XTB LOGO

XTB รีวิว (2025): โบรกเกอร์ยุโรปที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นี้ เหมาะสำหรับนักลงทุนไทยหรือไม่?

คะแนนรวม: 5.2/10

XTB โดดเด่นในด้านการปรับแต่งบริการให้เข้ากับตลาดไทย โดยมีการฝากเงินแบบไม่มีค่าธรรมเนียมผ่าน QR Code และบริการลูกค้าภาษาไทยที่มีคุณภาพ แพลตฟอร์ม xStation 5 ของตัวเองใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพดี ผู้ใช้สามารถเทรดทั้งหุ้นจริงและ CFD ในบัญชีเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียสำคัญคือการกำกับดูแลผ่าน Belize FSC ซึ่งไม่ใช่หน่วยงานระดับ Tier-1 และค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน 0.5% ที่เป็นต้นทุนแฝงสำหรับผู้ใช้ไทย

ใบอนุญาตหลัก

FCA, CySEC, BaFin, CNMV

เงินฝากขั้นต่ำ

$0

เลเวอเรจสูงสุด

1:500

สเปรดเฉลี่ยของ EUR/USD

0.9 pips

ข้อดีของ XTB

ข้อเสียของ XTB

รายละเอียดการให้คะแนน

รายละเอียดค่าธรรมเนียม
1 /10
แพลตฟอร์มและเครื่องมือ
1 /10
ปลอดภัย เชื่อถือได้
1 /10
การให้บริการลูกค้า
1 /10

สารบัญบทความ

รีวิวแบบละเอียด

ภาพรวมของโบรกเกอร์

รายการข้อมูล
ปีที่ก่อตั้ง2002
สำนักงานใหญ่วอร์ซอ, โปแลนด์
ใบอนุญาตกำกับดูแลBelize FSC (000302/11) สำหรับผู้ใช้ไทย
เงินฝากขั้นต่ำ$1
จำนวนถอนขั้นต่ำ$50 (ถอนต่ำกว่าเสียค่าธรรมเนียม $30)
แพลตฟอร์มเทรดxStation 5 (เว็บ/มือถือ)
เลเวอเรจสูงสุด1:500
ภาษาที่รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ
บริการลูกค้าภาษาไทยมี (โทรศัพท์ + อีเมล)
ประเทศที่เปิดให้บริการหลายประเทศทั่วโลก ยกเว้นสหรัฐอเมริกา

ข้อมูลบริษัท

XTB เริ่มต้นจากโปแลนด์เมื่อปี 2002 และพัฒนาเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ชั้นนำของยุโรป บริษัทแม่ XTB S.A. จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์วอร์ซอว์ตั้งแต่ปี 2016 ด้วยรหัสหุ้น XTB ซึ่งทำให้มีความโปร่งใสทางการเงินสูง

ปัจจุบัน XTB Group มีลูกค้ากว่า 1.6 ล้านรายทั่วโลกและมีสำนักงานจริงในกว่า 10 ประเทศ การดำเนินธุรกิจมานานกว่า 20 ปีแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงและประสบการณ์ในตลาดการเงิน

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนไทยจำเป็นต้องเข้าใจว่าเมื่อเปิดบัญชีกับ XTB จะได้รับบริการจาก XTB International Limited ที่จดทะเบียนในเบลีซ ไม่ใช่บริษัทแม่ในยุโรป ซึ่งหมายความว่าสิทธิ์และการคุ้มครองทางกฎหมายจะอยู่ภายใต้กฎหมายเบลีซ

สถานะการกำกับดูแล

การกำกับดูแลเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจอย่างชัดเจน XTB มีโครงสร้างการกำกับดูแลแบบ “สองชั้น” ที่นักลงทุนไทยควรรู้

บริษัทแม่ในยุโรป XTB S.A. ในโปแลนด์อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Polish Financial Supervision Authority (KNF) และได้รับใบอนุญาตจากหลายประเทศในยุโรป การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทำให้ต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินอย่างโปร่งใส

สำหรับลูกค้าไทย ผู้ใช้ไทยจะได้รับบริการจาก XTB International Limited ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Belize Financial Services Commission (FSC) ใบอนุญาตเลขที่ 000302/11

ความแตกต่างนี้สำคัญมาก เพราะ:

  • การคุ้มครองเงินฝากแตกต่างกัน
  • กระบวนการแก้ไขข้อพิพาทไม่เหมือนกัน
  • มาตรฐานการกำกับดูแลของเบลีซผ่อนคลายกว่ายุโรป

รีวิวจากผู้ใช้งานและเสียงตอบรับจากการใช้งานจริง

ประสบการณ์ผู้ใช้ไทย

ผู้ใช้ไทยส่วนใหญ่ประทับใจกับความสะดวกสบายในการใช้งาน การฝากเงินผ่าน QR Code ได้รับการยกย่องว่าเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากโบรกเกอร์อื่น กระบวนการเปิดบัญชีรวดเร็วและไม่ซับซ้อน อินเทอร์เฟซภาษาไทยทำให้ไม่มีอุปสรรคในการใช้งาน

อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้บางส่วนแสดงความกังวลเรื่องค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน 0.5% และความน่าเชื่อถือของการกำกับดูแลแบบ offshore ทีมบริการลูกค้าคนไทยได้รับคำชื่นชมในเรื่องความเป็นมิตรและความสามารถในการแก้ไขปัญหา

มุมมองนักลงทุนต่างประเทศ

จากข้อมูล Trustpilot ปี 2025 XTB ได้รับคะแนนเฉลี่ย 4.0 จาก 5 คะแนน ผู้ใช้ยุโรปมักชื่นชมความโปร่งใสของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และคุณภาพของแพลตฟอร์ม xStation

ในทางตรงกันข้าม ผู้ใช้จากภูมิภาคอื่นมักชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างในการกำกับดูแล การไม่รองรับ MT4/MT5 และค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินที่ค่อนข้างสูง

จุดเด่นที่ผู้ใช้ชื่นชอบ

  • ความสามารถในการลงทุนหุ้นจริงและ CFD ในแพลตฟอร์มเดียว
  • บัญชีทดลองฟรี (30 วัน)
  • ระบบฝาก-ถอนรวดเร็ว
  • บริการลูกค้าที่มีคุณภาพ

ประเด็นที่ควรปรับปรุง

  • ค่าธรรมเนียมถอนเงินต่ำกว่า $50 ($30)
  • ค่าธรรมเนียม inactivity หากไม่ใช้งาน 12 เดือน
  • การไม่รองรับแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MT4/MT5

