที่เผยแพร่บทความ: 2025-07-17
  • วันที่อัปเดตบทความ:2025-07-17
ภาพการเทรดแบบ Scalping trading

สารบัญ

รู้จัก Scalping Trading – การเทรดแบบสายฟ้าแลบ

Scalping คือ การเทรดที่นักลงทุนหลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่ชอบความตื่นเต้นและต้องการผลกำไรที่รวดเร็ว การเทรดสั้นแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปหากคุณมีความรู้และเครื่องมือที่เหมาะสม

กลยุทธ์ Scalping เป็นหนึ่งในวิธีการเทรดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่นักเทรด Day Trading เพราะมันให้โอกาสในการทำกำไรได้หลายครั้งในหนึ่งวัน แม้ว่าแต่ละครั้งจะได้กำไรไม่มาก แต่เมื่อรวมกันแล้วสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจได้

การเทรดแบบนี้ต้องอาศัยความรวดเร็วในการตัดสินใจ การวิเคราะห์ที่แม่นยำ และการจัดการความเสี่ยงที่ดี ซึ่งจะเป็นสิ่งที่เราจะมาเรียนรู้กันในบทความนี้

ภาพการเทรดแบบ Scalping trading

สำหรับมือใหม่ที่สนใจ การเทรดสั้น แบบนี้ ควรเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจพื้นฐานก่อน เพราะมันต่างจากการลงทุนระยะยาวอย่างสิ้นเชิง

ทำความเข้าใจกลไก Scalping ในตลาด

ภาพไทม์เฟรมในการเทรด

ความเร็วในการเข้าและออกจากตลาด

การทำ เทรดเร็ว แบบ Scalping นั้นต้องการความเร็วในการเข้าและออกจากตลาดเป็นอย่างมาก นักเทรดจะต้องสามารถตัดสินใจได้ภายในไม่กี่วินาที และดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในไม่กี่นาที

เวลาที่ใช้ในแต่ละการเทรดอาจจะสั้นเพียง 1-5 นาที หรือบางครั้งอาจจะเป็นเพียงไม่กี่วินาที ทำให้นักเทรดต้องมีสมาธิและความพร้อมในการติดตามตลาดอย่างต่อเนื่อง

การเข้าตลาดจะต้องรอจังหวะที่เหมาะสม ไม่ใช่เข้าไปแบบสุ่มเสี่ยง ต้องมีสัญญาณที่ชัดเจนก่อนที่จะตัดสินใจ

ส่วนการออกจากตลาดก็ต้องทำอย่างรวดเร็วเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการตัดขาดทุนหรือการล็อคกำไร

ไทม์เฟรมที่นักสกัลเปอร์ใช้งาน

นักเทรด Scalping มักจะใช้ไทม์เฟรมที่สั้นมาก เช่น 1 นาที, 3 นาที, หรือ 5 นาที เป็นหลัก ไทม์เฟรมเหล่านี้จะช่วยให้เห็นการเคลื่อนไหวของราคาได้อย่างละเอียด

ไทม์เฟรม 1 นาทีจะให้ข้อมูลที่รวดเร็วและอัพเดทล่าสุด แต่ก็มีสัญญาณรบกวนมาก ทำให้ต้องใช้ทักษะในการกรองสัญญาณ

ไทม์เฟรม 5 นาทีจะให้ภาพรวมที่ชัดเจนกว่า แต่อาจจะช้าไปสำหรับการตัดสินใจในบางสถานการณ์

การเลือกใช้ไทม์เฟรมจึงขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและประสบการณ์ของแต่ละคน

ความสำคัญของสภาพคล่องตลาด

สภาพคล่องตลาด เป็นปัจจัยสำคัญมากสำหรับการทำ Scalping เพราะต้องการการซื้อขายที่รวดเร็วและมีปริมาณมาก

ตลาดที่มีสภาพคล่องสูงจะทำให้การเข้าและออกจากตลาดเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่กระทบต่อราคามากนัก

