หากเป็นเทรดเดอร์ที่เพิ่งเริ่มต้นเทรด Forex คุณอาจเคยสงสัยว่า ค่า swap คิดยังไง เมื่อเห็นตัวเลขบวกหรือลบปรากฏในบัญชีเทรดหลังจากถือ position ข้ามคืน วันนี้เราจะมาอธิบายแบบละเอียดตั้งแต่สูตรการคำนวณ วิธีดูค่า swap จริงบนแพลตฟอร์ม ไปจนถึงเทคนิคการใช้ประโยชน์จากข้อมูลนี้
การเข้าใจเรื่อง swap forex คืออะไร และวิธีการคำนวณจะช่วยให้คุณวางแผนการเทรดได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อคิดจะถือ position ระยะยาวหรือทำ carry trade เพราะค่า swap นี้สามารถเป็นได้ทั้งรายได้เสริมหรือค่าใช้จ่ายที่ต้องพิจารณา

Swap คืออะไรในตลาด Forex? ทำความเข้าใจใน 2 นาที
Swap ในตลาด Forex หมายถึง ดอกเบี้ยข้ามคืน ที่เทรดเดอร์จะได้รับหรือต้องจ่ายเมื่อถือ position ค้างคืน หรือที่เรียกว่า rollover การเกิดขึ้นของ swap นี้มาจากการที่เทรด forex เปรียบเสมือนการ “ยืม” สกุลเงินหนึ่งมาแลกกับการ “ให้ยืม” อีกสกุลหนึ่ง
ลองคิดภาพง่ายๆ เมื่อคุณเปิด position EUR/USD แบบ long คุณกำลัง “ซื้อ” EUR ด้วย USD นั่นหมายความว่าคุณกำลังยืม USD มาซื้อ EUR เหมือนกับการที่คุณไปยืมเงินจากธนาคารเพื่อไปซื้อสินทรัพย์อื่น
ที่มาของคำว่า swap มาจากการ “แลกเปลี่ยน” อัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงิน เมื่อถึงเวลา rollover (เวลา 00:00 ตามเวลาเซิร์ฟเวอร์ของโบรกเกอร์) ระบบจะคำนวณส่วนต่างของ อัตราดอกเบี้ย ระหว่างสองสกุลเงินและคิดค่าใช้จ่ายหรือให้ผลตอบแทนตามสัดส่วน
การที่ swap มีทั้งค่าบวกและค่าลบขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยของประเทศที่ออกสกุลเงินนั้นๆ หากคุณถือสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า คุณจะได้รับ swap บวก แต่หากถือสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า คุณจะต้องจ่าย swap ลบ
ค่า Swap คิดยังไง? เปิดสูตรคำนวณที่เทรดเดอร์ต้องรู้

การคำนวณ ค่า swap คิดยังไง มีสูตรพื้นฐานที่เข้าใจได้ไม่ยาก แต่ต้องเข้าใจองค์ประกอบต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการคำนวณก่อน
สูตรพื้นฐาน: Swap = (Pip Value × Swap Rate × จำนวนคืน) ÷ 10
องค์ประกอบสำคัญในสูตรประกอบด้วย:
- Pip Value – มูลค่าของ 1 pip ตาม lot size ที่เทรด
- Swap Rate – อัตรา swap ที่โบรกเกอร์กำหนดสำหรับแต่ละคู่สกุลเงิน
- Lot Size – ขนาดของ position ที่ถือ (Standard Lot = 100,000 หน่วย)
- จำนวนคืน – จำนวนวันที่ถือ position ข้ามคืน
ตัวอย่างการคำนวณแบบง่าย: หากคุณถือ EUR/USD long 1 standard lot ด้วย swap rate +0.5 points เป็นเวลา 1 คืน
การคำนวณ: (10 USD × 0.5 × 1) ÷ 10 = 0.5 USD
นั่นหมายความว่าคุณจะได้รับเงินเข้าบัญชี 0.5 USD สำหรับคืนนั้น
สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ swap rate จะแตกต่างกันไปตามโบรกเกอร์และสภาวะตลาด บางโบรกเกอร์อาจคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ดังนั้นการเช็คค่า swap จริงจากแพลตฟอร์มจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ปัจจัยที่กำหนดค่า Swap: อัตราดอกเบี้ยธนาคารกลาง

