FxPro LOGO

FxPro รีวิว (2025): โบรกเกอร์นี้เหมาะกับคุณหรือไม่?

คะแนนรวม: 5.4/10

FxPro เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ระดับโลกที่มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 20 ปี โดดเด่นด้วยใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่ง ความหลากหลายของแพลตฟอร์มการเทรด และสินทรัพย์มากกว่า 2,100 รายการ แต่สำหรับนักเทรดในไทยต้องเข้าใจโครงสร้างต้นทุนและการคุ้มครองภายใต้ใบอนุญาตที่แตกต่างกัน

โบรกเกอร์แห่งนี้ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงาน Tier 1 อย่าง FCA (สหราชอาณาจักร) และ CySEC (ไซปรัส) แต่ลูกค้าไทยจะถูกลงทะเบียนภายใต้ SCB (บาฮามาส) เพื่อให้ได้เลเวอเรจสูงถึง 1:200 FxPro มีจุดแข็งด้านแพลตฟอร์มที่ครบครัน (MT4, MT5, cTrader) การดำเนินงานแบบ No Dealing Desk และบริการลูกค้าภาษาไทย 24/5

อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดสำคัญคือลูกค้าไทยไม่ได้รับการคุ้มครองจากกองทุนชดเชยนักลงทุนเหมือนภายใต้ FCA/CySEC ต้นทุนการเทรดในบัญชี Standard ค่อนข้างสูง และไม่มีบริการ Copy Trading จากการรีวิวผู้ใช้งานใน Trustpilot ได้คะแนน 4.4/5 ดาว จาก 1,060+ รีวิว โดยผู้ใช้ชื่นชมแพลตฟอร์มที่มีคุณภาพและฝ่ายบริการลูกค้าที่ดี แต่มีข้อติเรื่องการถอนเงินที่ช้าในบางกรณีและโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ซับซ้อน

ใบอนุญาตหลัก

FCA, CySEC, FSCA, SCB, FSA

เงินฝากขั้นต่ำ

$100

เลเวอเรจสูงสุด

1:200

สเปรดเฉลี่ยของ EUR/USD

เฉลี่ย 0.2 pips

ข้อดีของ FxPro

ข้อเสียของ FxPro

รายละเอียดการให้คะแนน

รายละเอียดค่าธรรมเนียม
1 /10
แพลตฟอร์มและเครื่องมือ
1 /10
ปลอดภัย เชื่อถือได้
1 /10
การให้บริการลูกค้า
1 /10

สารบัญบทความ

รีวิวแบบละเอียด

ภาพรวมของโบรกเกอร์

รายการรายละเอียด
ปีที่ก่อตั้ง2006 (แนวคิดเริ่มต้น 1999)
สำนักงานใหญ่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร
ใบอนุญาตกำกับดูแลFCA, CySEC, FSCA, SCB
เงินฝากขั้นต่ำ$100
จำนวนถอนขั้นต่ำ$10
แพลตฟอร์มเทรดMT4, MT5, cTrader, FxPro App
เลเวอเรจสูงสุด1:200 (ภายใต้ SCB)
ภาษาที่รองรับไทย และอีก 20+ ภาษา
บริการลูกค้าภาษาไทย24 ชั่วโมง 5 วันทำการ
ประเทศที่เปิดให้บริการ173 ประเทศ

ข้อมูลบริษัท

FxPro มีประวัติการดำเนินงานที่น่าเชื่อถือตั้งแต่ปี 2006 โดยเริ่มจากแนวคิดในปี 1999 และพัฒนาเป็นนิติบุคคลในปี 2002 จนกลายเป็นแบรนด์ที่รู้จักในปัจจุบัน

การขยายตัวของบริษัทเป็นไปอย่างรวดเร็ว ได้รับใบอนุญาตจาก CySEC ในปี 2007 และ FCA ในปี 2010 ซึ่งเป็นสองหน่วยงานที่เข้มงวดที่สุดในโลก

จุดยืนสำคัญของ FxPro คือการดำเนินงานแบบ “No Dealing Desk” (NDD) ที่ส่งคำสั่งซื้อขายตรงไปยังผู้ให้บริการสภาพคล่องโดยไม่มีการแทรกแซง ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและลดผลประโยชน์ทับซ้อน