ช่วงเวลาที่สภาพคล่องดีที่สุดสำหรับการทำ Scalping คือช่วงที่ตลาดหลักๆ เปิดทำการ เช่น ตลาด London หรือ New York

ตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำจะทำให้เกิด Slippage ได้ง่าย ซึ่งจะส่งผลเสียต่อผลกำไรของนักเทรด

เครื่องมือและอินดิเคเตอร์สำหรับ Scalping

ภาพเครื่องมือและอินดิเคเตอร์ในการเทรด

Moving Averages – เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่

เครื่องมือ Scalping ที่สำคัญอันดับแรกคือ Moving Averages หรือเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้จัก

EMA (Exponential Moving Average) เป็นตัวเลือกที่นิยมสำหรับ Scalping เพราะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาได้เร็วกว่า SMA

การใช้ EMA 9 และ EMA 21 ร่วมกันจะช่วยให้เห็นทิศทางของเทรนด์ได้ชัดเจนขึ้น เมื่อเส้น EMA สั้นตัดขึ้นหรือลงจากเส้น EMA ยาว

การรอให้ราคาย้อนกลับมาทดสอบเส้น EMA ก็เป็นจุดเข้าที่ดีสำหรับนักเทรด Scalping

RSI และ Stochastic – ตัวชี้วัดโมเมนตัม

อินดิเคเตอร์เทรดเร็ว อย่าง RSI และ Stochastic เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการหาจุด Oversold และ Overbought ได้ดี

RSI ที่อยู่ในช่วง 30-70 จะแสดงให้เห็นว่าตลาดอยู่ในสภาวะปกติ แต่ถ้าออกนอกช่วงนี้ก็จะเป็นสัญญาณที่น่าสนใจ

Stochastic จะช่วยยืนยันสัญญาณจาก RSI ทำให้การตัดสินใจมีความแม่นยำมากขึ้น

การใช้ทั้งสองตัวร่วมกันจะช่วยลดสัญญาณเท็จได้ดี เพราะจะมีการยืนยันซึ่งกันและกัน

ตัวชี้วัดปริมาณการซื้อขาย

Volume Indicators เป็นเครื่องมือที่หลายคนมองข้าม แต่จริงๆ แล้วมันสำคัญมากสำหรับการทำ Scalping

ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นจะบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวของราคา

สัญญาณเข้าออก Scalping ที่มาพร้อมกับปริมาณสูงจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าสัญญาณที่มาพร้อมกับปริมาณต่ำ

Volume Profile จะช่วยให้เห็นระดับราคาที่มีการซื้อขายหนาแน่น ซึ่งมักจะเป็นแนวรับแนวต้านที่สำคัญ

กลยุทธ์ Scalping ที่นิยมใช้กัน

ภาพกลยุทธ์ Scalping ที่นิยมใช้

Breakout Scalping – การเทรดตามการทะลุ

กลยุทธ์เทรดสั้น แบบ Breakout เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะให้โอกาสในการทำกำไรได้รวดเร็ว

การรอให้ราคาทะลุแนวต้านหรือแนวรับที่สำคัญ แล้วจึงเข้าตลาดตามทิศทางของการทะลุ

ต้องระวังการทะลุเท็จ (False Breakout) ที่อาจจะทำให้เกิดขาดทุนได้ จึงควรรอให้มีการยืนยัน

การใช้ Stop Loss ที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นในกลยุทธ์นี้ เพื่อป้องกันความเสียหายจากการทะลุเท็จ

Range Scalping – การเทรดในแนวรับแนวต้าน

Scalping แนวรับแนวต้าน เป็นกลยุทธ์ที่เหมาะกับตลาดที่เคลื่อนไหวในช่วงแคบ ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน

การซื้อที่แนวรับและการขายที่แนวต้านเป็นหลักการสำคัญของกลยุทธ์นี้

ต้องมีการกำหนด Stop Loss ที่เหมาะสม ไม่ให้ไกลจากจุดเข้าเกินไป

กลยุทธ์นี้ต้องการความอดทนในการรอสัญญาณที่ชัดเจน และไม่ควรเสี่ยงมากเกินไป

การเทรดตามเทรนด์

เทรดตามเทรนด์ เป็นกลยุทธ์ที่มีอัตราชนะสูง เพราะเป็นการว่ายน้ำไปตามกระแสน้ำ

การระบุทิศทางของเทรนด์ที่ถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญของกลยุทธ์นี้

การใช้ Moving Averages ร่วมกับ Trend Lines จะช่วยให้การระบุเทรนด์แม่นยำขึ้น

ต้องระวังการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ และพร้อมที่จะปรับกลยุทธ์เมื่อจำเป็น

ข้อดีและข้อเสียของการทำ Scalping

ประโยชน์ที่ได้จาก Scalping

ข้อดีของ Scalping ที่เด่นชัดที่สุดคือความเร็วในการทำกำไร ไม่ต้องรอนานเหมือนการลงทุนระยะยาว

การมีโอกาสทำกำไรได้หลายครั้งในหนึ่งวันทำให้รายได้มีความสม่ำเสมอมากขึ้น

ความเสี่ยงจากข่าวสารหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระยะยาวจะมีผลกระทบน้อยกว่า

นักเทรดจะได้พัฒนาทักษะการวิเคราะห์เทคนิคและการจัดการความเสี่ยงอย่างรวดเร็ว

ข้อเสียและความเครียดทางจิตใจ

ข้อเสียของ Scalping ที่สำคัญคือความเครียดที่เกิดขึ้นจากการต้องติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด

ค่าคอมมิชชั่นและสเปรดที่สูงอาจจะกัดกินกำไรได้มาก เนื่องจากมีการเทรดบ่อยครั้ง

การต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วอาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดจากอารมณ์

ต้องใช้เวลาในการเฝ้าดูตลาดมาก ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับคนที่มีงานประจำ

Scalping เหมาะกับใครบ้าง

เหมาะกับ Scalping หรือไม่ เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ซึ่งคำตอบขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย

คนที่มีเวลาเฝ้าดูตลาดได้เต็มที่และมีความอดทนสูงจะเหมาะกับการทำ Scalping

ผู้ที่มีความรู้ทางเทคนิคและสามารถตัดสินใจได้รวดเร็วจะมีข้อได้เปรียบ

คนที่ต้องการความตื่นเต้นและความท้าทายในการเทรดจะชอบสไตล์นี้

ข้อดี

ข้อเสีย

กำไรรวดเร็ว

ความเครียดสูง

โอกาสมาก

ค่าใช้จ่ายสูง

เสี่ยงข่าวน้อย

ใช้เวลามาก

พัฒนาทักษะ

ผิดพลาดง่าย

Scalping Trading เหมาะกับมือใหม่หรือไม่

Scalping Trading เหมาะกับใคร เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ซึ่งคำตอบขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย

ความเสี่ยงที่แท้จริงของ Scalping: ทำไมมีทั้ง “ความเสี่ยงต่ำ” และ “ความเสี่ยงสูง”

การเทรด Scalping มักถูกกล่าวถึงว่ามีความเสี่ยงต่ำหากทำอย่างถูกต้อง หรือมีความเสี่ยงต่อการขาดทุนต่อการเทรดแต่ละครั้งต่ำ อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกันก็มีการเตือนอย่างหนักแน่นว่า Scalping เป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงสูงและไม่เหมาะสำหรับมือใหม่ ความขัดแย้งที่เห็นได้ชัดนี้อาจสร้างความสับสนอย่างมากสำหรับนักเทรดมือใหม่

ความเสี่ยงต่ำ (ต่อการเทรดแต่ละครั้ง):

  • การเทรด Scalping มีเป้าหมายกำไรที่เล็กน้อยและใช้คำสั่ง Stop Loss ที่แม่นยำอย่างเคร่งครัด ทำให้เงินทุนที่เสี่ยงต่อการเทรดแต่ละครั้งมีจำกัด หากเทรดผิดทาง การขาดทุนก็จะไม่มากนัก