อัตราดอกเบี้ย ที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศกำหนดเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อ swap rate ธนาคารกลางสำคัญที่เทรดเดอร์ควรติดตาม ได้แก่:
- Federal Reserve (Fed) – ธนาคารกลางสหรัฐฯ ควบคุมอัตราดอกเบี้ย USD
- European Central Bank (ECB) – ธนาคารกลางยุโรป ควบคุมอัตราดอกเบี้ย EUR
- Bank of Japan (BoJ) – ธนาคารกลางญี่ปุ่น ควบคุมอัตราดอกเบี้ย JPY
- Bank of England (BoE) – ธนาคารกลางอังกฤษ ควบคุมอัตราดอกเบี้ย GBP
เมื่อธนาคารกลางใดปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลโดยตรงต่อ swap rate ของคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้อง การติดตามข่าวการเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการใช้ประโยชน์จาก swap
ทำไมมีทั้ง Swap บวก และ Swap ลบ?
การที่ swap มีทั้งค่าบวกและค่าลบมาจากหลักการพื้นฐานของการยืมเงิน เมื่อคุณถือสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า คุณจะได้รับ swap บวก เพราะเสมือนได้ดอกเบี้ยจากการฝากเงิน
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือคู่ AUD/JPY ออสเตรเลียมักมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าญี่ปุ่นมาก เมื่อเปิด position AUD/JPY long คุณจะได้รับ swap บวกเพราะถือ AUD (อัตราดอกเบี้ยสูง) และขาย JPY (อัตราดอกเบี้ยต่ำ)
ในทางกลับกัน หากเปิด position AUD/JPY short คุณจะต้องจ่าย swap ลบ เพราะขาย AUD (อัตราดอกเบี้ยสูง) และถือ JPY (อัตราดอกเบี้ยต่ำ) เหมือนกับการที่คุณต้องจ่ายดอกเบี้ยสำหรับเงินที่ยืมมา
วิธีดูค่า Swap จริงจากแพลตฟอร์มเทรด (MT4/MT5)
การรู้ ดูค่า swap mt5 ตรงไหน หรือบน MT4 จะช่วยให้คุณวางแผนการเทรดได้ดีขึ้น เพราะค่า swap ที่แสดงนี้เป็นข้อมูลจริงที่จะถูกคิดกับบัญชีของคุณ
วิธีดูค่า Swap บน MT4:
- เปิดหน้าต่าง Market Watch
- คลิกขวาที่คู่สกุลเงินที่ต้องการดู
- เลือก “Specification” หรือ “Properties”
- มองหาส่วน “Swap” จะเห็น “Swap long” และ “Swap short”
วิธีดูค่า Swap บน MT5:
- ไปที่ Market Watch
- คลิกขวาที่คู่สกุลเงินที่สนใจ
- เลือก “Specification”
- ดูในส่วน “Swap” จะมีข้อมูลครบถ้วนกว่า MT4
การอ่านตัวเลข swap ที่ถูกต้อง:
- Swap Long = ค่า swap เมื่อเปิด position ซื้อ (Buy)
- Swap Short = ค่า swap เมื่อเปิด position ขาย (Sell)
- ถ้าเป็นค่าบวก (+) = ได้รับเงิน
- ถ้าเป็นค่าลบ (-) = เสียเงิน
ตัวเลขที่แสดงจะเป็นหน่วย points สำหรับ 1 standard lot และถูกคิดทุกคืนเวลา 00:00 ตามเวลาเซิร์ฟเวอร์ของโบรกเกอร์
ตัวอย่างการคำนวณค่า Swap แบบ Real-time
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่า ค่า swap คิดยังไง ในสถานการณ์จริง เรามาดูตัวอย่างการคำนวณกับคู่สกุลเงินยอดนิยม
คู่สกุลเงิน | Position | Swap Rate (Points) | การคำนวณ (1 Lot) | ผลลัพธ์ต่อคืน |
---|
EUR/USD | Long | -0.85 | (10 × -0.85) ÷ 10 | -$0.85 |
---|
EUR/USD | Short | +0.45 | (10 × +0.45) ÷ 10 | +$0.45 |