ปัจจุบัน FxPro มีสำนักงานในลอนดอน ไซปรัส และบาฮามาส เพื่อให้บริการลูกค้าทั่วโลกมากกว่า 173 ประเทศ

สถานะการกำกับดูแล

FxPro ถือเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตครบครันที่สุด ดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลจากหลายหน่วยงานระดับสูงทั่วโลก

หน่วยงานประเทศนิติบุคคลเลขที่ใบอนุญาตระดับ
FCAสหราชอาณาจักรFxPro UK Limited509956Tier 1
CySECไซปรัสFxPro Financial Services Ltd078/07Tier 1
FSCAแอฟริกาใต้FxPro Financial Services Ltd45052Tier 2
SCBบาฮามาสFxPro Global Markets LtdSIA-F184Tier 3

สิ่งสำคัญที่เทรดเดอร์ไทยต้องทราบ

ลูกค้าจากประเทศไทยจะถูกลงทะเบียนผ่าน FxPro Global Markets Limited ภายใต้การกำกับดูแลของ SCB (บาฮามาส) เหตุผลหลักคือเพื่อมอบ Leverage ที่สูงกว่า (1:200 เทียบกับ 1:30 ภายใต้ FCA/CySEC)

การคุ้มครองภายใต้ SCB ประกอบด้วย:

  • การแยกเงินทุนลูกค้าออกจากเงินของบริษัท
  • การป้องกันยอดเงินในบัญชีติดลบ
  • ไม่มีกองทุนชดเชยนักลงทุน (แตกต่างจาก FCA ที่คุ้มครอง £85,000 หรือ CySEC ที่คุ้มครอง €20,000)

ใบอนุญาตจาก FCA และ CySEC ควรมองเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพและมาตรฐานการดำเนินงานของกลุ่ม FxPro แต่การคุ้มครองโดยตรงที่ลูกค้าไทยได้รับจะอยู่ภายใต้กรอบของ SCB

รีวิวจากผู้ใช้งานและเสียงตอบรับจากการใช้งานจริง

การประเมินความน่าเชื่อถือต้องดูจากผู้ใช้งานจริง จากการสำรวจใน Pantip พบว่ามีรีวิวเกี่ยวกับ FxPro ไม่มากนัก และข้อมูลส่วนใหญ่ค่อนข้างเก่า

คะแนนจาก Trustpilot

  • คะแนนรวม: 4.4 จาก 5 ดาว
  • จากรีวิวมากกว่า 1,060 คน
  • 61% ให้คะแนนเต็ม 5 ดาว

ข้อดีที่ผู้ใช้ชื่นชม:

  • แพลตฟอร์มหลากหลายและมีคุณภาพ
  • ฝ่ายบริการลูกค้าดูแลดี
  • ความเสถียรของระบบ
  • เครื่องมือวิเคราะห์ครบครัน

ข้อติจากผู้ใช้:

  • การถอนเงินช้าในบางกรณี
  • ปัญหาเฉพาะกับบางผลิตภัณฑ์
  • โครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ซับซ้อน

การเตือนจาก FCA

FCA เคยออกคำเตือนเรื่องบริษัทปลอมที่ใช้ชื่อ “Fx Pro” เพื่อหลอกลวงนักลงทุน การที่มีคนพยายามลอกเลียนแบรนด์ FxPro แสดงให้เห็นว่าโบรกเกอร์ตัวจริงมีชื่อเสียงดี ดังนั้นควรระวังและสมัครผ่านเว็บไซต์ทางการเท่านั้น

ภาพรีวิวจากผู้ใช้งาน FxPro จริง 1

ภาพรีวิวจากผู้ใช้งาน FxPro จริง 2

ประเภทบัญชี

FxPro มีบัญชีให้เลือกหลายแบบเพื่อรองรับเทรดเดอร์ที่มีสไตล์และประสบการณ์ต่างกัน การเลือกบัญชีที่เหมาะสมจะส่งผลต่อต้นทุนการเทรดโดยตรงเลย

