เมื่อเริ่มต้นเทรด Forex คำถามที่เทรดเดอร์มือใหม่มักจะถามคือ เลเวอเรจ forex เท่าไหร่ดี สำหรับการเทรดของตัวเอง ซึ่งคำตอบนั้นไม่ได้ตายตัว เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่แต่ละคนมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ เงินทุน หรือระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
Leverage หรือ อัตราส่วนเลเวอเรจ เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้ เทรดเดอร์ สามารถควบคุม position ที่มีมูลค่าสูงกว่า เงินทุน ที่มีอยู่จริง แต่ก็มาพร้อมกับ ความเสี่ยง ที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจว่าการ เลือก leverage ที่ เหมาะสม ควรพิจารณาปัจจัยอะไรบ้าง และจะใช้อย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุดโดยไม่เสี่ยงเกินควร

Leverage คืออะไร? พื้นฐานที่ต้องเข้าใจ
ก่อนที่จะตอบคำถาม เลเวอเรจ forex เท่าไหร่ดี เรามาทำความเข้าใจเรื่อง Leverage กันก่อน โดยพื้นฐานแล้ว leverage คือการยืมเงินจาก โบรกเกอร์ เพื่อเพิ่มอำนาจการซื้อในตลาด Forex
การทำงานของ leverage เหมือนกับการซื้อบ้านด้วยสินเชื่อ เราไม่จำเป็นต้องมีเงินครบทั้งหมด แต่สามารถจ่ายเงินดาวน์เพียงส่วนหนึ่งแล้วยืมที่เหลือจากธนาคาร ในการเทรด Forex หลักการเดียวกันนี้ทำให้เราสามารถควบคุม position ขนาดใหญ่ด้วยเงินทุนน้อย
สมมติเรามีเงินในบัญชี $1,000 และใช้ leverage 1:100 เราจะสามารถควบคุม position ได้สูงสุด $100,000 ซึ่งเป็นขนาด 1 standard lot ในตลาด Forex
สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ leverage ไม่ได้เปลี่ยนความเสี่ยงของตลาด แต่เป็นการขยายผลกระทบของการเคลื่อนไหวของราคาต่อบัญชีของเรา ทั้งในด้านดีและด้านเสีย
มือใหม่ มักจะคิดว่า leverage สูงหมายถึงโอกาสกำไรสูง ซึ่งถูกต้องบางส่วน แต่ต้องจำไว้ว่าความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นในสัดส่วนเดียวกัน อ้างอิงจาก What is Forex Leverage? – Investopedia
ตัวอย่างการทำงานของ Leverage ในชีวิตจริง
สมมติเรามีเงินในบัญชี $1,000 และใช้ leverage 1:100 เราจะสามารถควบคุม position ได้สูงสุด $100,000 ซึ่งเป็นขนาด 1 standard lot ในตลาด Forex
การเปรียบเทียบกับการลงทุนอื่น:
- การซื้อหุ้น: ใช้เงินทุน 100% ไม่มี leverage
- การซื้อบ้าน: ดาวน์ 20% leverage 1:5
- การเทรด Forex: มาร์จิ้น 1% leverage 1:100
สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ leverage ไม่ได้เปลี่ยนความเสี่ยงของตลาด แต่เป็นการขยายผลกระทบของการเคลื่อนไหวของราคาต่อบัญชีของเรา ทั้งในด้านดีและด้านเสีย
มือใหม่ มักจะคิดว่า leverage สูงหมายถึงโอกาสกำไรสูง ซึ่งถูกต้องบางส่วน แต่ต้องจำไว้ว่าความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นในสัดส่วนเดียวกัน
Leverage และ Margin ทำงานร่วมกันอย่างไร

เพื่อเข้าใจว่า เลเวอเรจ forex เท่าไหร่ดี เราต้องเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่าง leverage กับ มาร์จิ้น (margin) ก่อน
Margin คือเงินที่เราต้องวางเป็นหลักประกันเพื่อเปิด position หนึ่งๆ โดยจำนวน margin จะขึ้นอยู่กับระดับ leverage ที่เราเลือกใช้
สูตรการคำนวณ margin ง่ายๆ คือ: Margin = (ขนาด Position ÷ Leverage) × อัตราแลกเปลี่ยน
ตัวอย่างการคำนวณ Margin แบบละเอียด
ลองดูตัวอย่างจริง: หากต้องการเปิด position EUR/USD ขนาด $100,000 (1 standard lot) ด้วย leverage 1:100:
- Margin ที่ต้องใช้ = $100,000 ÷ 100 = $1,000
- หากใช้ leverage 1:500: Margin = $100,000 ÷ 500 = $200
- หากใช้ leverage 1:50: Margin = $100,000 ÷ 50 = $2,000
ตารางเปรียบเทียบ Margin Requirements:
Leverage | Margin สำหรับ 1 Lot | เงินเหลือในบัญชี (จากทุน $5,000) | ความเสี่ยง Margin Call |
---|
1:50 | $2,000 | $3,000 | ต่ำ |
---|
1:100 | $1,000 | $4,000 | ปานกลาง |
---|
1:200 | $500 | $4,500 | ปานกลาง-สูง |
---|
1:500 | $200 | $4,800 | สูง |
---|
จากตัวอย่างจะเห็นว่า leverage สูงขึ้น margin ที่ต้องใช้ก็น้อยลง ทำให้มีเงินเหลือในบัญชีมากขึ้น แต่ก็หมายความว่าความเสี่ยงต่อการถูก margin call ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
การเข้าใจความสัมพันธ์นี้จะช่วยให้เราตัดสินใจเลือก อัตราส่วนเลเวอเรจ ที่เหมาะสมกับการบริหารเงินทุนของตัวเอง สามารถเข้าไปอ่านเรื่อง Margin เพิ่มเติมได้ที่บทความนี้เลย [ระดับมาร์จิ้น คืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักเทรด Forex]
ข้อดีและข้อเสียของการใช้ Leverage สูง

การตอบคำถาม เลเวอเรจ forex เท่าไหร่ดี ต้องเข้าใจข้อดีข้อเสียของการใช้ leverage ในระดับต่างๆ
ข้อดีของ Leverage สูง
เพิ่มโอกาสในการทำกำไร เป็นเหตุผลหลักที่หลายคนสนใจ leverage สูง เมื่อตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ถูกต้อง กำไรจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของ leverage ที่ใช้
ตัวอย่างการคำนวณกำไร:
- ทุน: $1,000, Leverage 1:100, Position: 1 lot EUR/USD
- ตลาดขึ้น 50 pips = กำไร $500 (50% ของทุน)
- หากใช้ Leverage 1:500 = กำไรเท่าเดิม แต่ใช้ margin น้อยกว่า
ใช้เงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ leverage สูงทำให้สามารถเปิดหลาย position หรือกระจายการลงทุนไปในหลาย คู่สกุลเงิน ได้โดยไม่ต้องใช้เงินทุนมาก
เข้าถึงตลาดได้ง่าย สำหรับคนที่มีเงินทุนจำกัด leverage สูงช่วยให้สามารถเทรดในขนาดที่มีความหมายได้
ข้อเสียของ Leverage สูง
ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น คือข้อเสียที่สำคัญที่สุด การใช้ leverage สูงทำให้การขาดทุนเกิดขึ้นได้เร็วมาก และอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้ในเวลาอันสั้น
สถิติความเสี่ยง:
- Leverage 1:100: Margin Call เกิดขึ้นเมื่อขาดทุน 20-30 pips
- Leverage 1:500: Margin Call เกิดขึ้นเมื่อขาดทุน 15-20 pips
- Leverage 1:1000: Margin Call เกิดขึ้นเมื่อขาดทุน 10-15 pips
ความเครียดทางจิตใจ การเห็นตัวเลขกำไรขาดทุนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วสร้างความเครียดและกดดัน ทำให้ตัดสินใจผิดพลาดจากอารมณ์
โอกาสโดน Margin Call สูง เมื่อใช้ leverage สูง เงิน margin ที่วางจะน้อย ทำให้เมื่อตลาดเคลื่อนไหวผิดทิศทาง โบรกเกอร์จะปิด position ให้เร็วกว่า
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม บาง โบรกเกอร์ อาจคิดค่าธรรมเนียมพิเศษหรือ spread ที่กว้างขึ้นสำหรับการใช้ leverage สูง
วิธีเลือก Leverage ที่เหมาะกับตัวเอง

เมื่อถึงจุดนี้ คำถาม เลเวอเรจ forex เท่าไหร่ดี จะต้องตอบผ่านการประเมินตัวเองในหลายมิติ
ประเมินระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
การ การจัดการความเสี่ยง เริ่มต้นจากการรู้จักตัวเอง เทรดเดอร์แต่ละคนมีระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้แตกต่างกัน
เทรดเดอร์แบบ Conservative (อนุรักษ์นิยม):
- มักจะเลือก leverage ต่ำ เช่น 1:50 หรือ 1:100 • ต้องการความมั่นคงมากกว่าผลตอบแทนสูง
- มีเงินทุนเพียงพอและไม่อยากเสี่ยงมาก
เทรดเดอร์แบบ Aggressive (ก้าวร้าว):
- อาจเลือก leverage สูง เช่น 1:500 หรือ 1:1000
- ยอมรับความเสี่ยงสูงเพื่อโอกาสกำไรมาก
- มีประสบการณ์และทักษะในการจัดการความเสี่ยง
แบบทดสอบความเสี่ยงสำหรับเทรดเดอร์
คำถามประเมินตัวเอง:
- หากขาดทุน 10% ของทุน คุณรู้สึกอย่างไร?