ภาพรีวิวจากผู้ใช้งาน XTB 1 ภาพรีวิวจากผู้ใช้งาน XTB 2

ประเภทบัญชี

โครงสร้างบัญชีของ XTB นั้นเรียบง่ายมาก เน้นหลัก ๆ ที่บัญชี Standard เพื่อรองรับเทรดเดอร์ที่มีความต้องการแตกต่างกัน

ประเภทบัญชีหลัก

Standard Account (บัญชีมาตรฐาน):

นี่คือตัวเลือกหลักสำหรับเทรดเดอร์ไทยส่วนใหญ่ จุดเด่นคือไม่มีคอมมิชชั่นเมื่อเทรด CFD โดยต้นทุนทั้งหมดจะรวมอยู่ในสเปรดแล้ว

สเปรดเป็นแบบลอยตัว เปลี่ยนไปตามสภาพคล่องของตลาด สำหรับคู่สกุลเงินหลักอย่าง EUR/USD มีสเปรดเฉลี่ยอยู่ที่ 1.0-1.4 pips ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ ของอุตสาหกรรม แต่จะสูงกว่าโบรกเกอร์ ECN บางรายเล็กน้อย

บัญชีนี้เหมาะมากสำหรับเทรดเดอร์ที่ไม่ได้เทรดบ่อย ๆ และนักลงทุนมือใหม่ที่ไม่อยากปวดหัวกับการคำนวณคอมมิชชั่นที่ซับซ้อน

Swap-Free Account (บัญชีไม่มีดอกเบี้ยข้ามคืน):

บัญชีนี้ออกแบบมาสำหรับคนที่ตามหลักศาสนา โดยเฉพาะกฎหมายอิสลามที่ไม่อนุญาตให้จ่ายหรือรับดอกเบี้ย หรือที่เรียกกันว่าบัญชีอิสลาม

เมื่อใช้บัญชีนี้ การถือ CFD ข้ามคืนจะไม่เกิดค่า Swap แต่อย่าลืมว่าไม่มีอะไรฟรี ๆ ในโลกนี้ โบรกเกอร์มักจะชดเชยต้นทุนด้วยวิธีอื่น

ผู้ใช้บางคนรายงานว่าอาจมีคอมมิชชั่นหรือค่าธรรมเนียมการจัดการเพิ่มเติม โดยเฉพาะถ้าถือครองตำแหน่งเกินจำนวนวันที่กำหนด ดังนั้นควรสอบถามฝ่ายบริการลูกค้าให้ชัดเจนก่อนสมัคร

คุณสมบัติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบัญชี

บัญชีทดลอง (Demo Account):

XTB มีบัญชีทดลองฟรีให้ใช้คุ้นเคยกับแพลตฟอร์ม xStation และสัมผัสความผันผวนของตลาดแบบไม่มีความเสี่ยง แต่มีข้อจำกัดคือใช้ได้แค่ 30 วัน ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับคนที่อยากทดสอบกลยุทธ์ระยะยาว

การป้องกันยอดคงเหลือติดลบ (Negative Balance Protection):

นี่คือฟีเจอร์ควบคุมความเสี่ยงที่สำคัญมาก จากการยืนยันของหลายสถาบันรีวิว XTB ให้การป้องกันยอดคงเหลือติดลบสำหรับลูกค้ารายย่อย

หมายความว่าถ้าตลาดเกิด Gap รุนแรง การขาดทุนสูงสุดจะไม่เกินเงินทุนที่คุณฝากเข้ามา ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้บัญชีติดลบจากการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ต้นทุนการเทรดและค่าธรรมเนียมแฝง

การประเมินต้นทุนโบรกเกอร์อย่างครอบคลุมไม่ควรดูแค่นโยบายคอมมิชชั่นที่เห็นผิวเผิน สำหรับเทรดเดอร์ไทย นอกจากต้นทุนทั่วไปอย่างสเปรดและค่าธรรมเนียมข้ามคืนแล้ว ยังต้องระวังค่าธรรมเนียมแฝงที่มักถูกมองข้าม โดยเฉพาะค่าแปลงสกุลเงิน

ต้นทุนการเทรดหลัก

สเปรด (Spreads):

นี่คือต้นทุนการเทรดหลักสำหรับบัญชี Standard สเปรดจะผันผวน เมื่อตลาดสงบ สเปรดเฉลี่ยของ EUR/USD อยู่ที่ 1.0-1.4 pips แต่ถ้าเทรดโลหะมีค่าอย่างทองคำ หรือคู่สกุลเงินที่ไม่ใช่กระแสหลัก สเปรดจะกว้างขึ้นเยอะ

ค่าคอมมิชชั่น (Commissions):

  • การเทรด CFD: บัญชี Standard สำหรับเทรด CFD ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นฟอเร็กซ์ ดัชนี หรือสินค้าโภคภัณฑ์ ไม่มีคอมมิชชั่น
  • หุ้นจริงและ ETF: XTB มีเงื่อนไขที่น่าสนใจมาก สำหรับการเทรดที่มีมูลค่ารวมไม่เกิน 100,000 ยูโรต่อเดือน ไม่มีคอมมิชชั่น ส่วนที่เกินจะเรียกเก็บ 0.2% โดยมีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 10 ยูโรต่อรายการ

ดอกเบี้ยข้ามคืน (Swap / Rollover Fee):

ใช้กับผู้ที่ถือครอง CFD ข้ามคืน (หลังเที่ยงคืนเวลาเซิร์ฟเวอร์) ค่าธรรมเนียมนี้อาจเป็นบวก (ได้รับ) หรือลบ (จ่าย) อัตราที่แน่นอนดูได้ในรายละเอียดสินค้าบนแพลตฟอร์ม xStation และจะเปลี่ยนทุกวันตามส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงินที่เกี่ยวข้อง

ค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น (เทรดเดอร์ไทยต้องใส่ใจเป็นพิเศษ)

ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน (Currency Conversion Fee):

นี่คือต้นทุนแฝงที่ส่งผลกระทบต่อเทรดเดอร์ไทยมากที่สุด เพราะสกุลเงินหลักของบัญชีเทรด XTB คือดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เราส่วนใหญ่ฝากเงินด้วยบาท

เมื่อฝากเงิน แพลตฟอร์มจะแปลงบาทเป็นดอลลาร์ และจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการแปลง 0.5% ในกระบวนการนี้ เหมือนกันตอนถอนเงิน

หมายความว่าทุก ๆ การฝากเงิน 1,000 ดอลลาร์ในสกุลบาท คุณจะเสียค่าธรรมเนียมการแปลงประมาณ 5 ดอลลาร์ สำหรับเทรดเดอร์ที่ฝากถอนบ่อย ๆ หรือมีเงินทุนเยอะ นี่คือค่าใช้จ่ายต่อเนื่องที่ไม่ควรมองข้าม