ตารางเปรียบเทียบประเภทบัญชีหลัก

คุณสมบัติStandardRaw+ElitecTrader
แพลตฟอร์มMT4, MT5, FxPro AppMT4, MT5, FxPro AppMT4, MT5, FxPro AppcTrader
เงินฝากขั้นต่ำ$100$250$50,000$100
สเปรด (EUR/USD)เริ่มต้นที่ 1.2 pipsเริ่มต้นที่ 0.0 pipsเริ่มต้นที่ 0.0 pipsเริ่มต้นที่ 0.2 pips
ค่าคอมมิชชั่นไม่มี$3.5 ต่อฝั่ง (ต่อ Lot)$3.5 ต่อฝั่ง (ต่อ Lot)$35 ต่อ $1 ล้าน
เหมาะสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์เทรดเดอร์รายใหญ่ (VIP)ผู้ที่ชื่นชอบ cTrader

การวิเคราะห์ประเภทบัญชี

Standard Account เหมาะสำหรับมือใหม่มาก เพราะไม่มีค่าคอมมิชชั่นให้คิด ทำให้คำนวนต้นทุนง่าย แต่แลกกับการที่สเปรดจะกว้างกว่าบัญชีอื่น สำหรับคู่ EUR/USD จะอยู่ที่ประมาณ 1.2-1.5 pips

Raw+ & Elite Accounts ออกแบบมาสำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์แล้ว หรือคนที่เทรดบ่อยๆ จุดเด่นคือได้สเปรดแคบมาก อาจเริ่มต้นที่ 0.0 pips สำหรับคู่เงินหลัก แต่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นคงที่ $3.5 ต่อการเทรด 1 lot ต่อฝั่ง ส่วนบัญชี Elite จะได้สิทธิพิเศษเรื่อง rebates สูงสุดถึง 21%

cTrader Account สำหรับคนที่อยากใช้แพลตฟอร์ม cTrader โดยเฉพาะ ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องเครื่องมือวิเคราะห์กราฟขั้นสูงและ Depth of Market ค่าคอมมิชชั่นจะอยู่ที่ $35 ต่อปริมาณการซื้อขาย 1 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเทียบเท่ากับประมาณ $3.5 ต่อ lot ต่อฝั่ง ทำให้ต้นทุนใกล้เคียงกับบัญชี Raw+

การเลือกบัญชีก็คือการเลือกระหว่างต้นทุนที่เห็นชัด (ค่าคอมมิชชั่น) กับต้นทุนที่แอบแฝง (สเปรด) สำหรับคนที่เทรดบ่อย บัญชีที่มีค่าคอมมิชชั่นแต่สเปรดต่ำจะคุ้มกว่าในระยะยาว

ต้นทุนการเทรดและค่าธรรมเนียมแฝง

การดูต้นทุนการเทรดให้ครบถ้วนเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการวางแผนกลยุทธ์ ต้นทุนหลักของ FxPro ประกอบด้วย สเปรด ค่าคอมมิชชั่น และค่า Swap

สเปรดและค่าคอมมิชชั่น

เพื่อให้เห็นภาพชัด ผมจึงเอาต้นทุนรวมของการเทรด 1 lot ในคู่ EUR/USD มาเปรียบเทียบกันดู:

ประเภทบัญชีสเปรดเฉลี่ย (pips)ต้นทุนจากสเปรด ($)ค่าคอมมิชชั่นต้นทุนรวมไป-กลับ ($)
Standard1.5$15$0$15
Raw+0.5$5$7 ($3.5 x 2)$12
cTrader0.5$5$7 ($3.5 x 2)$12

หมายเหตุ: การคำนวณนี้เป็นตัวอย่างจากข้อมูลสเปรดเฉลี่ย และอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาวะตลาด

จากตารางจะเห็นได้ชัดว่าสำหรับเทรดเดอร์ที่ซื้อขายเป็นประจำ บัญชี Raw+ และ cTrader จะมีต้นทุนรวมที่ต่ำกว่าบัญชี Standard อย่างเห็นได้

ค่าธรรมเนียม Swap (Overnight Fee)