---|
GBP/JPY | Long | +5.20 | (8.7 × +5.20) ÷ 10 | +$4.52 |
---|
GBP/JPY | Short | -5.80 | (8.7 × -5.80) ÷ 10 | -$5.05 |
---|
XAU/USD | Long | -12.50 | (1 × -12.50) ÷ 10 | -$1.25 |
---|
XAU/USD | Short | +8.75 | (1 × +8.75) ÷ 10 | +$0.88 |
---|
จากตารางจะเห็นว่า GBP/JPY เป็นคู่ที่น่าสนใจสำหรับ carry trade เพราะให้ positive swap สูงเมื่อถือ long position ขณะที่ EUR/USD กลับให้ negative swap เมื่อถือ long
สำหรับทอง (XAU/USD) มักจะมี negative swap สูงเมื่อถือ long เพราะทองไม่ให้ดอกเบี้ย แต่ต้องเสียค่าเก็บรักษา ส่วนการ short ทองจะได้รับ positive swap แต่มีความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง
ตัวอย่างการคำนวณ Swap สำหรับ Micro และ Mini Lots:
Micro Lot (0.01): EUR/USD Long = (10 × -0.85 × 0.01) ÷ 10 = -$0.0085
Mini Lot (0.1): EUR/USD Long = (10 × -0.85 × 0.1) ÷ 10 = -$0.085
การคำนวณนี้เป็นเพียงตัวอย่าง ค่า swap จริงจะเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาดและนโยบายของโบรกเกอร์ ดังนั้นการเช็คค่าล่าสุดจากแพลตฟอร์มก่อนเทรดจึงเป็นสิ่งสำคัญ
การคำนวณนี้เป็นเพียงตัวอย่าง ค่า swap จริงจะเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาดและนโยบายของโบรกเกอร์ ดังนั้นการเช็คค่าล่าสุดจากแพลตฟอร์มก่อนเทรดจึงเป็นสิ่งสำคัญ
วันพุธพิเศษ? ทำความรู้จักกับ Triple Swap

หนึ่งในสิ่งที่เทรดเดอร์มือใหม่มักสงสัยคือทำไมวันพุธถึงมีการคิด swap เป็น 3 เท่า หรือที่เรียกว่า Triple Swap เรื่องนี้เกิดจากการที่ตลาด Forex ปิดในวันหยุดสุดสัปดาห์
เนื่องจากตลาด Forex ปิดในวันเสาร์และวันอาทิตย์ แต่การคิดดอกเบี้ยยังคงดำเนินต่อไป ระบบจึงต้องคิด swap สำหรับ 3 วัน (ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์) ในวันเดียว โดยส่วนใหญ่จะเป็นวันพุธ
การเลือกวันพุธเป็นวัน triple swap เพราะเป็นวันที่การ settlement ของสัญญา spot forex จะครบกำหนด 2 วันทำการ (T+2) พอดีกับวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนหยุดสุดสัปดาห์
ตัวอย่างการคิด Triple Swap:
- วันปกติ: EUR/USD long = -0.85 points
- วันพุธ: EUR/USD long = -2.55 points (-0.85 × 3)
นี่หมายความว่าหากคุณถือ position ข้ามคืนวันพุธ คุณจะเสียค่า swap เป็น 3 เท่าสำหรับ position ที่เป็น negative swap และได้รับ 3 เท่าสำหรับ position ที่เป็น positive swap
เทรดเดอร์ที่ทำ scalping หรือ day trading ควรระวังไม่ให้ position ค้างผ่านวันพุธโดยไม่ตั้งใจ เพราะอาจสูญเสียเงินจาก triple swap ได้มาก
กลยุทธ์จัดการ Triple Swap:
- การปิด Position ก่อน 23:59 วันอังคาร – เพื่อหลีกเลี่ยง triple swap ที่ไม่ต้องการ
- การใช้ประโยชน์จาก Positive Triple Swap – ถือ position ที่ให้ positive swap ผ่านวันพุธเพื่อรับผลตอบแทน 3 เท่า
- การวางแผน Swing Trading – คำนวณผลกระทบของ triple swap ในการวางแผนถือ position ระยะยาว
บัญชีปลอดค่า Swap (Swap-Free Account) คืออะไร? เหมาะกับใคร?