- a) ไม่กังวล → Conservative
- b) กังวลเล็กน้อย → Moderate
- c) เครียดมาก → ไม่ควรเทรด
- คุณมีประสบการณ์เทรดมาแล้วกี่ปี?
- a) น้อยกว่า 1 ปี → Leverage ต่ำ (1:50-1:100)
- b) 1-3 ปี → Leverage ปานกลาง (1:100-1:200)
- c) มากกว่า 3 ปี → สามารถใช้ Leverage สูงได้
พิจารณากลยุทธ์การเทรด
กลยุทธ์การเทรด ที่ใช้มีผลต่อการเลือก leverage อย่างมาก
Scalping: เทรดเดอร์ที่ทำ scalping มักใช้ leverage สูง เช่น 1:500-1:1000 เพราะต้องการกำไรจากการเคลื่อนไหวเล็กๆ ในเวลาสั้น
เทคนิค Scalping ที่ปลอดภัย:
- ใช้ Stop Loss แน่น 5-10 pips
- เป้าหมายกำไร 5-15 pips
- เทรดในช่วงเวลาที่มี volume สูง
- ใช้ position size เล็ก แม้จะมี leverage สูง
Swing Trading: เหมาะกับ leverage ปานกลาง เช่น 1:100-1:200 เพราะถือ position นานขึ้นและต้องการรองรับความผันผวนของตลาด
Position Trading: มักใช้ leverage ต่ำ เช่น 1:50-1:100 เพราะถือ position นานมากและต้องการความมั่นคง
ประเมินขนาดเงินทุน
ขนาดเงินทุน เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือก leverage เทรดเดอร์ที่มีเงินทุนน้อยมักจะถูกล่อใจให้ใช้ leverage สูง แต่นี่อาจเป็นกับดักที่อันตราย
เงินทุนน้อย (ต่ำกว่า $1,000): ควรเริ่มต้นด้วย leverage ต่ำ เช่น 1:50 เพื่อเรียนรู้และสร้างประสบการณ์
เงินทุนปานกลาง ($1,000-$10,000): สามารถใช้ leverage 1:100-1:200 ได้อย่างปลอดภัยหากมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี
เงินทุนมาก (มากกว่า $10,000): มีความยืดหยุ่นในการเลือก leverage ตามกลยุทธ์และประสบการณ์
ตารางเปรียบเทียบอัตราส่วน Leverage
อัตรา Leverage | Margin ต่อ 1 Lot | การเคลื่อนไหวที่ Margin Call | เหมาะสำหรับ | ระดับความเสี่ยง |
---|
1:50 | $2,000 | ~4000 pips | มือใหม่, Conservative | ต่ำ |
---|
1:100 | $1,000 | ~2000 pips | เทรดเดอร์ทั่วไป | ปานกลาง |
---|
1:200 | $500 | ~1000 pips | Swing Trader มีประสบการณ์ | ปานกลาง-สูง |
---|
1:500 | $200 | ~400 pips | Scalper, Day Trader | สูง |
---|
1:1000 | $100 | ~200 pips | เทรดเดอร์โปร | สูงมาก |
---|
จากตารางจะเห็นว่า leverage สูงขึ้น margin call จะเกิดขึ้นเร็วขึ้น นี่คือเหตุผลที่การเลือก อัตราส่วนเลเวอเรจ ต้องสอดคล้องกับประสบการณ์และทักษะในการจัดการความเสี่ยง
การจัดการความเสี่ยงคือกุญแจสำคัญ

ไม่ว่าจะตอบคำถาม เลเวอเรจ forex เท่าไหร่ดี อย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดคือ การจัดการความเสี่ยง ที่เหมาะสม
หลักการพื้นฐานในการจัดการความเสี่ยง
กฎ 2% Rule เป็นหลักการที่นิยมใช้กัน คือไม่ควรเสี่ยงเกิน 2% ของเงินทุนทั้งหมดใน trade เดียว แม้จะใช้ leverage สูงก็ตาม
Position Sizing การคำนวณขนาด position ที่เหมาะสมตาม leverage และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
Stop Loss การตั้ง stop loss ทุก trade โดยไม่มีข้อยกเว้น และต้องตั้งก่อนเปิด position
เทคนิคการจัดการความเสี่ยงขั้นสูง
- Trailing Stop การปรับ stop loss ตามกำไรที่เพิ่มขึ้น เพื่อล็อคกำไรและป้องกันการกลับมาขาดทุน