ค่าธรรมเนียมการถอนเงิน (Withdrawal Fee):

นโยบายการถอนเงินของ XTB มีเกณฑ์ ถ้ายอดถอนครั้งเดียวต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ จะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการดำเนินการคงที่สูงถึง 30 ดอลลาร์ ดังนั้นแนะนำให้สะสมผลกำไรสักหน่อยก่อนถอน

ค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน (Inactivity Fee):

เพื่อส่งเสริมการใช้งานบัญชี ถ้าบัญชีไม่มีกิจกรรมการเทรดใด ๆ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และยังมีเงินคงเหลือในบัญชี XTB จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน 10 ยูโรต่อเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนที่ 13

โครงสร้างต้นทุนของ XTB ถูกออกแบบอย่างชาญฉลาดด้วยกลยุทธ์การตลาด “ไม่มีค่าใช้จ่ายล่วงหน้า” โดยมีข้อเสนอที่ดึงดูดอย่าง “ไม่มีคอมมิชชั่น” และ “ไม่มีเงินฝากขั้นต่ำ” เพื่อลดอุปสรรคสำหรับมือใหม่

แต่ในฐานะองค์กรธุรกิจ ผลกำไรย่อมมาจากส่วนอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่รวมถึงสเปรด ดอกเบี้ยข้ามคืน และที่สำคัญสำหรับเทรดเดอร์ต่างประเทศคือค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน

นักลงทุนต้องมองต้นทุนอย่างครอบคลุม พิจารณาค่าธรรมเนียมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นทั้งหมด และไม่ควรถูกดึงดูดเพียงแค่ “ไม่มีคอมมิชชั่น” เพียงผิวเผิน

รายการต้นทุนการเทรด

รายการต้นทุนการเทรดXTB (บัญชี Standard)Exness (บัญชี Standard)IC Markets (บัญชี Standard)
สเปรดเฉลี่ย EUR/USDประมาณ 1.0 – 1.4 pipsประมาณ 1.0 pipประมาณ 0.8 pips
สเปรดเฉลี่ยทองคำ (XAU/USD)สูงกว่าคู่แข่งเล็กน้อยประมาณ 20 Centsไม่ได้ระบุข้อมูลชัดเจน
ค่าคอมมิชชั่น CFD$0$0$0
ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน0.5%โดยปกติไม่มี (ขึ้นอยู่กับระบบชำระเงิน)โดยปกติไม่มี (ขึ้นอยู่กับระบบชำระเงิน)
ค่าธรรมเนียมการถอนเงิน (สูงกว่าเกณฑ์)$0 (สูงกว่า $50)$0$0

สินค้าที่สามารถเทรดได้และความยืดหยุ่นของระบบ

XTB โดดเด่นในด้านความกว้างและความลึกของผลิตภัณฑ์การเทรด ด้วย “รูปแบบผสม” ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนำเสนอทั้งสินทรัพย์จริงและตราสารอนุพันธ์ในแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดแข็งหลักของบริษัท

ประเภทสินค้าที่รองรับ

XTB นำเสนอเครื่องมือการเทรดทั้งหมดกว่า 9,000 รายการ ครอบคลุมประเภทสินทรัพย์ที่หลากหลาย

สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFDs):

นี่คือหนึ่งในธุรกิจหลักของ XTB มีเครื่องมือ CFD กว่า 2,100 รายการ ช่วยให้นักลงทุนสามารถเทรดด้วยเลเวอเรจได้ทั้งขาขึ้นและขาลง

  • ฟอเร็กซ์ (Forex): ครอบคลุมคู่สกุลเงินหลัก รอง และตลาดเกิดใหม่ประมาณ 57 คู่
  • ดัชนี (Indices): มี CFD ของดัชนีตลาดหุ้นหลักทั่วโลก เช่น US500 (S&P 500) ของสหรัฐฯ และ DE30 (DAX) ของเยอรมนี
  • สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities): รวมถึงโลหะมีค่า (ทอง เงิน) พลังงาน (น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ) และสินค้าเกษตร (กาแฟ ข้าวโพด)
  • หุ้น CFD และ ETF CFD: อนุญาตให้เทรดการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นและ ETF นับพันรายการด้วยเลเวอเรจ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์จริง

สินทรัพย์จริง (Real Assets):

นี่คือข้อได้เปรียบที่สำคัญของ XTB เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ CFD โดยเฉพาะหลายราย

  • หุ้นจริง (Stocks): มีหุ้นจริงกว่า 3,000 รายการจาก 16 ตลาดหลักทั่วโลก รวมถึงสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เยอรมนี หมายความว่านักลงทุนเป็นผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงจากหุ้น เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว
  • ETF จริง (ETFs): มี ETF กว่า 400 รายการที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ครอบคลุมผู้ออกที่มีชื่อเสียงอย่าง iShares, Vanguard

ความยืดหยุ่นในการดำเนินการ

แพลตฟอร์มอ้างว่ามีระบบดำเนินการคำสั่งที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ สามารถประมวลผลคำสั่งได้ประมาณ 30,000 รายการต่อนาที

แต่แพลตฟอร์มการเทรดไหน ๆ ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของ “Slippage” ได้อย่างสมบูรณ์เมื่อเผชิญกับความผันผวนของตลาดที่รุนแรง หรือการเทรดสินทรัพย์ที่ไม่ใช่กระแสหลักและมีสภาพคล่องต่ำ ซึ่งหมายถึงราคาที่ตกลงกันขั้นสุดท้ายแตกต่างจากราคาที่ตั้งไว้

ความคิดเห็นของผู้ใช้บางรายจากชุมชน Reddit ระบุว่า ในบางกรณี (เช่น การปรับสมดุลอัตโนมัติในแผนการลงทุน) เคยประสบปัญหาคำสั่งไม่สามารถยกเลิกได้ทันท่วงที ซึ่งบ่งชี้ว่าระบบยังคงมีพื้นที่สำหรับการปรับปรุงในด้านความเสถียรในการประมวลผลคำสั่งที่ซับซ้อนหรือในช่วงเวลาที่กำหนด

แพลตฟอร์มการเทรดและการทดสอบเครื่องมือ

แพลตฟอร์มการเทรดเป็นส่วนต่อประสานหลักที่นักลงทุนใช้ในการโต้ตอบกับตลาด การออกแบบ ฟังก์ชันการทำงาน และความเสถียรของแพลตฟอร์มส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์การเทรด

XTB ใช้กลยุทธ์ “ระบบนิเวศเฉพาะ” โดยมุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์ม xStation 5 ของตนเองอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นทั้งจุดเด่นและข้อจำกัด