ความเสี่ยงสูง (กลยุทธ์โดยรวมสำหรับมือใหม่):

  • ปริมาณและความถี่ของการเทรดสูง: Scalping เกี่ยวข้องกับการเทรดจำนวนมากในหนึ่งวัน ซึ่งนำไปสู่ต้นทุนการทำธุรกรรมที่สะสมสูงขึ้น (ค่าคอมมิชชั่นและสเปรด)
  • ความต้องการทางจิตวิทยาที่เข้มข้น: ต้องมีการตัดสินใจที่รวดเร็ว วินัยที่ไม่เปลี่ยนแปลง และการควบคุมอารมณ์ภายใต้ความกดดันสูง ความเครียดจากการเฝ้าติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดอาจนำไปสู่ความผิดพลาดได้ง่าย
  • ศักยภาพในการขาดทุนสะสม: หากเกิดข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือ Slippage ซ้ำ ๆ กัน การขาดทุนเล็กน้อยเหล่านั้นสามารถสะสมเป็นจำนวนมากได้

ดังนั้น Scalping จึงเป็นกลยุทธ์ที่ต้องใช้ทักษะ ประสบการณ์ และวินัยสูง ไม่เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่ที่ยังไม่มีความรู้และประสบการณ์เพียงพอ

คำแนะนำสำหรับมือใหม่:

  • เริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง: สิ่งสำคัญที่สุดคือการฝึกฝนและพัฒนาทักษะในบัญชีทดลอง (Demo Account) ก่อนที่จะเสี่ยงเงินทุนจริง
  • เชี่ยวชาญกลยุทธ์จำนวนจำกัด: ควรเชี่ยวชาญกลยุทธ์ Scalping เพียง 2-3 กลยุทธ์ แทนที่จะเปลี่ยนไปมาบ่อยครั้ง ซึ่งอาจนำไปสู่ความสับสนและความไม่สอดคล้องกัน
  • ควบคุมอารมณ์: ผู้ที่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีและไม่ตื่นตระหนกง่ายจะเหมาะกับสไตล์การเทรดนี้

การบริหารความเสี่ยงใน Scalping

ภาพนักเทรดที่กำลังเครียด

การตั้ง Stop Loss ที่แน่นหนา

บริหารความเสี่ยง Scalping เริ่มต้นจากการตั้ง Stop Loss ที่เหมาะสม ซึ่งควรจะแน่นกว่าการเทรดปกติ

ระยะห่างของ Stop Loss ควรจะอยู่ที่ประมาณ 10-20 pips สำหรับ Forex หรือ 1-2% สำหรับหุ้น

การตั้ง Stop Loss ไว้แน่นเกินไปอาจจะทำให้โดนตัดออกจากสัญญาณรบกวนปกติ

ต้องปรับ Stop Loss ให้เหมาะสมกับความผันผวนของแต่ละตัวสินทรัพย์

การจัดการ Leverage

การใช้ Leverage ใน Scalping ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพราะแม้ว่าจะช่วยเพิ่มกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้วย

Leverage ที่เหมาะสมสำหรับมือใหม่ควรจะอยู่ที่ 1:10 ถึง 1:20 ไม่ควรสูงเกินไป

การใช้ Leverage สูงควรจะมาพร้อมกับ Position Size ที่เล็ก เพื่อควบคุมความเสี่ยง

ต้องเข้าใจว่า Leverage เป็นดาบสองคม ใช้ผิดทางอาจจะทำให้เกิดขาดทุนอย่างรวดเร็ว

การหลีกเลี่ยงการเทรดมากเกินไป

จำกัดการเทรด เป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนมักจะละเลย โดยเฉพาะเมื่อเจอช่วงที่ทำกำไรได้ดี