ค่า Swap คือค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นเมื่อเราถือสถานะค้างคืน ซึ่งมาจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงินในคู่เงินนั้นๆ FxPro จะคิดค่า Swap แบบสามเท่า (Triple Swap) ในคืนวันพุธสำหรับคู่เงินและโลหะมีค่า ส่วนคืนวันศุกร์สำหรับสินทรัพย์อื่นๆ เพื่อชดเชยช่วงสุดสัปดาห์ที่ตลาดปิด

ค่าธรรมเนียมบัญชีไม่มีการใช้งาน (Inactivity Fee)

เรื่องนี้มีข้อมูลที่ขัดแย้งกันอยู่บ้าง บางแหล่งบอกว่า FxPro จะเก็บค่าธรรมเนียม $10 ต่อเดือน หลังจากไม่ได้ใช้บัญชี 6 เดือน ในขณะที่บางแหล่งบอกว่าไม่เก็บค่าธรรมเนียม แต่จะปิดการใช้งานบัญชีหลังจากไม่มีการเคลื่อนไหว 3 เดือน และสามารถเปิดใช้ใหม่ได้โดยติดต่อฝ่ายสนับสนุน เพื่อความชัดเจน แนะนำให้ตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขล่าสุดในสัญญาลูกค้าของตัวเองดีกว่า

สินค้าที่สามารถเทรดได้และความยืดหยุ่นของระบบ

FxPro นำเสนอสินทรัพย์ในรูปแบบ CFD ที่มีความหลากหลายและครอบคลุมตลาดการเงินหลักทั่วโลก ด้วยจำนวนสินทรัพย์มากกว่า 2,100 รายการ ถือว่าอยู่ในแถวหน้าของวงการเลย

ประเภทสินทรัพย์ที่สามารถเทรดได้ประกอบด้วย:

  • Forex: คู่เงินหลัก คู่เงินรอง และคู่เงินเกิดใหม่ (Exotics)
  • Metals: โลหะมีค่า เช่น ทองคำ (Gold) และเงิน (Silver)
  • Indices: ดัชนีตลาดหุ้นชั้นนำจากทั่วโลก เช่น S&P 500, NASDAQ, FTSE
  • Shares: หุ้นของบริษัทชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และยุโรป
  • Energy: พลังงาน เช่น น้ำมันดิบ (Crude Oil) และก๊าซธรรมชาติ
  • Futures: สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของดัชนีและสินค้าโภคภัณฑ์
  • ETFs: กองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

ในด้านการดำเนินการคำสั่งซื้อขาย FxPro ใช้โมเดล No Dealing Desk (NDD) ซึ่งหมายความว่าคำสั่งของเราจะถูกส่งตรงไปยังกลุ่มผู้ให้บริการสภาพคล่อง (Liquidity Providers) โดยตรง โมเดลนี้ช่วยให้การดำเนินการเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยมีความเร็วในการจับคู่คำสั่งเฉลี่ยต่ำกว่า 12 มิลลิวินาที และยังช่วยเพิ่มความโปร่งใสในการกำหนดราคาอีกด้วย

นอกจากนี้ FxPro ยังมีนโยบายป้องกันยอดเงินคงเหลือติดลบ (Negative Balance Protection) ให้กับลูกค้าทุกประเภทบัญชี ซึ่งเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่สำคัญมาก

แพลตฟอร์มการเทรดและการทดสอบเครื่องมือ

จุดแข็งที่เห็นได้ชัดของ FxPro คือความหลากหลายในเรื่องแพลตฟอร์ม ทำให้เทรดเดอร์สามารถเลือกใช้เครื่องมือที่ตอบโจทย์กลยุทธ์ของตัวเองได้อย่างแท้จริง

MetaTrader 4/5 (MT4/MT5)