แพลตฟอร์มที่รองรับ: xStation 5 เฉพาะ

XTB ให้บริการเฉพาะแพลตฟอร์มการเทรด xStation 5 ที่พัฒนาขึ้นเองเท่านั้น ไม่รองรับแพลตฟอร์มของบุคคลที่สามอย่าง MT4 หรือ MT5 ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม

xStation 5 มีเวอร์ชันเว็บเดสก์ท็อปและแอปพลิเคชันมือถือ (iOS/Android) ที่มีฟังก์ชันการทำงานที่สอดคล้องกัน ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดและติดตั้งซอฟต์แวร์เดสก์ท็อปเพื่อใช้งาน

แพลตฟอร์ม xStation 5 ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมมาแล้วหลายครั้ง ความสำเร็จของแพลตฟอร์มนี้อยู่ที่การรวมฟังก์ชันต่าง ๆ เข้าด้วยกันอย่างสูง และยังคงรักษาอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย

สำหรับเทรดเดอร์ไทย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ xStation 5 ทั้งเวอร์ชันเว็บและแอปพลิเคชันมือถือมีอินเทอร์เฟซภาษาไทยเต็มรูปแบบ ตั้งแต่เมนูฟังก์ชันไปจนถึงเครื่องมือกราฟ ได้รับการปรับให้เข้ากับท้องถิ่น ซึ่งอำนวยความสะดวกอย่างมากสำหรับผู้ใช้ในท้องถิ่น

ฟังก์ชันหลักและข้อจำกัดที่สำคัญ

ข้อดีของแพลตฟอร์ม:

  • การรวมอย่างสูง: xStation 5 มีเครื่องมือวิเคราะห์ที่หลากหลายในตัว รวมถึงข่าวสารตลาดเรียลไทม์ ปฏิทินเศรษฐกิจ ตัวชี้วัดความรู้สึกของตลาด เครื่องมือสแกนหุ้น และแผนที่ความร้อนของตลาด ผู้ใช้สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่การวิเคราะห์ตลาดไปจนถึงการวางคำสั่งซื้อขายทั้งหมดภายในแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องเปลี่ยนไปใช้เว็บไซต์ภายนอก
  • กราฟที่มีประสิทธิภาพ: มีฟังก์ชันกราฟขั้นสูงและเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของเทรดเดอร์ที่เน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิค
  • การใช้งานที่ราบรื่น: จากการประเมินส่วนใหญ่ของบุคคลที่สามและคำติชมจากผู้ใช้ xStation 5 มีการออกแบบอินเทอร์เฟซที่ทันสมัย ใช้งานได้อย่างราบรื่น มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ

ข้อจำกัดที่สำคัญ:

ไม่รองรับ MT4/MT5: นี่คือข้อจำกัดที่ชัดเจนที่สุดของ XTB การไม่รองรับแพลตฟอร์ม MetaTrader หมายถึง:

  • ไม่สามารถใช้ระบบเทรดอัตโนมัติ (EA): กลยุทธ์การเทรดอัตโนมัติ (EA) นับหมื่นที่พัฒนาบน MT4/MT5 ทั่วโลกไม่สามารถทำงานบน XTB ได้
  • ไม่สามารถนำเข้าตัวชี้วัดที่กำหนดเอง: เทรดเดอร์ไม่สามารถนำเข้าตัวชี้วัดที่กำหนดเองและสคริปต์ของบุคคลที่สามจำนวนมากจากชุมชน MQL5 หรือแหล่งอื่น ๆ ได้
  • ต้นทุนการเรียนรู้: สำหรับผู้ใช้จำนวนมากที่คุ้นเคยกับตรรกะการทำงานของ MT4/MT5 จำเป็นต้องใช้เวลาเพิ่มเติมในการเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับแพลตฟอร์มใหม่

กลยุทธ์ของ XTB จะเรียกว่าเป็น “สวนมีกำแพง” ก็ได้ คือทางโบรกออกแบบระบบให้ใช้งานง่าย เรียบเนียน แต่จะค่อนข้างปิด ซึ่งก็มีเหตุผลทางกลยุทธ์ เพราะพอควบคุมทุกอย่างได้เอง XTB ก็สามารถใส่ บทวิเคราะห์คอร์สเรียน หรือ ฟีเจอร์พิเศษ (เช่น แผนการลงทุน) ได้เต็มที่ ทำให้ลูกค้าติดแพลตฟอร์มและอยู่กับโบรกนานขึ้น

สำหรับคนที่ชอบระบบสำเร็จรูป หน้าตาสวย ใช้งานไม่ซับซ้อน อันนี้ถือว่าเป็นข้อดีชัดเจน แต่ถ้าเป็นสายเทรดที่ต้องการความ อิสระสูง ชอบปรับแต่งเองเยอะ ๆ หรือใช้ EA ในการรันกลยุทธ์อัตโนมัติ นี่จะกลายเป็นข้อเสียหลักทันที เพราะไม่เปิดกว้างเท่า MT4/MT5

ขั้นตอนการฝากและถอนเงิน และประสบการณ์การทดสอบ

สำหรับเทรดเดอร์ไทย ความสะดวกในการฝาก-ถอนเงินถือเป็นปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกว่าโบรกเกอร์ต่างประเทศนั้นเข้าถึงง่ายหรือไม่ XTB มีระบบการฝากเงินที่เข้าใจนักเทรดไทยค่อนข้างดี แต่เรื่องการถอนเงินยังใช้วิธีโอนเงินข้ามประเทศแบบเดิมๆ อยู่

ภาพรวมวิธีการฝาก-ถอนเงินสำหรับผู้ใช้ XTB ในประเทศไทย

วิธีการการฝากเงิน
QR Code ของไทยรองรับ
Skrillรองรับ (มีค่าธรรมเนียม 2%)
Netellerรองรับ (มีค่าธรรมเนียม 1%)
โอนเงินผ่านธนาคารระหว่างประเทศรองรับ (ไม่แนะนำสำหรับผู้ใช้ชาวไทย)

การฝากเงิน

XTB มีช่องทางการฝากเงินที่ค่อนข้างหลากหลายสำหรับเทรดเดอร์ไทย โดยที่น่าสนใจที่สุดคือการรองรับระบบชำระเงินในประเทศ

QR Code ของไทย: นี่คือจุดเด่นที่สำคัญของ XTB ในตลาดไทย เทรดเดอร์สามารถสร้าง QR Code มาตรฐานไทยบนหน้าฝากเงิน แล้วใช้แอปธนาคารไทยใดๆ เช่น KBank, SCB, BBL สแกนจ่ายได้เลย

กระบวนการนี้ไม่มีค่าธรรมเนียมจาก XTB และเงินจะเข้าบัญชีเกือบทันที ไม่เกิน 5 นาที ช่วยหลีกเลี่ยงความยุ่งยากของการโอนเงินข้ามประเทศที่ใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง

กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-wallets): แพลตฟอร์มรองรับ Skrill และ Neteller แต่ต้องระวังค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างแพง Skrill เสียค่าฟี 2% ส่วน Neteller เสียค่าฟี 1%

การโอนเงินผ่านธนาคารระหว่างประเทศ (Bank Wire): แม้จะมีตัวเลือกนี้ แต่ไม่แนะนำให้เทรดเดอร์ไทยใช้ เพราะใช้เวลา 2-5 วันทำการ และนอกจากฟรีฝั่ง XTB แล้ว ธนาคารต้นทางและธนาคารตัวกลางอาจเรียกเก็บค่าฟีเพิ่มเติม

การถอนเงิน

ขั้นตอนการถอนเงินของ XTB ค่อนข้างเป็นมาตรฐานสากล โดยใช้ระบบโอนเงินข้ามประเทศเป็นหลัก

วิธีการและหลักการ

วิธีการถอนเงินหลักคือการโอนผ่านธนาคารระหว่างประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎ AML (Anti-Money Laundering) XTB ใช้หลักการ “คืนเงินในช่องทางเดิม” อย่างเคร่งครัด เงินจะต้องส่งกลับไปยังบัญชีธนาคารในชื่อของเทรดเดอร์เองเท่านั้น ไม่ยอมรับการถอนเงินไปยังบั�ชีคนอื่น

ก่อนถอนเงินครั้งแรก เทรดเดอร์ต้องอัปโหลดเอกสารยืนยันความเป็นเจ้าของบัญชี เช่น ใบแจ้งยอดธนาคารหรือสำเนาหน้าสมุดบัญชี

เวลาดำเนินการ

คำขอถอนเงินภายในของ XTB มักจะเสร็จภายใน 1 วันทำการ แต่เนื่องจากเงินต้องโอนจากต่างประเทศผ่านระบบ SWIFT จึงใช้เวลาประมาณ 3-5 วันทำการกว่าจะเข้าบัญชีธนาคารไทย

ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง

ค่าธรรมเนียมฝั่ง XTB: หากถอนเงินครั้งเดียวตั้งแต่ 50 ดอลลาร์ขึ้นไป XTB จะไม่เก็บค่าฟี แต่หากถอนน้อยกว่า 50 ดอลลาร์ จะเสียค่าฟีคงที่ 30 ดอลลาร์

ค่าธรรมเนียมแฝง: เทรดเดอร์ต้องระวังค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน 0.5% และค่าธรรมเนียมการรับโอนเงินจากต่างประเทศที่ธนาคารไทยอาจเรียกเก็บ ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีอัตราไม่เท่ากัน

คุณภาพของฝ่ายบริการลูกค้าและการสนับสนุนผู้ใช้งาน

สำหรับเทรดเดอร์ไทย การได้รับบริการลูกค้าที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และไม่มีปัญหาเรื่องภาษาเป็นปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์ม XTB ได้ลงทุนค่อนข้างมากในการสร้างทีมซัพพอร์ตที่เข้าใจตลาดไทย

ช่องทางการติดต่อและภาษาที่รองรับ

การบริการลูกค้าภาษาไทย: ข้อได้เปรียบที่โดดเด่นของ XTB คือการให้บริการเป็นภาษาไทยแบบครบครัน เทรดเดอร์ไทยสามารถสื่อสารด้วยภาษาแม่ได้ตั้งแต่การใช้งานแพลตฟอร์มไปจนถึงการสอบถามปัญหา ช่วยหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดจากอุปสรรคทางภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย: แพลตฟอร์มมีช่องทางติดต่อที่ครอบคลุมความต้องการของเทรดเดอร์ สามารถโทรศัพท์ไปยังหมายเลขในประเทศไทยเพื่อพูดคุยกับทีมบริการลูกค้าโดยตรง:

  • สอบถามเกี่ยวกับการเปิดบัญชี: +66 6 0002 4059
  • บริการลูกค้า: +66 2 026 1622

นอกจากนี้ยังติดต่อผ่านอีเมลหรือใช้ฟังก์ชัน Live Chat ในแพลตฟอร์ม xStation

เวลาให้บริการและประสบการณ์จริง

XTB อ้างว่าทีมบริการลูกค้าให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันทำการ (จันทร์-ศุกร์) ซึ่งครอบคลุมช่วงเวลาเทรดทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ของเทรดเดอร์บางคนในชุมชนออนไลน์ ความเป็นจริงอาจแตกต่างกันไป ในการจัดการคำถามเกี่ยวกับบัญชีหรือปัญหาการใช้งานแพลตฟอร์มทั่วไป ฝ่ายบริการลูกค้ามักให้คำตอบที่น่าพอใจ

แต่ในช่วงเวลาที่ไม่ใช่เวลาทำการหลัก เช่น กลางคืนหรือเช้าตรู่ เทรดเดอร์อาจได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ระดับเริ่มต้นหรือระบบตอบรับอัตโนมัติ โดยเฉพาะในการจัดการปัญหาทางเทคนิคที่ซับซ้อนหรือข้อพิพาทการเทรดเร่งด่วน

เทรดเดอร์บางรายรายงานว่าไม่สามารถยกเลิก pending order ได้ในบางสถานการณ์ ปัญหาอาจต้องส่งต่อไปยังแผนกหลังบ้าน ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ทันที บ่งชี้ว่า “การสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง” อาจมีความแตกต่างจากความคาดหวังของเทรดเดอร์ในด้านความรวดเร็วและความลึกของการแก้ปัญหา

เครื่องมือการศึกษาและวิเคราะห์ตลาด

โบรกเกอร์ที่ดีไม่ควรแค่จัดหาเครื่องมือเทรดเท่านั้น แต่ควรช่วยส่งเสริมให้เทรดเดอร์พัฒนาทักษะการวิเคราะห์และการตัดสินใจ XTB มีคอนเทนต์ค่อนข้างครบครัน แต่เทรดเดอร์ไทยควรใส่ใจเรื่องภาษาเมื่อใช้งาน

แหล่งข้อมูลเพื่อการเรียนรู้

ความกว้างและความลึกของเนื้อหา

XTB ได้สร้างศูนย์การศึกษาที่ครอบคลุมชื่อ “Knowledge Base” ซึ่งมีคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ รวมถึงบทความเชิงลึก eBooks ที่ดาวน์โหลดได้ และชุดวิดีโอหลักสูตร

เนื้อหาครอบคลุมหัวข้อตั้งแต่ความรู้พื้นฐานสำหรับมือใหม่ เช่น “CFD คืออะไร” “วิธีการวาง order ครั้งแรก” ไปจนถึงกลยุทธ์การวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูง เช่น Fibonacci Retracement, Ichimoku Cloud เป็นต้น