สำหรับเทรดเดอร์ที่ไม่ต้องการเสี่ยงกับค่า swap หรือมีข้อจำกัดทางศาสนา บัญชีปลอดค่าสวอป หรือ Islamic Account เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
Swap-Free Account เป็นบัญชีที่ไม่คิดค่า swap ตามหลักการทางศาสนาอิสลามที่ห้ามการคิดดอกเบี้ย (Riba) แทนที่จะคิด swap โบรกเกอร์อาจคิดค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการแบบคงที่แทน
ข้อดีของบัญชี Swap-Free:
- ไม่ต้องกังวลเรื่องค่า swap ที่เปลี่ยนแปลง
- เหมาะสำหรับ position trading และ swing trading
- สามารถถือ position ได้นานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจาก rollover
- เหมาะกับผู้ที่มีข้อจำกัดทางศาสนา
ข้อเสียที่ควรพิจารณา:
- อาจมี spread ที่กว้างกว่าบัญชีปกติ
- ไม่ได้รับ positive swap เมื่อมีโอกาส
- อาจมีข้อจำกัดในการเทรด เช่น ห้าม scalping หรือมีระยะเวลาการถือ position ขั้นต่ำ
- บางโบรกเกอร์อาจคิดค่าธรรมเนียมรายวันแทน
การเลือกใช้บัญชี swap-free ควรพิจารณาให้ดีกับสไตล์การเทรดของตัวเอง หากเป็นเทรดเดอร์ที่ชอบถือ position ระยะยาวและไม่ต้องการความซับซ้อนจากการคิด swap บัญชีประเภทนี้อาจเหมาะสม
บางโบรกเกอร์อาจมีข้อกำหนดพิเศษสำหรับบัญชี swap-free เช่น การห้ามปิด position ภายใน 10 นาทีหรือการคิดค่าธรรมเนียมรายวันหากถือ position เกิน 7 วัน ดังนั้นการอ่านเงื่อนไขให้ละเอียดจึงสำคัญมาก
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของ Swap Rate
นอกจากอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อ ค่า swap ที่เทรดเดอร์ควรติดตาม
ภาวะเศรษฐกิจโลก มีผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินทุนระหว่างประเทศ ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน นักลงทุนมักหลบภัยไปยังสกุลเงินที่ปลอดภัย เช่น USD, JPY, CHF ทำให้ swap rate ของสกุลเงินเหล่านี้เปลี่ยนแปลง
การดำเนิน Quantitative Easing (QE) หรือนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณของธนาคารกลางก็ส่งผลโดยตรง เมื่อธนาคารกลางใดเริ่มหรือหยุดการ QE จะกระทบต่อสภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ยระยะยาว
ความผันผวนของตลาด (Market Volatility) ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ในช่วงที่ตลาดผันผวนสูง โบรกเกอร์อาจปรับ swap rate เพื่อป้องกันความเสี่ยง โดยเฉพาะสำหรับคู่สกุลเงิน exotic หรือสินค้าโภคภัณฑ์
เหตุการณ์ทางการเมือง เช่น การเลือกตั้ง การ Brexit หรือความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ล้วนส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและการไหลของเงินทุน ซึ่งสะท้อนผ่าน swap rate ของสกุลเงินที่เกี่ยวข้อง
เทคนิคขั้นสูงในการใช้ประโยชน์จาก Swap
เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์สามารถใช้เทคนิคขั้นสูงในการจัดการ swap เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเทรด
Swap Arbitrage เป็นเทคนิคการหาผลกำไรจากความแตกต่างของ swap rate ระหว่างโบรกเกอร์หรือระหว่างตลาด โดยการเปิด position ในทิศทางตรงกันข้ามเพื่อให้ได้ positive swap สุทธิ แต่เทคนิคนี้ต้องระวังเรื่องความเสี่ยงจาก spread และ slippage
การทำ Currency Hedging โดยใช้ swap เป็นเครื่องมือช่วย เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีพอร์ตการลงทุนข้ามประเทศ สามารถใช้ positive swap ชดเชยค่าใช้จ่ายในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
Dynamic Position Sizing คือการปรับขนาด position ตาม swap rate ที่เปลี่ยนแปลง เมื่อ swap rate ดี อาจเพิ่มขนาด position เพื่อได้ประโยชน์มากขึ้น และลดขนาดเมื่อ swap rate แย่ลง
การสร้าง Swap Calendar เพื่อติดตามวันที่มี triple swap, วันหยุดของธนาคารกลาง และกำหนดการประกาศนโยบายการเงิน จะช่วยให้วางแผนการเทรดได้ดีขึ้น
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Swap
เทรดเดอร์มือใหม่มักทำผิดพลาดเกี่ยวกับการจัดการ ค่า swap ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อผลการเทรด
การไม่เช็คค่า swap ก่อนเทรด เป็นข้อผิดพลาดพื้นฐานที่พบบ่อย เทรดเดอร์หลายคนมองข้ามค่า swap และต่อมาต้องเสียเงินโดยไม่คาดคิด โดยเฉพาะเมื่อถือ position ระยะยาว
การเข้าใจผิดเรื่อง triple swap บางคนคิดว่า triple swap เกิดขึ้นทุกวันศุกร์ แต่จริงๆ แล้วเกิดขึ้นในวันพุธ ความเข้าใจผิดนี้อาจทำให้วางแผนการเทรดผิดพลาด
การคิดว่า positive swap = ปลอดภัย ก็เป็นอีกข้อผิดพลาด positive swap อาจดูน่าสนใจ แต่ถ้าราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้าม ผลขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงราคาอาจมากกว่าผลกำไรจาก swap หลายเท่า
การไม่อัพเดตข้อมูล swap เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน ค่า swap อาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การใช้ข้อมูลเก่าอาจทำให้การวางแผนผิดพลาดได้
ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อระบบ Swap
เทคโนโลยีสมัยใหม่กำลังเปลี่ยนแปลงระบบการคำนวณและการแสดงผล swap ในหลายด้าน
ระบบ Real-time Calculation ทำให้เทรดเดอร์สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของ swap rate แบบทันที รวมถึงการประมาณค่า swap ที่จะเกิดขึ้นก่อนที่จะเปิด position
AI และ Machine Learning เริ่มถูกนำมาใช้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของ swap rate จากข้อมูลทางเศรษฐกิจและการเงิน ช่วยให้นักลงทุนสถาบันสามารถวางแผนระยะยาวได้ดีขึ้น
Mobile Trading Apps ปัจจุบันมี features ที่ช่วยคำนวณ swap cost/profit ล่วงหน้า รวมถึงการส่ง notification เมื่อ swap rate เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
Blockchain Technology อาจมีบทบาทในอนาคตสำหรับการทำ settlement และการคำนวณ swap แบบ decentralized ซึ่งอาจลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความโปร่งใส
การก้าวทันเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถจัดการ ค่า swap ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นได้ดีกว่าเดิม
