คำถาม “Forex ผิดกฎหมายไหม” เป็นสิ่งที่หลายคนสงสัยและกังวลใจมานาน โดยเฉพาะหลังจากเหตุการณ์ Forex-3D ที่สร้างความไม่ไว้วางใจให้กับตลาด Forex ในไทย
คำตอบแบบตรงไปตรงมาคือ: การเทรด Forex ด้วยเงินทุนส่วนตัวผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศที่มีการกำกับดูแลไม่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน แต่การประกอบธุรกิจ Forex, โฆษณาชวนเหลื่อม หรือเป็นตัวกลางรับจ่ายเงินในไทยโดยไม่มีใบอนุญาตจากกระทรวงการคลังนั้นผิดกฎหมาย
สถานะทางกฎหมาย ปัจจุบันอยู่ใน “พื้นที่สีเทา” สำหรับนักเทรดชาวไทยที่ต้องการเทรดด้วยตัวเอง ซึ่งต่างจากการทำธุรกิจ Forex ที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน
บทความนี้จะให้คำตอบที่ชัดเจนและแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องสำหรับนักเทรดไทยในปี 2025
กฎหมาย Forex ในไทย: ทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง “เทรดเอง” กับ “ทำธุรกิจ”
เพื่อเข้าใจกฎหมาย Forexในไทยอย่างถูกต้อง เราต้องแยกแยะให้ชัดเจนระหว่างการเทรดเอง Forexกับการทำธุรกิจ Forex
สิ่งที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ระบุกิจกรรมที่ผิดกฎหมายดังนี้:
- การประกอบธุรกิจเป็นโบรกเกอร์ Forex ในไทย โดยไม่มีใบอนุญาต
- การโฆษณาหรือชวนเหลื่อมให้ประชาชนเทรด Forex อย่างเป็นธุรกิจ
- การเป็นตัวกลางรับจ่ายเงิน สำหรับการเทรด Forex แบบธุรกิจ
- การดำเนินการแชร์ลูกโซ่ โดยใช้ชื่อ Forex เป็นเครื่องมือ
กฎหมายที่เกี่ยวข้องรวมถึง:
- พ.ร.บ. ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ. 2485
- พ.ร.ด. เงินกู้นอกระบบ พ.ศ. 2527
- พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
สิ่งที่อยู่ใน “พื้นที่สีเทา”
พื้นที่สีเทา Forexคือสถานการณ์ที่ไม่มีกฎหมายใดในปัจจุบันที่ห้ามชาวไทยธรรมดาไม่ให้เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ต่างประเทศและเทรดเอง Forexด้วยเงินทุนส่วนตัว
ข้อสำคัญคือหน่วยงานกำกับดูแลไม่ได้เน้นการบังคับใช้กฎหมายกับบุคคลทั่วไปที่เทรดส่วนตัว แต่มุ่งเน้นไปที่การปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมายและการป้องกันประชาชนจากการถูกหลอกลวง
การเทรด Forex กับโบรกเกอร์ต่างประเทศที่ได้รับการกำกับดูแลอย่างถูกต้อง ถือเป็นกิจกรรมที่ยังไม่มีกฎหมายไทยรองรับโดยตรง แต่ก็ไม่ได้มีข้อห้ามไม่ให้บุคคลทั่วไปเทรดเช่นกัน
กฎหมาย Forex ในไทยจึงแยกระหว่าง “การกระทำส่วนบุคคล” กับ “การประกอบธุรกิจ” อย่างชัดเจน
เสียงจากทางการ: ถอดรหัสคำเตือนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ ก.ล.ต.