แพลตฟอร์มมาตรฐานที่เทรดเดอร์ทั่วโลกใช้กันมากที่สุด เหมาะกับทุกระดับประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ชอบใช้ Expert Advisors เพราะความเสถียรและเครื่องมือสนับสนุนมีเยอะมาก ใครที่เคยชินกับ MT แล้วจะรู้สึกถนัดใจแน่นอน

cTrader

แพลตฟอร์มทางเลือกที่หลายคนมองข้าม แต่จริงๆ แล้วเป็นตัวเลือกที่ดีมาก อินเทอร์เฟซดูทันสมัย เครื่องมือวิเคราะห์กราฟขั้นสูง และที่เด็ดคือมี Depth of Market ที่แสดงสภาพคล่องในแต่ละระดับราคา เทรดเดอร์มืออาชีพกับ Scalper มักจะชอบใช้ตัวนี้

FxPro Trading Platform (App & Web)

แพลตฟอร์มที่ FxPro พัฒนาเอง จุดเด่นคือใช้งานง่าย จัดการบัญชี ฝาก-ถอนเงิน และเทรดได้ครบจบในที่เดียว ออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนมือถือโดยเฉพาะ เหมาะกับคนที่ชอบเทรดแบบเคลื่อนที่

Trading Central Integration

สิ่งที่น่าสนใจคือ FxPro ให้เครื่องมือวิเคราะห์จาก Trading Central ฟรีกับลูกค้าทุกคน ซึ่งปกติแล้วเครื่องมือจากผู้ให้บริการระดับโลกอย่างนี้ต้องเสียเงินเพิ่ม จะได้สัญญาณการเทรดและไอเดียที่มีคุณภาพมาใช้

Virtual Private Server (VPS)

สำหรับเทรดเดอร์ที่รัน EA ตลอด 24 ชั่วโมง FxPro มีบริการ VPS ร่วมกับ BeeksFX ราคาเดือนละ 30 ดอลลาร์ แต่ลูกค้า VIP หรือ Premium จะได้ใช้ฟรี

ขั้นตอนการฝากและถอนเงิน และประสบการณ์การทดสอบ

เรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ไทย FxPro ทำได้ดีในส่วนนี้ โดยเฉพาะการไม่เก็บค่าธรรมเนียมฝาก-ถอนจากฝั่งโบรกเกอร์ และมี FxPro Wallet เป็นจุดศูนย์กลางจัดการเงิน

ระบบ FxPro Wallet ทำงานเหมือนกระเป๋าเงินกลางที่แยกจากบัญชีเทรด ทำให้โอนเงินระหว่างบัญชีได้ทันที และสำคัญคือเงินที่เก็บใน Wallet จะไม่ถูกคำนวณเป็นมาร์จิ้น ปลอดภัยจากความผันผวนของตลาด

การฝากเงิน

FxPro รองรับช่องทางฝากเงินที่หลากหลาย โดยเฉพาะช่องทางที่คนไทยใช้สะดวก

ช่องทางการฝากเงินสำหรับคนไทย

  • การโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศ
    • ธนาคารที่รองรับ: กสิกรไทย, กรุงเทพ, ไทยพาณิชย์, กรุงไทย, กรุงศรี, ออมสิน, CIMB, TMB
    • ค่าธรรมเนียม: ไม่มี (จาก FxPro)
    • เวลาดำเนินการ: โดยทั่วไปรวดเร็ว (1-2 นาที ถึง 24 ชั่วโมง)
  • บัตรเครดิต/เดบิต
    • ธนาคารที่รองรับ: Visa, Mastercard
    • ค่าธรรมเนียม: ไม่มี (จาก FxPro)
    • เวลาดำเนินการ: ทันที
  • E-Wallets
    • ธนาคารที่รองรับ: Skrill, Neteller, PayPal
    • ค่าธรรมเนียม: ไม่มี (จาก FxPro)
    • เวลาดำเนินการ: ทันที

ภาพช่องทางการฝากเงิน FxPro

การถอนเงิน

ขั้นตอนการถอนเป็นไปตามมาตรฐานสากล คือเงินจะส่งกลับไปช่องทางเดิมที่ใช้ฝาก FxPro อนุมัติคำขอถอนภายใน 1 วันทำการ แต่เงินเข้าบัญชีธนาคารไทยอาจใช้เวลา 3-7 วันทำการ ขึ้นอยู่กับกระบวนการของธนาคารตัวกลางและธนาคารปลายทาง