การตั้งเป้าหมายกำไรและขาดทุนสำหรับแต่ละวันจะช่วยในการควบคุมตัวเอง

เมื่อถึงเป้าหมายแล้วควรจะหยุดเทรดในวันนั้น ไม่ควรโลภเกินไป

การเทรดมากเกินไปอาจจะนำไปสู่ความเหนื่อยล้าและการตัดสินใจที่ผิดพลาด

ตัวอย่างจริงและกรณีศึกษา

สถานการณ์ Scalping ใน Forex

Scalping Forex เป็นหนึ่งในตลาดที่นิยมทำ Scalping มากที่สุด เนื่องจากมีสภาพคล่องสูงและเปิด 24 ชั่วโมง

ตัวอย่างการเทรด EUR/USD ในช่วง London Session โดยใช้กลยุทธ์ Breakout จาก Resistance

ราคาเคลื่อนไหวจาก 1.1200 ทะลุขึ้นไปที่ 1.1215 ในเวลา 3 นาที ทำกำไรได้ 15 pips

การตั้ง Stop Loss ที่ 1.1195 และ Take Profit ที่ 1.1215 ทำให้ Risk:Reward อยู่ที่ 1:3

ตัวอย่าง Scalping ใน Crypto

Scalping Crypto ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในคู่สกุลเงินที่มีปริมาณการซื้อขายสูง

ตัวอย่างการเทรด BTC/USDT ในช่วงที่มีข่าวดี โดยใช้กลยุทธ์ตามเทรนด์

ราคาเคลื่อนไหวจาก 50,000 ขึ้นไปที่ 50,500 ในเวลา 5 นาที ทำกำไรได้ 1%

การใช้ Volume Profile ช่วยในการหาจุดเข้าที่เหมาะสม และการตั้ง Stop Loss ที่แน่นหนา

บทเรียนจากการเทรด Scalping

ตัวอย่างการเทรด Scalping ที่ประสบความสำเร็จมักจะมีการเตรียมความพร้อมที่ดี

การวางแผนล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ควรเข้าตลาดแบบสุ่มเสี่ยง

การควบคุมอารมณ์และการยึดติดกับแผนที่วางไว้เป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จ

การเรียนรู้จากความผิดพลาดและการปรับปรุงกลยุทธ์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้พัฒนาไปได้

สรุปและแนวทางการเริ่มต้น Scalping

ใครควรลองทำ Scalping

Scalping คือ การเทรดที่เหมาะกับคนที่มีเวลาและความพร้อมในการเรียนรู้ ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการผลตอบแทนแบบง่ายๆ

ผู้ที่มีประสบการณ์ในการเทรดมาแล้วจะมีข้อได้เปรียบมากกว่ามือใหม่ เพราะมีพื้นฐานทางเทคนิค

คนที่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีและไม่ตื่นตระหนกง่ายจะเหมาะกับสไตล์การเทรดนี้

ผู้ที่มีเงินทุนเพียงพอและไม่จำเป็นต้องใช้เงินนั้นในการดำรงชีวิตประจำวัน

Scalping กับกลยุทธ์ระยะยาว

กลยุทธ์ Scalping ไม่จำเป็นต้องเป็นการเทรดเพียงแบบเดียว สามารถนำมาผสมผสานกับกลยุทธ์อื่นๆ ได้

การใช้ Scalping เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนจะช่วยเพิ่มความหลากหลายและลดความเสี่ยง

การเรียนรู้ Scalping จะช่วยพัฒนาทักษะการวิเคราะห์เทคนิคที่จะเป็นประโยชน์ในการเทรดแบบอื่นๆ ด้วย