การทำความเข้าใจคำเตือน Forexจากหน่วยงานราชการจะช่วยให้เราเห็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้น
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ธปท. Forex มีการระบุชัดเจนว่า ธปท.เป็นธนาคารกลางที่กำกับดูแลการดำเนินการทางการเงินทั้งหมดภายในประเทศ รวมถึงสภาพคล่องของสกุลเงิน
ธปท.ไม่เคยออกใบอนุญาตให้สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารประกอบธุรกิจ Forex Trading และมีการเตือนเรื่องการโอนเงินไปต่างประเทศเพื่อการเทรด Forex
และยังย้ำว่าการให้บริการลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศบนแพลตฟอร์ม หรือการเทรด Forex ในไทย ยังไม่มีผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การบังคับใช้กฎหมายในทางปฏิบัติมุ่งเน้นไปที่การปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมายมากกว่าการเทรดส่วนบุคคล
หากประกอบธุรกิจหรือมีส่วนร่วมกับธุรกรรม Forex โดยไม่ได้รับอนุญาต จะมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ก.ล.ต. Forex ได้แถลงการณ์ชัดเจนว่า การเทรด Forex ไม่อยู่ในอำนาจการกำกับดูแลของ ก.ล.ต. เนื่องจาไม่ถือเป็นหลักทรัพย์ อนุพันธ์ หรือสินทรัพย์ดิจิทัล
ก.ล.ต. มีหน้าที่กำกับดูแลตลาดทุนและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งรวมถึงการระดมทุนผ่านการเสนอขายหลักทรัพย์และโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน
แม้ Forex จะไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของ ก.ล.ต. แต่ ก.ล.ต. จะขึ้นบัญชีชื่อบุคคลหรือนิติบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยใน ‘Investor Alert’ และเผยแพร่คำเตือนต่อสาธารณะ
การแบ่งอำนาจหน้าที่นี้ทำให้เกิดช่องว่างในการกำกับดูแล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่สถานะของ Forex อยู่ในพื้นที่สีเทา
ภูมิทัศน์กฎหมายที่กำลังเปลี่ยนแปลง: รัฐบาลมีแผนอย่างไร
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ยอมรับว่ากฎหมายที่มีอยู่ อาจมีช่องว่างให้เกิดปัญหาการหลอกลงทุน Forex ได้
ด้วยเหตุนี้ จึงมีแผนที่จะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อทบทวนและปรับปรุงกฎหมายให้เกิดความรัดกุมมากยิ่งขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการหลอกลงทุน
การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายในอนาคตจึงเป็นสิ่งที่นักเทรดและผู้สนใจควรติดตามอย่างใกล้ชิด
ทำไมคนไทยถึงกลัว Forex? แยกแยะการเทรดจริงออกจาก Forex แชร์ลูกโซ่
เหตุการณ์ Forex-3D ได้สร้างความหวาดกลัวและไม่ไว้วางใจต่อ Forex ในสังคมไทยอย่างมาก แต่เราต้องแยกแยะให้ชัดเจนระหว่าง:
Forex Trading จริง vs แชร์ลูกโซ่
Forex Trading จริง
|
Forex แชร่ลูกโซ่
|
---|
กำไร-ขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงราคาเงินตรา
|
จ่ายเงินนักลงทุนเก่าด้วยเงินนักลงทุนใหม่
|
---|
ผ่านโบรกเกอร์ที่มีการกำกับดูแลสากล
|
มักไม่มีการกำกับดูแล หรือใช้ใบอนุญาตปลอม
|
---|
ไม่มีการชวนคนอื่นลงทุนเพื่อผลตอบแทน
|
ต้องชวนคนอื่นเข้าร่วมเพื่อได้ค่าคอมมิชชั่น
|
---|
เสี่ยงจากการเทรดเท่านั้น
|
เสี่ยงการสูญเสียเงินทั้งหมดเมื่อระบบล่มสลาย
|
---|
กรณีศึกษา: Forex-3D บทเรียนสำคัญของการฉ้อโกงประชาชน
คดี Forex-3D เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการใช้ชื่อ Forex เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงประชาชน
ในคดีนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้องถูกตั้งข้อหาหลายประการ รวมถึง:
- ร่วมกันกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527
- ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา
- ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งก่อความเสียหายให้แก่ประชาชนตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
แม้ ธปท. จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงทางข้อกฎหมายในการกำกับดูแลธุรกรรมลงทุน Forex แต่ก็ได้ให้ความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนการดำเนินคดีอย่างเต็มที่ Forex-3D เป็นตัวอย่างของการใช้ชื่อ Forex เป็นเครื่องมือหลอกลวง แต่ไม่ใช่การเทรด Forex จริง
สัญญาณเตือน กลโกง Forex
⚠️ คำเตือน: หลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้
- รับประกันผลตอบแทนสูงแน่นอน
- ต้องชวนคนอื่นเข้าร่วมเพื่อได้ค่าคอมมิชชั่น
- โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวแทนที่จะเป็นบัญชีบริษัท
- ไม่มีการแสดงใจอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เชื่อถือได้
- มี “ครูเทรด” หรือ “มาสเตอร์” ที่ไม่สามารถยืนยันประวัติการเทรดจริงได้
Forex-3D เป็นตัวอย่างของการใช้ชื่อ Forex เป็นเครื่องมือหลอกลวง แต่ไม่ใช่การเทรด Forex จริง
เมื่อไม่มีโบรกเกอร์ในไทย แล้วจะเทรดอย่างปลอดภัยได้อย่างไร?