คุณภาพของฝ่ายบริการลูกค้าและการสนับสนุนผู้ใช้งาน

การสนับสนุนลูกค้าที่ดีเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในตลาดที่ผันผวนแรง FxPro ทำได้ดีในส่วนนี้ โดยเฉพาะการดูแลลูกค้าไทย

ช่องทางการติดต่อ

ลูกค้าติดต่อได้หลายช่องทาง ทั้ง Live Chat บนเว็บไซต์ โทรศัพท์ และอีเมล

เวลาทำการ

ฝ่ายสนับสนุนพร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมง 5 วันทำการ (จันทร์-ศุกร์) ครอบคลุมช่วงเวลาที่ตลาดการเงินหลักเปิดทำการ

การสนับสนุนภาษาไทย

นี่คือจุดแข็งที่สำคัญที่สุด FxPro มีทีมที่สามารถให้บริการภาษาไทยได้เต็มรูปแบบในทุกช่องทาง ลดอุปสรรคด้านภาษาและทำให้แก้ปัญหาได้รวดเร็วแม่นยำ

แหล่งข้อมูลช่วยเหลือ

เว็บไซต์มีส่วน Help Section และ FAQ ที่ครอบคลุมคำถามที่พบบ่อย ตั้งแต่การเปิดบัญชีจนถึงการใช้แพลตฟอร์ม เป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับการค้นหาคำตอบด้วยตนเอง

จากรีวิวผู้ใช้งานทั่วโลก ฝ่ายสนับสนุนของ FxPro มักได้รับคำชื่นชมด้านความเป็นมืออาชีพและความรวดเร็วในการตอบสนอง

เครื่องมือการศึกษาและวิเคราะห์ตลาด

FxPro ให้ความสำคัญกับการสร้างความรู้และทักษะให้เทรดเดอร์ มีแหล่งข้อมูลและเครื่องมือวิเคราะห์ที่หลากหลายและมีคุณภาพ

แหล่งข้อมูลเพื่อการเรียนรู้ (Education)

FxPro มีศูนย์การเรียนรู้ที่แบ่งเนื้อหาตามระดับความยาก ตั้งแต่พื้นฐานสำหรับมือใหม่จนถึงระดับสูงสำหรับคนมีประสบการณ์ เนื้อหาครอบคลุมหัวข้อสำคัญอย่างพื้นฐานตลาดการเงิน การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และจิตวิทยาการเทรด (Trading Psychology) นอกจากนี้ยังมีวิดีโอสอนและสัมมนาออนไลน์ (Webinar) อย่างสม่ำเสมอ

เครื่องมือวิเคราะห์ตลาด (Market Analysis Tools)

FxPro Market News ทีมวิเคราะห์ของ FxPro นำเสนอข่าวสารและบทวิเคราะห์ตลาดที่เฉียบคมทุกวันผ่านบล็อก ช่วยให้เทรดเดอร์ติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดได้ใกล้ชิด

ปฏิทินเศรษฐกิจ (Economic Calendar) เครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนวางแผนการเทรดล่วงหน้า สามารถตรวจสอบกำหนดการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ผลการประกาศครั้งก่อน และระดับความผันผวนที่คาดการณ์ได้

Trading Central การเข้าถึงเครื่องมือวิเคราะห์จาก Trading Central ถือเป็นจุดเด่นสำคัญมาก FxPro มอบเครื่องมือนี้ให้ลูกค้าทุกคนฟรี จะได้รับสัญญาณการเทรด การวิเคราะห์รูปแบบกราฟ และแนวโน้มตลาดที่มีคุณภาพและเป็นกลางจากผู้ให้บริการชั้นนำของโลก

จุดเด่นของแพลตฟอร์มและความแตกต่าง

เมื่อมองภาพรวม FxPro มีจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งหลายประการ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โบรกเกอร์รายนี้ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

FxPro Wallet

ระบบกระเป๋าเงินกลางนี้เป็นมากกว่าช่องทางฝาก-ถอน แต่เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้นักลงทุนแยกเงินทุนส่วนใหญ่ออกจากความเสี่ยงในตลาด และโอนเข้าบัญชีเทรดเฉพาะส่วนที่ต้องการใช้เป็นมาร์จิ้นเท่านั้น