ข้อจำกัดทางภาษา

นี่คือจุดที่เทรดเดอร์มือใหม่ชาวไทยควรใส่ใจเป็นพิเศษ แม้ว่าเว็บไซต์หลักและแพลตฟอร์มเทรดของ XTB จะได้รับการแปลเป็นภาษาไทยอย่างครบถ้วน แต่คอนเทนต์การศึกษาเชิงลึกส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ webinars ที่จัดเป็นประจำ และ eBooks กลยุทธ์ขั้นสูง ยังคงเป็นภาษาอังกฤษ

หมายความว่า หากเทรดเดอร์ไทยต้องการใช้ประโยชน์จากแหล่งเรียนรู้คุณภาพสูงเหล่านี้อย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาทักษะเทรด จะต้องมีความสามารถในการอ่านและฟังภาษาอังกฤษในระดับหนึ่ง

เครื่องมือวิเคราะห์ตลาด

แพลตฟอร์ม xStation 5 ของ XTB โดดเด่นในการรวมเครื่องมือวิเคราะห์ โดยมีเป้าหมายให้เทรดเดอร์มีสภาพแวดล้อมสนับสนุนการตัดสินใจแบบครบวงจร

เครื่องมือในตัว

แพลตฟอร์มได้รวมเครื่องมือที่มีประโยชน์หลากหลายไว้ภายใน เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้โดยไม่ต้องออกจาก interface การเทรด เครื่องมือเหล่านี้รวมถึง:

  • Economic Calendar: แสดงตารางเวลาการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก ค่าคาดการณ์ และค่าประวัติ
  • Market News: ทีมวิจัยภายในของ XTB จัดทำข่าวสารตลาดและบทวิเคราะห์แบบ real-time ที่อัปเดตบ่อยครั้ง
  • ตัวชี้วัดการวิเคราะห์พิเศษ: รวมถึง market sentiment indicator (แสดงอัตราส่วน long/short position ของลูกค้า XTB), market heat map และ stock screener ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้เทรดเดอร์ค้นหาโอกาสการเทรดได้อย่างรวดเร็ว

จุดเด่นของแพลตฟอร์มและความแตกต่าง

นอกจากฟีเจอร์พื้นฐานที่โบรกเกอร์ทั่วไปมีแล้ว XTB ยังมีกลไกพิเศษและการออกแบบที่ทำให้แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด แต่การใช้งานฟีเจอร์เหล่านี้ก็มีเงื่อนไขและข้อจำกัดที่ต้องเข้าใจด้วย

รูปแบบการเทรดแบบผสม (Hybrid Trading Model)

จุดแข็งหลักของ XTB คือการรวมการเทรดหุ้นจริง/ETF และ CFD เข้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว บัญชีเดียว สามารถ hold หุ้นระยะยาวเพื่อสร้างพอร์ตหลัก แล้วใช้ CFD เล่นเลเวอเรจในระยะสั้นเพื่อเก็งกำไรได้ในอินเทอร์เฟซเดียวกัน

รูปแบบนี้ตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการรวม “core portfolio” กับ “satellite trading” โดยไม่ต้องเปิดบัญชีหลายโบรกเกอร์ ใช้งานสะดวกมากสำหรับคนที่ชอบเล่นทั้งสองแบบ

แผนการลงทุน (Investment Plans)

นี่เป็นฟีเจอร์พิเศษที่ XTB พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การลงทุนแบบ passive และการออมระยะยาว ระบบจะให้เลือก ETF หลายร้อยตัวที่คัดสรรมาแล้ว สามารถสร้างพอร์ตแบบ passive ได้ตามระดับความเสี่ยงที่รับได้

ที่เจ๋งคือรองรับ auto-invest ตั้งค่าหักเงินประจำเดือน แล้วระบบจะจัดสรรไปยัง ETF ตามสัดส่วนที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติ เหมาะมากสำหรับสาย DCA หรือคนที่ต้องการ set and forget

แต่ต้องระวังว่าตามที่ผู้ใช้บางคนรีวิว สินทรัพย์ที่ hold ผ่าน Investment Plans อาจมีข้อจำกัดในการ transfer ไปโบรกเกอร์อื่น ความยืดหยุ่นอาจจะน้อยกว่าการ hold หุ้นหรือ ETF แบบปกติ

ไม่มีบริการโซเชียล/คัดลอกการเทรด

สิ่งที่ XTB ไม่มีคือ copy trading หรือ social trading ไม่สามารถ follow หรือ copy การเทรดของ pro trader คนอื่นได้ สำหรับมือใหม่ที่อยากเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ หรือคนที่ไม่มีเวลาวิเคราะห์ตลาดเอง นี่คือข้อจำกัดที่ชัดเจน

สรุปและคำแนะนำในการเลือกใช้

จากการทดลองใช้และวิเคราะห์อย่างละเอียด เราสรุปจุดแข็งจุดอ่อนหลักของ XTB สำหรับเทรดเดอร์ไทย พร้อมคำแนะนำการเลือกตามความต้องการที่แตกต่างกัน

XTB เป็นแพลตฟอร์มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ข้อดีข้อเสียเป็นเหมือนเหรียญสองด้านที่เชื่อมโยงกันแน่นมาก

ข้อดีและข้อเสียที่โดดเด่น

สิ่งที่น่าชื่นชม

บริการปรับให้เข้ากับท้องถิ่นระดับเทพ – รองรับฝากเงินทันทีฟรีผ่าน QR Code ไทย ประสบการณ์การใช้งานราบรื่นสุดๆ มีอินเทอร์เฟซภาษาไทยครบถ้วน รวมถึงบริการลูกค้าโทรศัพท์ในท้องถิ่น ถือเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ต่างชาติที่เป็นมิตรกับคนไทยที่สุด

โซลูชั่นการลงทุนแบบครบเครื่อง – การรวมเทรดหุ้นจริง/ETF และ CFD ในบัญชีเดียวตอบโจทย์ความต้องการกลยุทธ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่การลงทุนระยะยาวไปจนถึงการเทรดระยะสั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ภูมิหลังบริษัทแม่โปร่งใส – บริษัทแม่เป็นบริษัทจดทะเบียนในยุโรป สถานะทางการเงินเปิดเผยต่อสาธารณะ ให้ความมั่นใจในระดับหนึ่งต่อความมั่นคงในการดำเนินงานระยะยาวของแพลตฟอร์ม

สิ่งที่ต้องระวัง

การคุ้มครองการกำกับดูแลไม่ใช่ระดับท็อป – ผู้ใช้ไทยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลแบบ offshore ของ Belize FSC ซึ่งเป็นข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุด ระดับการคุ้มครองนักลงทุนเทียบไม่ได้กับหน่วยงานกำกับดูแลระดับ Tier-1 อย่าง FCA ของอังกฤษ หรือ CySEC ของ EU