ไม่ควรใช้เงินทุนทั้งหมดในการทำ Scalping ควรจัดสรรเฉพาะส่วนที่พร้อมเสี่ยงได้

เช็คลิสต์สำหรับ Scalping ที่ประสบความสำเร็จ

วิธีเริ่มต้น Scalping ที่ถูกต้องควรเริ่มจากการศึกษาและฝึกฝนใน Demo Account ก่อน

✅ มีความรู้พื้นฐานทางเทคนิคและเข้าใจการทำงานของอินดิเคเตอร์

✅ สามารถควบคุมอารมณ์และยึดติดกับแผนที่วางไว้

✅ มีเงินทุนเพียงพอและไม่ใช่เงินที่จำเป็นต้องใช้

✅ มีเวลาเฝ้าดูตลาดและพร้อมตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

✅ เข้าใจความเสี่ยงและมีแผนการจัดการความเสี่ยงที่ชัดเจน

การเริ่มต้นด้วยทุนเล็กๆ และค่อยๆ เพิ่มเมื่อมีความมั่นใจมากขึ้นเป็นแนวทางที่ดี

การติดตามผลการเทรดและการวิเคราะห์ข้อผิดพลาดจะช่วยในการพัฒนาทักษะ

ที่สำคัญคือต้องจำไว้ว่า Scalping Trading เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ วิธีการลงทุน ไม่ใช่ทางลัดสู่ความร่ำรวย การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและการเรียนรู้จากประสบการณ์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

  1. Q: Scalping Trading คืออะไร?

    A: Scalping คือการเทรดระยะสั้นมากที่เน้นการทำกำไรเล็กๆ แต่บ่อยครั้ง โดยมักจะเข้าและออกจากตลาดภายในไม่กี่นาที

  2. Q: ต้องใช้เงินทุนเท่าไหร่ในการเริ่มต้น?

    A: ควรเริ่มต้นด้วยเงินทุนที่พร้อมเสี่ยงได้ ประมาณ 10,000-50,000 บาท และไม่ใช่เงินที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน

  3. Q: ใช้เวลาเท่าไหร่ในการเรียนรู้?

    A: การเรียนรู้พื้นฐานใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน แต่การเป็นมืออาชีพต้องใช้เวลาหลายปี รวมทั้งการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ

  4. Q: อินดิเคเตอร์ไหนดีที่สุดสำหรับ Scalping?

    A: ไม่มีอินดิเคเตอร์ตัวเดียวที่ดีที่สุด แต่การใช้ EMA, RSI, และ Volume ร่วมกันจะให้ผลลัพธ์ที่ดี

  5. Q: ควรเทรดในช่วงเวลาไหน?

    A: ช่วงที่ตลาดหลักเปิดทำการ เช่น London Session (15:00-24:00 น.) หรือ New York Session (20:00-05:00 น.) จะมีสภาพคล่องดีที่สุด

  6. Q: Scalping เหมาะกับคนทำงานประจำไหม?

    A: ไม่เหมาะสมมากนัก เพราะต้องเฝ้าดูตลาดอย่างใกล้ชิด อาจจะเหมาะกับการทำ Part-time มากกว่า

Picture of Ariya Suksawadee
Ariya Suksawadee
อริยา สุขสวัสดิ์ เป็นนักวิจัยอาวุโสแห่งเว็บไซต์รีวิวโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ เธอมีประสบการณ์มากกว่า 14 ปีในการวิเคราะห์นโยบายการเงินและระบบอัตราแลกเปลี่ยนในเอเชีย เชี่ยวชาญด้านการตัดสินใจของธนาคารกลาง ความร่วมมือทางการเงินในภูมิภาคอาเซียน และการวิเคราะห์อัตราแลกเปลี่ยนตามสถานการณ์สำคัญ อริยาเคยเป็นที่ปรึกษาให้กับกระทรวงการคลังของไทยและธนาคารพัฒนาเอเชีย พร้อมให้คำแนะนำด้านกลยุทธ์แก่บริษัทและสถาบันการเงินชั้นนำ ความเห็นของเธอมักปรากฏในสื่อระดับประเทศ เช่น Bangkok Biz News และ Bloomberg Asia จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดเงินที่น่าเชื่อถือ
Prev上一篇Leverage คืออะไร? รู้จักเลเวอเรจที่ทุกเทรดเดอร์ต้องเข้าใจ
下一篇FVG Forex คืออะไร? รู้จักช่องว่างราคาที่เทรดเดอร์ต้องเข้าใจNext
การจัดอันดับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
แบรนด์
คะแนน
รีวิวแบบละเอียด
1. Moneta Markets
★ 9.8/10
2. Vantage FX
★9.4/10
3. VT Markets
★ 9.2/10
4. Eightcap
★ 8.9/10
5. GOFX
★ 8.8/10
บทความล่าสุด
ภาพฟรีมาร์จิ้น
คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex

Free Margin คืออะไร? เข้าใจง่าย ๆ สำหรับนักเทรด Forex มือใหม่

แนะนำ – Free M

อ่านเพิ่มเติม »
ภาพจำลอง FVG
วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค

FVG Forex คืออะไร? รู้จักช่องว่างราคาที่เทรดเดอร์ต้องเข้าใจ

ทำความรู้จัก FVG For

อ่านเพิ่มเติม »
ภาพการเทรดแบบ Scalping trading
คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex

เทรด Scalping Trading ให้ปัง! เทคนิคการเทรดสั้นสำหรับนักเทรดมือโปร

รู้จัก Scalping Trad

อ่านเพิ่มเติม »
แนะนำเพิ่มเติม
ภาพนักเทรดกำลังเช็คกราฟ
คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex

รูปแบบ Triple Bottom คืออะไร? คู่มือสำหรับเทรดเดอร์หุ้นไทย

เคยสงสัยไหมว่าหุ้นที

อ่านเพิ่มเติม »
ภาพแสดงสุขภาพการเงิน
คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex

ระดับมาร์จิ้น คืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักเทรด Forex

ทำไมระดับมาร์จิ้นถึง

อ่านเพิ่มเติม »
แผนที่โลกแสดงเวลาทำการของตลาด Forex หลัก
คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex

Demand Zone Forex เราควรเทรดเวลาไหนดี?

1. เริ่มต้นเข้าใจ De

อ่านเพิ่มเติม »


10 อันดับโบรกเกอร์ Forex เป็นแพลตฟอร์มรีวิวชั้นนำในฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน ทีมงานของเรามีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม มากกว่า 10 ปี เพื่อมอบประสบการณ์การเทรดที่ปลอดภัยที่สุดให้กับคุณ

เกี่ยวกับเรา

  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อเรา
  • คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
  • ข้อกำหนดในการใช้งาน
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว

เงื่อนไขการใช้งาน

  • หน้าแรก
  • รีวิวโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
    • รายละเอียดโบรกเกอร์ Forex
  • การเทรด Forex
    • วิเคราะห์คู่สกุลเงิน Forex
    • คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex
  • คริปโตเคอร์เรนซี
    • รวมคริปโตเคอร์เรนซียอดนิยม
    • พื้นฐานการลงทุนบล็อกเชน
  • การลงทุนในหุ้น
    • วิเคราะห์หุ้นกลุ่มยอดนิยม
    • คู่มือเริ่มต้นลงทุนหุ้น
    • แนะนำกองทุน ETF
  • การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์
    • เจาะลึกการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
    • คู่มือเริ่มต้นลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
  • วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
  • พื้นฐานการลงทุน
  • หน้าแรก
  • รีวิวโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
    • รายละเอียดโบรกเกอร์ Forex
  • การเทรด Forex
    • วิเคราะห์คู่สกุลเงิน Forex
    • คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex
  • คริปโตเคอร์เรนซี
    • รวมคริปโตเคอร์เรนซียอดนิยม
    • พื้นฐานการลงทุนบล็อกเชน
  • การลงทุนในหุ้น
    • วิเคราะห์หุ้นกลุ่มยอดนิยม
    • คู่มือเริ่มต้นลงทุนหุ้น
    • แนะนำกองทุน ETF
  • การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์
    • เจาะลึกการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
    • คู่มือเริ่มต้นลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
  • วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
  • พื้นฐานการลงทุน

สมัครรับจดหมายข่าวจากเรา

รับข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ของเราและสัญญาณการเทรดประจำสัปดาห์