กลยุทธ์การใช้ประโยชน์จากข้อมูล Swap ในการเทรด
การเข้าใจว่า ค่า swap คิดยังไง ไม่ได้มีประโยชน์แค่การคำนวณค่าใช้จ่าย แต่สามารถนำมาพัฒนากลยุทธ์การเทรดได้อีกด้วย
Carry Trade Strategy เป็นกลยุทธ์ยอดนิยมที่ใช้ประโยชน์จาก positive swap โดยการถือสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงและขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ นอกจากจะได้รับ swap เป็นรายได้เสริมแล้ว ยังหวังผลกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย
กลยุทธ์การบริหาร swap อย่างมีประสิทธิภาพ:
- การเลือกเวลาเทรด – หลีกเลี่ยงการถือ position ข้ามวันพุธหาก negative swap สูง
- การ hedge ด้วย swap – ใช้ positive swap จากคู่หนึ่งชดเชย negative swap จากอีกคู่
- การปรับ lot size – คำนวณ lot size ให้เหมาะสมกับงบประมาณสำหรับค่า swap
- การติดตามข่าวการเงิน – ปรับกลยุทธ์ตามการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย
ตัวอย่างการเปรียบเทียบ Swap Rate ประเภทบัญชีต่างๆ
ประเภทบัญชี | EUR/USD Long | EUR/USD Short | GBP/JPY Long | GBP/JPY Short | ลักษณะเด่น |
---|
Standard Account | -0.85 | +0.45 | +5.20 | -5.80 | Swap rate ปกติตามตลาด |
---|
Premium Account | -0.95 | +0.50 | +5.50 | -5.50 | Swap rate ดีกว่าเล็กน้อย |
---|
Swap-Free Account | 0.00 | 0.00 | 0.00 | 0.00 | ไม่มี swap แต่อาจมี spread กว้างกว่า |
---|
ECN Account | -1.20 | +0.30 | +4.80 | -6.20 | Raw spread แต่ swap อาจแย่กว่า |
---|
หมายเหตุ: ตัวเลขเป็นเพียงตัวอย่างเพื่อการเปรียบเทียบ ค่า swap จริงเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาดและนโยบายของแต่ละโบรกเกอร์
สรุปสำคัญเรื่องการคำนวณค่า Swap
การเข้าใจ ค่า swap คิดยังไง เป็นความรู้พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณค่าใช้จ่าย การวางแผน carry trade หรือการเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสม
จุดสำคัญที่ต้องจำไว้คือ swap มาจากส่วนต่างของ อัตราดอกเบี้ย ระหว่างสองสกุลเงิน การคำนวณใช้สูตร (Pip Value × Swap Rate × จำนวนคืน) ÷ 10 และค่า swap จะถูกคิดทุกคืนเวลา 00:00 ตามเวลาเซิร์ฟเวอร์
สิ่งที่เทรดเดอร์ควรปฏิบัติคือการเช็คค่า swap จริงจากแพลตฟอร์มก่อนเปิด position ติดตามข่าวการปรับอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง และเลือกใช้บัญชี swap-free หากเหมาะสมกับสไตล์การเทรด
การใช้ความรู้เรื่อง swap อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การเลือกโบรกเกอร์ที่ให้เงื่อนไข swap ดีเป็นปัจจัยสำคัญ อ่านรีวิวในการเลือกโบรกเกอร์ได้ที่ [รีวิว 10 อันดับโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในไทย]
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับค่า Swap
ถือออเดอร์ข้ามคืนต้องจ่ายค่า Swap เสมอไปไหม