FxPro Membership Program

โปรแกรมสะสมคะแนนสำหรับลูกค้าที่ซื้อขายปริมาณมาก จะมีการมอบรางวัลเป็นเงินคืน (Cash Rebates) เข้าสู่ FxPro Wallet ทุกเดือน ช่วยลดต้นทุนการเทรดสำหรับเทรดเดอร์ที่มีความสม่ำเสมอ

NDD Execution Model

การยืนยันที่จะใช้โมเดลการส่งคำสั่งแบบ No Dealing Desk แสดงถึงความมุ่งมั่นในความโปร่งใสและคุณภาพของการจับคู่คำสั่งซื้อขาย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเทรดเดอร์ที่ให้ความสำคัญกับความเร็วและความแม่นยำในการเข้า-ออกออเดอร์

สรุปและคำแนะนำในการเลือกใช้

โดยสรุป FxPro เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง มีประวัติยาวนาน และมีเครื่องมือที่ครบครันสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ จุดแข็งที่ชัดเจนสำหรับผู้ใช้งานในไทยคือการมีใบอนุญาตจากหลายหน่วยงาน, ความหลากหลายของแพลตฟอร์ม, การสนับสนุนภาษาไทยเต็มรูปแบบ และระบบการฝาก-ถอนเงินผ่านธนาคารในประเทศที่สะดวก

ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาคือความสมดุลระหว่างข้อเสนอและระดับการคุ้มครอง การเปิดบัญชีภายใต้การกำกับของ SCB ช่วยให้เข้าถึงเลเวอเรจที่สูงขึ้นได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าระดับการคุ้มครองด้านกองทุนชดเชยนักลงทุนนั้นแตกต่างจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับ Tier-1

คำแนะนำตามเงื่อนไข:

  • หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ และให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มที่หลากหลาย, สภาพคล่องสูง และต้นทุนที่แข่งขันได้ บัญชีประเภท Raw+ หรือ cTrader ของ FxPro ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากมีต้นทุนรวมในการเทรดที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับบัญชี Standard
  • สำหรับมือใหม่ที่ยอมรับต้นทุนที่สูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อแลกกับความน่าเชื่อถือของแบรนด์, การสนับสนุนภาษาไทยเต็มรูปแบบ และความง่ายในการใช้งาน FxPro ยังคงเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่ง แต่แนะนำให้เปรียบเทียบค่าสเปรดในบัญชี Standard กับโบรกเกอร์อื่น ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ
  • หากการมีกองทุนชดเชยนักลงทุนเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับคุณ อาจต้องพิจารณาโบรกเกอร์ที่อนุญาตให้เปิดบัญชีภายใต้การกำกับของ FCA หรือ CySEC โดยตรง ซึ่งโดยทั่วไปจะมาพร้อมกับข้อจำกัดด้านเลเวอเรจที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ

คู่มือขั้นตอนการเปิดบัญชี

การเปิดบัญชีกับ FxPro เป็นกระบวนการที่ตรงไปตรงมาและทำผ่านออนไลน์ได้ทั้งหมด โดยใช้เวลาไม่นานและสามารถเริ่มเทรดได้อย่างรวดเร็ว

ลงทะเบียน

เข้าไปที่เว็บไซต์หลักของ FxPro และกดปุ่ม “Register” จากนั้นกรอกข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็น ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ประเทศที่อยู่อาศัย อีเมลที่ใช้งานได้ และตั้งรหัสผ่านที่มีความปลอดภัย

ภาพขั้นตอนการเปิดบัญชี FxPro 1

ภาพขั้นตอนการเปิดบัญชี FxPro 2

กรอกข้อมูลเพิ่มเติม

ระบบจะพาคุณไปสู่ขั้นตอนถัดไปที่ต้องกรอกรายละเอียดส่วนตัวให้ครบถ้วน รวมถึงสัญชาติ วันเกิด ที่อยู่ปัจจุบัน ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพ และสถานะทางการเงินของคุณ