- วิธีการตั้ง Trailing Stop:
- เริ่มต้นด้วย Stop Loss ปกติ
- เมื่อกำไรเพิ่มขึ้น 20 pips → ปรับ Stop Loss ขยับตาม 10 pips
- ทำซ้ำจนกว่าจะถูก Stop Loss หรือปิด position เอง
- Hedging การเปิด position ตรงข้ามเพื่อป้องกันความเสี่ยงในบางสถานการณ์
- Diversification การกระจายความเสี่ยงไปหลาย คู่สกุลเงิน หลาย strategy หรือหลายกรอบเวลา
การใช้เทคนิคเหล่านี้ร่วมกับการเลือก leverage ที่เหมาะสมจะช่วยให้การเทรดมีความยั่งยืนมากขึ้น
ตารางความเสี่ยงตามระดับ Leverage
ระดับ Leverage | Risk Level | Capital Required | Time to Margin Call* | Success Rate Needed |
---|
1:50 | ต่ำ | $2,500+ | 4-6 hours | 55% |
---|
1:100 | ปานกลาง | $1,500+ | 2-3 hours | 60% |
---|
1:200 | ปานกลาง-สูง | $1,000+ | 1-2 hours | 65% |
---|
1:500 | สูง | $500+ | 20-30 minutes | 70% |
---|
1:1000 | สูงมาก | $300+ | 10-15 minutes | 75%+ |
---|
*อิงจากการเคลื่อนไหวปกติของตลาด 100-150 pips ต่อวัน
ตารางนี้แสดงให้เห็นว่า leverage สูงขึ้น ต้องการทักษะและอัตราชนะที่สูงขึ้นตามไปด้วย
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการเลือก Leverage
เทรดเดอร์หลายคนมักทำผิดพลาดในการตอบคำถาม เลเวอเรจ forex เท่าไหร่ดี เพราะเข้าใจผิดหรือมีข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน
การเลือก Leverage โดยดูแค่ผลกำไร
หลายคนมองแค่โอกาสกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก leverage สูง โดยไม่คิดถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย นี่เป็นการมองภาพเพียงครึ่งเดียว
การใช้ Leverage เต็มกำลัง
มือใหม่ มักคิดว่าเมื่อมี leverage 1:500 ก็ต้องใช้เต็มที่ แต่จริงๆ แล้วควรใช้เพียงบางส่วนเพื่อความปลอดภัย
ไม่ปรับ Leverage ตามสถานการณ์
บางคนตั้งค่า leverage ครั้งเดียวแล้วไม่เปลี่ยน แต่จริงๆ แล้วควรปรับตามสภาวะตลาดและประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น
มองข้ามเรื่องต้นทุนทางจิตใจ
การใช้ leverage สูงสร้างความเครียดและกดดัน ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจ หลายคนมองข้ามปัจจัยนี้
ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อการเลือก Leverage
การตอบ เลเวอเรจ forex เท่าไหร่ดี ยังต้องพิจารณาปัจจัยภายนอกด้วย
สภาวะตลาด
ในช่วงที่ตลาดผันผวนสูง ควรใช้ leverage ต่ำลง เพื่อรองรับการเคลื่อนไหวที่คาดเดาไม่ได้
ในช่วงที่ตลาดเดินทิศทางชัดเจน อาจใช้ leverage สูงขึ้นได้ แต่ต้องระวังการเปลี่ยนแปลงที่กะทันหัน
นโยบายของโบรกเกอร์
โบรกเกอร์ แต่ละรายมีนโยบายเรื่อง leverage ที่แตกต่างกัน บางรายอาจมีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขพิเศษ
การเลือกโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการกำกับดูแลที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ
กฎระเบียบของประเทศ
ในบางประเทศมีการจำกัด leverage สูงสุด เช่น EU ที่จำกัดไว้ที่ 1:30 สำหรับ retail trader ส่วนใน Asia Pacific อาจมีความยืดหยุ่นมากกว่า
เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจ
ในช่วงที่มีประกาศข่าวสำคัญ เช่น การประกาศดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ควรลด leverage หรือปิด position ชั่วคราว
กลยุทธ์การใช้ Leverage แบบมืออาชีพ
เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมักมีแนวทางในการตอบคำถาม เลเวอเรจ forex เท่าไหร่ดี ที่แตกต่างจากมือใหม่
การใช้ Dynamic Leverage
แทนที่จะใช้ leverage ระดับเดียวตลอดเวลา เทรดเดอร์โปรจะปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์
ใช้ leverage สูงในช่วงที่มั่นใจใน setup และใช้ leverage ต่ำในช่วงที่ไม่แน่ใจ
การสร้างแผนการเทรดที่ชัดเจน
มีการวางแผนล่วงหน้าว่าจะใช้ leverage เท่าไหร่ในแต่ละสถานการณ์ ไม่ใช้ความรู้สึกหรือการคาดเดา
การทดสอบและปรับปรุง
ใช้ demo account หรือเงินทุนเล็กๆ ในการทดสอบ leverage ระดับต่างๆ ก่อนใช้เงินทุนจริง
สร้างฐานข้อมูลผลการเทรด เพื่อวิเคราะห์ว่า leverage ระดับไหนให้ผลดีที่สุดกับ style การเทรดของตัวเอง
แนวโน้มอนาคตของ Leverage ในตลาด Forex
ภูมิทัศน์ของ leverage กำลังเปลี่ยนแปลง ส่งผลต่อการตอบคำถาม เลเวอเรจ forex เท่าไหร่ดี ในอนาคต
การควบคุมที่เข้มงวดขึ้น
หน่วยงานกำกับดูแลหลายประเทศเริ่มจำกัด leverage สูงสุด เพื่อป้องกันผู้ลงทุนรายย่อย
เทคโนโลยีที่ช่วยในการจัดการความเสี่ยง
AI และ machine learning เริ่มเข้ามาช่วยในการคำนวณและแนะนำ leverage ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคน
การศึกษาที่เข้มข้นขึ้น
โบรกเกอร์และหน่วยงานกำกับดูแลให้ความสำคัญกับการศึกษาเทรดเดอร์มากขึ้น ก่อนอนุญาตให้ใช้ leverage สูง
สรุป: Leverage ที่ดีที่สุดคือการเลือกที่เหมาะสม
หลังจากการวิเคราะห์อย่างครอบคลุม คำตอบของคำถาม เลเวอเรจ forex เท่าไหร่ดี คือไม่มีระดับ leverage ที่ดีที่สุดแบบสากล แต่มีเพียง leverage ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
การเลือก อัตราส่วนเลเวอเรจ ที่เหมาะสมต้องพิจารณาหลายปัจจัย ตั้งแต่ประสบการณ์ เงินทุน ระดับ ความเสี่ยง ที่ยอมรับได้ ไปจนถึงสไตล์การเทรดและสภาวะตลาด
สิ่งสำคัญที่สุดคือ การจัดการความเสี่ยง ที่เข้มงวด ไม่ว่าจะใช้ leverage ระดับไหนก็ตาม การมี stop loss การคำนวณ position size ที่เหมาะสม และการไม่เสี่ยงเกินกว่าที่จะรับได้ เป็นหัวใจสำคัญของการเทรดที่ยั่งยืน
สำหรับ มือใหม่ แนะนำให้เริ่มต้นด้วย leverage ต่ำ เช่น 1:50 หรือ 1:100 เพื่อเรียนรู้และสร้างประสบการณ์ เมื่อมีทักษะและความเข้าใจมากขึ้นแล้ว จึงค่อยๆ ปรับเพิ่ม leverage ตามความเหมาะสม
การเทรดที่ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ได้มาจากการใช้ leverage ที่สูงที่สุด แต่มาจากการใช้ leverage ที่เหมาะสม บวกกับกลยุทธ์ที่ดี การจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวด และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
leverage เป็นเพียงเครื่องมือ ไม่ใช่เส้นทางสู่ความร่ำรวย การใช้อย่างมีสติและรอบคอบ จะช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จาก leverage ในการเทรดได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน
FAQ คำถามที่พบบ่อยเรื่อง Leverage
มือใหม่ควรใช้ Leverage เท่าไหร่ดี
สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ แนะนำให้เริ่มต้นด้วย leverage ระหว่าง 1:50 ถึง 1:100 เพื่อเรียนรู้การจัดการความเสี่ยงและเข้าใจพลังของ leverage อย่างค่อยเป็นค่อยไป การใช้ leverage สูงในช่วงแรกมักจะนำไปสู่การสูญเสียเงินทุนอย่างรวดเร็ว เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้นแล้วจึงค่อยพิจารณาเพิ่ม leverage สูงขึ้น
Leverage 1:1000 เสี่ยงมากไหม
Leverage 1:1000 ถือว่ามีความเสี่ยงสูงมาก เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์และทักษะสูง การใช้ leverage ในระดับนี้ต้องมีการจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวดมาก ใช้ stop loss ที่เหมาะสม และควบคุม position size ให้ดี มือใหม่ไม่ควรใช้ leverage ในระดับนี้เด็ดขาด
ข้อดีข้อเสียของ Leverage สูงคืออะไร
ข้อดีของ leverage สูงคือ ใช้เงินทุนน้อยแต่สามารถทำกำไรได้มาก เข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้น และมีความยืดหยุ่นในการเปิดหลาย position ส่วนข้อเสียคือ ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โอกาสถูก margin call สูง ความเครียดทางจิตใจ และอาจสูญเสียเงินทุนทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว
โบรกเกอร์แต่ละรายให้ Leverage เท่ากันไหม
ไม่เท่ากัน โบรกเกอร์แต่ละรายมี leverage สูงสุดที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการควบคุมของประเทศที่โบรกเกอร์นั้นอยู่และนโยบายของบริษัท บางโบรกเกอร์ให้ leverage สูงถึง 1:3000 บางรายจำกัดไว้ที่ 1:100 นอกจากนี้ยังมีการแบ่งประเภทลูกค้าเป็น Professional และ Retail ที่จะได้รับ leverage ที่แตกต่างกัน
สามารถเปลี่ยน Leverage ระหว่างเทรดได้ไหม
สามารถเปลี่ยนได้ แต่จะมีผลเฉพาะ position ใหม่ที่เปิดหลังจากการเปลี่ยนแปลง position เดิมที่เปิดไว้แล้วจะยังคงใช้ leverage เดิม การเปลี่ยน leverage ทำได้ผ่านระบบ back office ของโบรกเกอร์หรือติดต่อ customer service บางโบรกเกอร์อาจมีข้อจำกัดในการเปลี่ยนแปลง เช่น จำกัดจำนวนครั้งต่อเดือน
Leverage ส่งผลต่อ Spread หรือไม่
โดยปกติ leverage ไม่ส่งผลโดยตรงต่อ spread แต่บางโบรกเกอร์อาจมีการปรับ spread หรือ commission สำหรับบัญชีที่ใช้ leverage สูง อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้ว spread จะขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและสภาวะตลาดมากกว่า leverage ที่ใช้ ควรตรวจสอบเงื่อนไขกับโบรกเกอร์ก่อนเปิดบัญชี
วิธีคำนวณ Margin Call เมื่อใช้ Leverage ต่างๆ
การคำนวณ margin call ขึ้นอยู่กับสูตร: Margin Level = (Equity ÷ Used Margin) × 100% เมื่อ margin level ลดลงถึงระดับที่โบรกเกอร์กำหนด (มักจะ 50-100%) จะเกิด margin call ยิ่งใช้ leverage สูง margin ที่ใช้จะน้อย ทำให้ margin call เกิดขึ้นได้เร็วกว่าเมื่อตลาดเคลื่อนไหวผิดทิศทาง การคำนวณที่แม่นยำควรใช้เครื่องคิดเลขของโบรกเกอร์