ไม่เสมอไป ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและคู่สกุลเงินที่เทรด หากใช้บัญชี swap-free จะไม่มีการคิดค่า swap สำหรับบัญชีปกติ การถือ position ข้ามเวลา rollover จะมีการคิด swap เสมอ แต่อาจเป็นค่าบวกหรือลบก็ได้ตามส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของคู่สกุลเงินนั้น
ค่า Swap ส่งผลกระทบต่อการเทรดระยะยาวแค่ไหน
ผลกระทบขึ้นอยู่กับขนาด position และระยะเวลาการถือ สำหรับการเทรดระยะยาว swap อาจส่งผลต่อผลกำไรขาดทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น หากถือ EUR/USD long 1 lot เป็นเวลา 30 วัน ด้วย negative swap 0.85 points จะเสียค่า swap รวม 25.5 USD ซึ่งเท่ากับการขาดทุน 25.5 pips
เราจะรู้ค่า Swap ล่วงหน้าได้อย่างไร
สามารถเช็คได้จากแพลตฟอร์มเทรดในส่วน Market Specification ของแต่ละคู่สกุลเงิน ค่า swap จะแสดงเป็น points สำหรับ 1 standard lot นอกจากนี้ยังสามารถติดตามข่าวการปรับอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางเพื่อคาดการณ์ทิศทางการเปลี่ยนแปลงของ swap rate ในอนาคต รวมถึงการใช้เครื่องมือ swap calculator ที่หลายโบรกเกอร์มีให้บริการ
โบรกเกอร์แต่ละแห่งมีค่า Swap เท่ากันหรือไม่
ไม่เท่ากัน แต่ละโบรกเกอร์มีนโยบายการกำหนด swap rate ที่แตกต่างกัน รวมถึงค่าธรรมเนียมที่เก็บเพิ่มเติม บางโบรกเกอร์อาจมี swap ที่ดีกว่าสำหรับคู่สกุลเงินบางคู่ แต่แย่กว่าสำหรับคู่อื่น ดังนั้นการเปรียบเทียบ swap rate ของคู่สกุลเงินที่ชอบเทรดจึงเป็นปัจจัยหนึ่งในการเลือกโบรกเกอร์
ทำไมวันพุธถึงมี Swap เป็น 3 เท่า
เนื่องจากตลาด Forex ปิดในวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่การคิดดอกเบี้ยยังคงดำเนินต่อไป ระบบจึงคิด swap สำหรับ 3 วัน (ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์) รวมกันในวันพุธ เทรดเดอร์ที่ไม่ต้องการเสี่ยงกับ triple swap ควรปิด position ก่อนเวลา rollover ในวันพุธ หรือเลือกคู่สกุลเงินที่ให้ positive swap
Swap กับ Spread ต่างกันอย่างไร
Spread คือส่วนต่างระหว่างราคา bid และ ask ที่เกิดขึ้นทันทีเมื่อเปิด position ส่วน swap คือค่าดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นเมื่อถือ position ข้ามคืน spread เป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียว แต่ swap เป็นค่าใช้จ่ายหรือรายได้ที่สะสมทุกคืนตามระยะเวลาที่ถือ position
มี Swap Calculator ที่แนะนำไหม
มีหลายเครื่องมือที่ช่วยคำนวณ swap ล่วงหน้า เช่น Swap Calculator ของโบรกเกอร์ ส่วนใหญ่มีให้ใช้ฟรีบนเว็บไซต์, Mobile App Calculator ตัวแอปหลายตัวมี feature คำนวณ swap, Excel Template สร้าง spreadsheet สำหรับคำนวณ swap หลายคู่พร้อมกัน
ช่วงเวลาไหนที่ Swap Rate มักเปลี่ยนแปลง
Swap rate มักเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาสำคัญ เช่น หลังประกาศนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางหลัก (Fed, ECB, BoJ, BoE) หรือช่วงปลายเดือน/ไตรมาส เมื่อสถาบันการเงินปรับพอร์ต หรือช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง risk sentiment