ต้นทุนการเทรดแฝง – ค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน 0.5% สำหรับคนที่ฝาก-ถอนด้วยเงินบาท เป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง จะกัดกินผลตอบแทนการลงทุนโดยตรง

ระบบนิเวศแพลตฟอร์มแบบปิด – รองรับเฉพาะแพลตฟอร์ม xStation ของตัวเองเท่านั้น ไม่รองรับ MT4/MT5 ที่เป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรม เป็นข้อจำกัดพื้นฐานสำหรับคนที่พึ่งพาการเทรดอัตโนมัติด้วย EA

คำแนะนำในการเลือก (แบบมีเงื่อนไข)

หากคุณเป็นนักลงทุนมือใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกในการใช้งาน ชอบใช้วิธีชำระเงินในท้องถิ่น และมีทุนเริ่มต้นไม่มาก XTB ที่มีสภาพแวดล้อมภาษาไทยและฟังก์ชันฝากเงินด้วย QR Code จะเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจมาก แพลตฟอร์ม xStation ใช้งานง่าย ไม่มี minimum deposit จะช่วยให้ก้าวแรกสู่การลงทุนได้อย่างสบายใจ

หากคุณเป็นนักลงทุนที่ให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของทุน และแสวงหาการคุ้มครองจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับสูงสุด เช่น FCA, ASIC XTB ที่มี offshore regulation อาจไม่สามารถตอบสนองความต้องการหลักของคุณได้อย่างเต็มที่ แนะนำให้พิจารณาโบรกเกอร์ที่ให้ลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ASIC หรือหน่วยงานที่มีระดับใกล้เคียงกัน

หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ ที่ต้องการใช้ EA ในการ algo trading แบบความถี่สูง หรือพึ่งพาตัวชี้วัดที่กำหนดเองจำนวนมากใน MT4/MT5 ระบบนิเวศแพลตฟอร์มแบบปิดของ XTB ไม่เหมาะกับคุณอย่างชัดเจน ควรหาโบรกเกอร์ที่ให้บริการแพลตฟอร์ม MT4/MT5 และมี execution speed ที่ดี กับ tight spread สำหรับโบรกเกอร์ ECN/STP

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการ hold หุ้นสหรัฐฯ ระยะยาว ควรพิจารณาค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน 0.5% ของ XTB เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนรวม และเปรียบเทียบอย่างละเอียดกับแพลตฟอร์มอื่นที่เสนอการลงทุนโดยตรงในหุ้นสหรัฐฯ ด้วยเงินบาท หรือมี FX fee ที่ต่ำกว่า เช่น บริการลงทุนต่างประเทศของโบรกเกอร์ในประเทศบางราย เพื่อพิจารณาแผนการลงทุนที่ cost-effective ที่สุด

คู่มือขั้นตอนการเปิดบัญชี

กระบวนการเปิดบัญชีเทรดจริงกับ XTB เป็นระบบออนไลน์ทั้งหมด มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย นี่คือคำแนะนำโดยละเอียดสำหรับผู้ใช้ไทย พร้อมระบุรายละเอียดที่ต้องใส่ใจในขั้นตอน KYC

ขั้นตอนการลงทะเบียน

  • เยี่ยมชมเว็บไซต์อย่างเป็นทางการและเริ่มลงทะเบียน – ไปที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ XTB (xtb.com) และคลิกปุ่ม “สร้างบัญชี” (Create Account)
  • กรอกข้อมูลพื้นฐาน – ในหน้าลงทะเบียน กรอกอีเมลและตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย จากนั้นจะต้องกรอกข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน รวมถึงชื่อ วันเกิด ที่อยู่ และเบอร์โทรติดต่อ
  • กรอกแบบสอบถามความเหมาะสม – ตาม regulatory requirement จะต้องกรอกแบบสอบถามความเหมาะสมของนักลงทุนออนไลน์ (Suitability Test) เนื้อหาส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับสถานะรายได้ ประสบการณ์การลงทุน และประเมินความเสี่ยงที่รับได้ เพื่อประเมินว่าเหมาะสมกับการเทรดผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงสูงหรือไม่

ภาพขั้นตอนการลงทะเบียน XTB 1

ภาพขั้นตอนการลงทะเบียน XTB 2

ภาพขั้นตอนการลงทะเบียน XTB 3

เอกสารที่จำเป็น (การยืนยัน KYC)

หลังจากกรอกข้อมูลพื้นฐานเสร็จแล้ว จะต้องอัปโหลดเอกสารเพื่อยืนยันตัวตน แนะนำให้เข้าสู่ระบบ Client Office ด้วยมือถือ แล้วถ่ายรูปเอกสารเพื่ออัปโหลดโดยตรง เพื่อให้มั่นใจในความชัดเจนของรูปถ่าย

หลักฐานยืนยันตัวตน (Proof of Identity) – จัดเตรียมเอกสารระบุตัวตนที่ออกโดยรัฐบาลและมีรูปถ่ายที่ถูกต้อง สำหรับคนไทย เอกสารที่ใช้บ่อยที่สุดคือ:

  • บัตรประจำตัวประชาชนไทย (บัตรประชาชน): ต้องมีรูปถ่ายสีที่ชัดเจนของด้านหน้าและด้านหลัง
  • หนังสือเดินทาง (Passport): ต้องมีรูปถ่ายสีที่ชัดเจนของหน้าข้อมูลส่วนบุคคล

หลักฐานยืนยันที่อยู่ (Proof of Address) – จัดเตรียมเอกสารที่สามารถยืนยันที่อยู่ปัจจุบันได้ เอกสารดังกล่าวต้องออกภายในสามเดือนล่าสุด และต้องแสดงชื่อและที่อยู่เต็มอย่างชัดเจน เอกสารที่ยอมรับได้ ได้แก่:

  • ใบแจ้งยอดธนาคาร (Bank Statement)
  • บิลค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าโทรศัพท์ (Utility Bill)
  • ทะเบียนบ้าน

ภาพขั้นตอนการลงทะเบียน XTB 4

ภาพขั้นตอนการลงทะเบียน XTB 5

เวลาในการยืนยันและปัญหาที่พบบ่อย

เวลาในการยืนยัน – หลังจากอัปโหลดเอกสารทั้งหมดแล้ว ทีม back office ของ XTB จะทำการตรวจสอบ โดยปกติจะใช้เวลา 1 ถึง 2 วันทำการ หลังจาก verification ผ่าน บัญชีจะถูกเปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์ และสามารถฝากเงินเริ่มเทรดได้