ความจริงคือ ชาวไทยสามารถเทรด Forex ได้โดยไม่มีข้อจำกัด และสามารถฝากเงินเข้าบัญชีโบรกเกอร์ได้วันละ $15,000 USD แต่คำถามคือจะเลือกโบรกเกอร์อย่างไรให้ปลอดภัย?
การกำกับดูแลคือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดของคุณ: รู้จัก 3 หน่วยงานกำกับดูแลระดับโลก
เนื่องจากไม่มีโบรกเกอร์ Forex ปลอดภัยที่ได้รับอกุญาตในไทยสำหรับนักเทรดทั่วไป ทางเลือกเดียวสำหรับเลือกโบรกเกอร์ Forexที่ปลอดภัยคือการเลือกโบรกเกอร์ต่างประเทศที่มีการกำกับดูแลจากหน่วยงานชั้นนำระดับโลก
FCA (สหราชอาณาจักร): มาตรฐานทองคำด้านความปลอดภัย
FCA Forex ถือเป็นมาตรฐานทองคำของการกำกับดูแลระดับโลก โบรกเกอร์ FCA ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดที่สุด
การป้องกันสำคัญ:
- เงินทุนแยกบัญชี: เงินลูกค้าแยกจากเงินบริษัทอย่างเข้มงวด
- กองทุนประกันภัย FSCS: คุ้มครองเงินลงทุนสูงสุด £85,000
- การป้องกันยอดคงเหลือติดลบ: ไม่สามารถขาดทุนเกินเงินทุนที่ฝาก
- ข้อจำกัดเลเวอเรจ: สูงสุด 30:1 สำหรับนักเทรดทั่วไป
ASIC (ออสเตรเลีย): ความมั่นคงและน่าเชื่อถือ
ASIC Forex เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานกำกับดูแลที่ได้รับการยอมรับระดับโลก โบรกเกอร์ ASIC ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด
การป้องกันสำคัญ:
- เงินทุนแยกบัญชีที่เข้มงวด
- การป้องกันยอดคงเหลือติดลบ
- ข้อกำหนดเงินทุนขั้นต่ำสูงสำหรับโบรกเกอร์
- การตรวจสอบการเงินประจำปี
CySEC (ไซปรัส): ประตูสู่ตลาดยุโรป
CySEC Forex เป็นศูนย์กลางการกำกับดูแลสำคัญของยุโรป โบรกเกอร์ CySEC ต้องปฏิบัติตาม MiFID II ของสหภาพยุโรป
การป้องกันสำคัญ:
- กองทุนชดเชยนักลงทุน (ICF): คุ้มครองสูงสุด €20,000
- เงินทุนแยกบัญชีตามมาตรฐาน EU
- การป้องกันยอดคงเหลือติดลบภายใต้ MiFID II
- ข้อกำหนดเงินทุนขั้นต่ำที่เข้มงวด
วิธีตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ด้วยตัวเอง (Step-by-Step)
วิธีเช็คโบรกเกอร์ ที่ถูกต้องและปลอดภัยมีดังนี้:
ขั้นตอนที่ 1: ค้นหาข้อมูลบริษัทและเลขที่ใบอนุญาต
เข้าไปที่เว็บไซต์โบรกเกอร์ แล้วค้นหา:
- ชื่อบริษัทเต็ม (Legal Entity Name)
- เลขที่ใบอนุญาต (License Number)
- หน่วยงานกำกับดูแล (Regulatory Body)
ขั้นตอนที่ 2: เข้าสู่เว็บไซต์หน่วยงานกำกับดูแล
ตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ ผ่านเว็บไซต์ทางการ:
ขั้นตอนที่ 3: ใส่ข้อมูลในระบบค้นหา
กรอกข้อมูลที่ได้จากขั้นตอนที่ 1 แล้วเปรียบเทียบ:
- ชื่อบริษัทตรงกันหรือไม่
- ที่อยู่บริษัทตรงกันหรือไม่
- ประเภทใบอนุญาตครอบคลุม Forex Trading หรือไม่
- สถานะใบอนุญาตยังใช้ได้หรือไม่
ขั้นตอนที่ 4: เช็คข้อมูลเครื่องมือเพิ่มเติม
ใบอนุญาต Forex ที่ถูกต้องจะต้องมี:
- การแสดงข้อมูลการแยกเงินทุนลูกค้า
- การประกันภัยหรือกองทุนคุ้มครอง
- รายงานการเงินประจำปี
- ข้อมูลการติดต่อที่ชัดเจน
โบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ จะมีการแสดงข้อมูลเห่านี้อย่างโปร่งใส
การเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม: เกณฑ์มาตรฐานสำหรับนักเทรดไทย
นอกจากการกำกับดูแลแล้ว เลือกโบรกเกอร์ Forex ยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ:
ปัจจัยด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม
- การแยกเงินทุน (Segregated Funds)
- เงินลูกค้าแยกจากเงินบริษัท
- ฝากในธนาคารระดับ Tier 1
- มีการตรวจสอบโดยหน่วยงานภายนอก
- การป้องกันยอดติดลบ (Negative Balance Protection)
- ไม่สามารถขาดทุนเกินเงินทุนที่ฝาก
- ระบบ Stop Out อัตโนมัติ
- การจัดการความเสี่ยงแบบ Real-time
- ประกันภัยและกองทุนชดเชย
- มีกองทุนคุ้มครองนักลงทุน
- วงเงินคุ้มครองที่เหมาะสม
- กระบวนการเรียกร้องค่าชดเชยที่ชัดเจน
ปัจจัยด้านการใช้งาน
เกณฑ์
|
มาตรฐานที่ควรมี
|
---|
Spread
|
เริ่มต้น 0.0-0.8 pips สำหรับคู่เงินหลัก
|
---|
การดำเนินการ
|
เฉลี่ยต่ำกว่า 100ms
|
---|
เงินฝากขั้นต่ำ
|
เริ่มต้นไม่เกิน $100-500
|
---|
การฝาก-ถอน
|
รองรับสกุลเงินบาทหรือการโอนภายในประเทศ
|
---|
ช่องทางติดต่อ
|
Live Chat 24/5 และมีเจ้าหน้าที่พูดไทย
|
---|
ความเสี่ยงและข้อควรระวังสำหรับนักเทรดไทย
แม้ว่าเทรดเอง Forex จะไม่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน แต่ยังมีความเสี่ยงที่ต้องรับทราบ:
ความเสี่ยงทางกฎหมาย
- การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย: กฎหมายอาจเปลี่ยนแปลงในอนาคต
- การบังคับใช้: อาจมีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้น
- ภาษี: ผลกำไรจากการเทรดอาจต้องเสียภาษี
ความเสี่ยงทางการเงิน
- ความผันผวนสูง: ตลาด Forex มีความผันผวนสูงมาก
- เลเวอเรจ: อาจทำให้ขาดทุนเกินเงินทุน (หากไม่มีการป้องกัน)
- ความเสี่ยงจากโบรกเกอร์: เลือกโบรกเกอกที่ไม่น่าเชื่อถือ
แนวทางลดความเสี่ยง
ความปลอดภัย ในการเทรด Forex สามารถเพิ่มได้ด้วย:
- การศึกษาอย่างต่อเนื่อง
- เรียนรู้การวิเคราะห์เทคนิคและพื้นฐาน
- ทำความเข้าใจการจัดการความเสี่ยง
- ฝึกฝนใน Demo Account ก่อน
- การจัดการเงินทุน
- ไม่ลงทุนเกินกว่าที่จะรับการสูญเสียได้
- กระจายความเสี่ยงในหลายคู่เงิน
- ใช้ Stop Loss อย่างเข้มงวด
- การเลือกโบรกเกอร์
- เลือกเฉพาะโบรกเกอร์ที่มีการกำกับดูแล
- ตรวจสอบประวัติและเสียงขององเปรียง
- ทดสอบการให้บริการก่อนใช้งานจริง
ทางเลือกการลงทุนอื่นๆ ที่ถูกกฎหมายในไทย
สำหรับผู้ที่ยังมีความกังวลเรื่องForex ในไทย ถูกกฎหมาย มีทางเลือกการลงทุนอื่นที่ได้รับการกำกับดูแลอย่างชัดเจน:
ตราสารอนุพันธ์ในตลาดไทย
- Derivative Warrants (DW)
- Exchange Traded Funds (ETF)
- ฟิวเจอร์สและออปชั่น
การลงทุนในหุ้นต่างประเทศ
- Dragon Portlolio ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ไทย
- Global Feeder Fund
- กองทุนรวมลงทุนต่างประเทศ
สินทรัพย์ดิจิทัล
ตาามที่ ก.ล.ต. ได้กำกับดูแล สามารถลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มที่ได้รับอนุญาต
สรุป: แนวทางการเทรด Forex ที่ถูกต้องและปลอดภัยสำหรับคนไทย
สรุป Forex ในประเทศไทยนั้นสามารถทำได้อย่างถูกต้องหากเข้าใจกฎเกณฑ์และปฏิบัติตามแนวทางที่เหมาะสม
ประเด็นสำคัญที่ต้องจำ:
- การเทรด Forex ส่วนบุคคลไม่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน แต่อยู่ในพื้นที่สีเทา