สาเหตุทั่วไปของความล้มเหลว:

  • รูปภาพที่อัปโหลดไม่ชัดเจน มีแสงสะท้อน มีเงา หรือมุมทั้งสี่ของเอกสารไม่สมบูรณ์ ทำให้ไม่สามารถระบุข้อมูลได้อย่างชัดเจน
  • ที่อยู่บนเอกสารหลักฐานที่อยู่ไม่ตรงกับที่อยู่ที่กรอกตอนลงทะเบียน
  • เอกสารหลักฐานที่อยู่หมดอายุ (เกินสามเดือน)

ความล่าช้าในการส่งเอกสารเพิ่มเติม – หากเอกสารไม่เป็นไปตามข้อกำหนด แพลตฟอร์มจะแจ้งให้ส่งเอกสารเพิ่มเติมทางอีเมล ซึ่งจะทำให้เวลาในการตรวจสอบการเปิดบัญชีล่าช้าออกไป

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

  • XTB ถูกกฎหมายในประเทศไทยหรือไม่? มีการกำกับดูแลจาก ก.ล.ต. ของไทยหรือไม่?

    XTB เป็นโบรกเกอร์ระหว่างประเทศ โดยหน่วยงานทางกฎหมายที่ให้บริการผู้ใช้ไทยคือ XTB International Limited ซึ่งจดทะเบียนในเบลีซและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการบริการทางการเงิน (FSC) ในท้องถิ่น

    ไม่ได้รับอนุญาตโดยตรงจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของไทย หรือมีใบอนุญาตในการดำเนินงานในประเทศไทย ดังนั้น การเทรดบนแพลตฟอร์มนี้โดยผู้ใช้ไทยถือเป็นการลงทุนส่วนตัวในต่างประเทศ ซึ่งต้องรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องด้วยตนเอง

  • เงินทุนของฉันปลอดภัยใน XTB หรือไม่? การกำกับดูแลของ FSC หมายความว่าอย่างไร?

    XTB อ้างว่าหน่วยงานทั้งหมดในเครือใช้ระบบการแยกเงินทุนลูกค้า ซึ่งหมายความว่าเงินทุนของลูกค้าจะถูกเก็บแยกจากเงินทุนในการดำเนินงานของบริษัท นี่เป็นมาตรการป้องกันพื้นฐาน

    อย่างไรก็ตาม FSC ของเบลีซเป็นหน่วยงานกำกับดูแลแบบ offshore ซึ่งข้อกำหนดด้าน capital adequacy ของโบรกเกอร์ ความเข้มงวดในการกำกับดูแลประจำวัน และกลไก investor compensation (โดยปกติไม่รวม mandatory compensation fund) โดยทั่วไปถือว่าเข้มงวดน้อยกว่าหน่วยงานกำกับดูแลระดับ Tier-1 อย่าง FCA ของอังกฤษ หรือ CySEC ของ EU

    ผู้ใช้ต้องประเมินว่าตนเองยอมรับความเสี่ยงจากการกำกับดูแลระดับนี้ได้หรือไม่เมื่อเลือก

  • รองรับการโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศไทยหรือ QR Code ในการฝากเงินหรือไม่?

    ใช่ นี่คือจุดเด่นที่สำคัญของ XTB สำหรับตลาดไทย แพลตฟอร์มรองรับการฝากเงินทันทีผ่าน QR Code ไทย สามารถใช้แอพมือถือของธนาคารหลักๆ ในไทยสแกนโค้ดเพื่อชำระเงิน โดย XTB ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ และเงินมักจะเข้าบัญชีภายใน 5 นาที

  • การถอนเงินใช้เวลานานแค่ไหน? มีค่าธรรมเนียมหรือไม่?

    การถอนเงินไปยังบัญชีธนาคารในไทยจะดำเนินการผ่านการโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 3 ถึง 5 วันทำการ

    ในส่วนของค่าธรรมเนียม หากยอดถอนครั้งเดียวเท่ากับหรือมากกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ XTB จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ แต่หากน้อยกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ จะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงถึง 30 ดอลลาร์สหรัฐ

    นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังต้องพิจารณาค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน 0.5% และค่าธรรมเนียมการรับเงิน wire transfer ที่ธนาคารท้องถิ่นของไทยอาจเรียกเก็บ

  • XTB เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ไม่มีประสบการณ์เลยหรือไม่?

    เหมาะสม XTB เป็นมิตรกับผู้เริ่มต้นในหลายด้าน: อินเทอร์เฟซแพลตฟอร์มใช้งานง่าย มีการสนับสนุนภาษาไทยเต็มรูปแบบและบริการลูกค้าในท้องถิ่น ไม่มี minimum deposit ซึ่งช่วยลดความกดดันด้านทุนเริ่มต้น และมีบัญชี demo ฟรีให้ฝึกฝน

    อย่างไรก็ตาม ผู้เริ่มต้นควรเริ่มต้นด้วยหุ้นจริง/ETF ที่มีความเสี่ยงต่ำ และระมัดระวังอย่างยิ่งกับผลิตภัณฑ์ CFD ที่มีเลเวอเรจสูง โดยทำความเข้าใจความเสี่ยงอย่างถ่องแท้ก่อนที่จะลอง

  • XTB มีโบนัสเปิดบัญชีหรือโปรโมชั่นหรือไม่?

    ใช่ XTB อาจเสนอโปรโมชั่นที่แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคและช่วงเวลา เช่น โปรแกรม referral หรือโบนัสเปิดบัญชีสำหรับภูมิภาคเฉพาะ

    แนะนำให้เยี่ยมชมเว็บไซต์ทางการของ XTB ประเทศไทยโดยตรง หรือปรึกษาฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อรับข้อมูลโปรโมชั่นล่าสุดและเงื่อนไขการใช้งานโดยละเอียด ผู้ใช้ควรอ่าน terms and conditions ของกิจกรรมโบนัสอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจข้อจำกัดเกี่ยวกับ trading volume หรือการถอนเงิน

บทความเด็ดจากXTB
การจัดอันดับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
แบรนด์
คะแนน
รีวิวแบบละเอียด
1. Moneta Markets
9.8/10
2. Vantage FX
9.4/10
3. VT Markets
9.2/10
4. Eightcap
8.9/10
5. GOFX
8.8/10
บทความล่าสุด
แนะนำเพิ่มเติม

สำหรับผู้โชคดีเท่านั้น!

ยินดีด้วย! บัญชีของคุณได้รับเลือกจากระบบ
เพื่อรับรางวัลอัปเกรดสุดพิเศษ!

?
?
?
?
?

โปรดทราบ: หากปิดหรือออกจากหน้านี้จะถือว่าสละสิทธิ์ทันที