- การประกอบธุรกิจ Forex ผิดกฎหมาย อย่างชัดเจนในไทย
- การเลือกโบรกเกอร์ที่มีการกำกับดูแล เป็นสิ่งสำคัญที่สุด
- แชร์ลูกโซ่และการเทรดจริงต่างกัน อย่างสิ้นเชิง
แนวทางปฏิบัติที่แนะนำ:
สำหรับนักเทรดมือใหม่:
- เริ่มต้นด้วยการศึกษาและฝึกฝนใน Demo Account
- เลือกโบรกเกอร์ที่มีการกำกับดูแลจาก FCA, ASIC, หรือ CySEC
- เริ่มต้นด้วยเงินทุนน้อยที่พร้อมจะเสียได้
- หลีกเลี่ยง “มาสเตอร์” หรือสัญญาณที่รับประกันผลตอบแทน
สำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์:
- ตรวจสอบสถานะใบอนุญาตโบรกเกอร์เป็นประจำ
- กระจายความเสี่ยงด้วยการใช้หลายโบรกเกอร์
- รักษาสถิติการเทรดและวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน
- พิจารณาผลกระทบด้านภาษีและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ข้อควรระวังสุดท้าย:
Forex ผิดกฎหมายไหม เป็นคำถามที่ตอบได้แล้ว แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือการเทรดอย่างรับผิดชอบและปลอดภัย
นักเทรดชาวไทย สามารถเทรด Forex ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกฎหมาย หากปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้อง เลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ และเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
การตัดสินใจลงทุนใด ๆ ควรอิงจากความรู้ ความเข้าใจ และความพร้อมทางการเงิน ไม่ใช่จากความหวังหรือคำชวนเหลื่อมจากผู้อื่น
คำตอบที่ชัดเจน สำหรับ Forex ผิดกฎหมายไหม คือ: การเทรดส่วนตัวไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องเทรดอย่างถูกต้องและปลอดภัย ด้วยการเลือกโบรกเกอร์ที่มีการกำกับดูแลและเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
FAQ
1. Forex ผิดกฎหมายไหม สำหรับคนธรรมดาที่อยากเทรดเอง?
คำตอบ: การเทรด Forex ด้วยเงินทุนส่วนตัวผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศที่มีการกำกับดูแลไม่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน อยู่ในพื้นที่สีเทาและไม่ใช่เป้าหมายหลักของการบังคับใช้กฎหมาย
2. ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าโบรกเกอร์ไหนปลอดภัย?
คำตอบ: เลือกโบรกเกอร์ที่มีการกำกับดูแลจาก FCA, ASIC, หรือ CySEC และตรวจสอบใบอนุญาตผ่านเว็บไซต์ทางการของหน่วยงานเหล่านั้น ต้องมีการแยกเงินทุนลูกค้าและประกันภัย
3. การเทรด Forex มีความเสี่ยงอะไรบ้าง?
คำตอบ: ความเสี่ยงหลักคือการขาดทุนจากความผันผวนของตลาด ความเสี่ยงจากเลเวอเรจ และความเสี่ยงจากโบรกเกอร์ที่ไม่น่าเชื่อถือ แต่สามารถลดได้ด้วยการศึกษาและเลือกโบรกเกอร์ที่ถูกต้อง
4. ฉันต้องเสียภาษีจากกำไร Forex หรือไม่?
คำตอบ: ตามกฎหมายไทย กำไรจากการลงทุนอาจต้องเสียภาษี ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อความชัดเจน เนื่องจากยังไม่มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนจากกรมสรรพากร
5. ทำไมผลกำไรของฉันไม่เท่ากับที่ “มาสเตอร์” โชว์?
คำตอบ: การเทรดที่แท้จริงมีทั้งกำไรและขาดทุน หาก “มาสเตอร์” คนใดแสดงแต่ผลกำไรอย่างเดียว อาจเป็นการหลอกลวงหรือการใช้บัญชี Demo เป็นการดีกว่าที่จะเรียนรู้และเทรดเอง