ภาพขั้นตอนการเปิดบัญชี FxPro 3

ตอบแบบสอบถาม

คุณจะต้องทำแบบประเมินความรู้และประสบการณ์ในวงการเทรดของตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้โบรกเกอร์เข้าใจถึงระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมและสามารถแนะนำผลิตภัณฑ์ CFD ที่เหมาะกับคุณได้

ภาพขั้นตอนการเปิดบัญชี FxPro 4

ภาพขั้นตอนการเปิดบัญชี FxPro 5

 

ยืนยันตัวตน (KYC)

ขั้นตอนนี้เป็นส่วนสำคัญที่สุดในการเปิดใช้งานบัญชีให้สมบูรณ์ คุณจะต้องอัปโหลดเอกสารที่ใช้ยืนยันตัวตนและที่อยู่ตามที่ระบุไว้ด้านล่าง

ภาพขั้นตอนการเปิดบัญชี FxPro 6

ภาพขั้นตอนการเปิดบัญชี FxPro 7

รอการอนุมัติ

หลังจากส่งเอกสารครบถ้วนแล้ว กระบวนการตรวจสอบมักจะเสร็จสิ้นค่อนข้างเร็ว อาจใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีถึงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

เอกสารที่ต้องใช้ในการยืนยันตัวตน (KYC)

เอกสารยืนยันตัวตน

  • บัตรประจำตัวประชาชน
  • หนังสือเดินทาง
  • ใบอนุญาตขับขี่

เอกสารยืนยันที่อยู่ (ต้องเป็นเอกสารที่ออกไม่เกิน 6 เดือน)

  • ใบแจ้งยอดบัญชีธนาคาร (Bank Statement)
  • ใบเสร็จค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต

หมายเหตุสำคัญ: เอกสารทั้งหมดต้องแสดงชื่อและที่อยู่ให้ตรงกับข้อมูลที่คุณกรอกในใบสมัครเป็นการถูกต้อง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

  • Q: FxPro ปลอดภัยสำหรับคนไทยหรือไม่?

    A: ถือว่าปลอดภัยได้ครับ FxPro เป็นโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือสูงในวงการเทรด เพราะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากหลายหน่วยงานทั่วโลก มีการแยกเก็บเงินทุนของลูกค้าอย่างเข้มงวด และมีนโยบายป้องกันยอดเงินติดลบให้ด้วย

    แต่ต้องเข้าใจว่าสำหรับลูกค้าไทย คุณจะอยู่ภายใต้การกำกับของ SCB ซึ่งมีระดับการคุ้มครองที่อาจแตกต่างจาก FCA หรือ CySEC โดยเฉพาะเรื่องกองทุนชดเชยนั่นแหละ

  • Q: การถอนเงินเข้าธนาคารไทยใช้เวลานานเท่าไหร่?

    A: FxPro จะดำเนินการอนุมัติคำขอถอนเงินภายใน 1 วันทำการ แต่สำหรับเงินจะเข้าบัญชีธนาคารในไทยนั้นอาจใช้เวลา 3-7 วันทำการ ขึ้นอยู่กับกระบวนการของแต่ละธนาคารครับ

  • Q: มีค่าธรรมเนียมการฝาก-ถอนหรือไม่?

    A: FxPro เองไม่มีนโยบายเก็บค่าธรรมเนียมในการฝากและถอนเงิน แต่ธนาคารของคุณหรือธนาคารตัวกลางอาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมของตัวเอง แนะนำให้ใช้ช่องทางการโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศเพื่อลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลงได้

  • Q: บัญชีไหนมีค่าใช้จ่ายถูกที่สุด?

    A: สำหรับเทรดเดอร์ที่ซื้อขายบ่อยครั้ง บัญชี Raw+ หรือ cTrader จะมีต้นทุนรวมที่ต่ำกว่าเนื่องจากได้สเปรดที่แคบมาก แม้ว่าจะมีค่าคอมมิชชั่นแต่รวมแล้วคุ้มกว่า

    สำหรับผู้ที่เทรดไม่บ่อยนัก บัญชี Standard อาจจะเหมาะสมกว่าในแง่ของความง่ายและไม่ซับซ้อน

  • Q: FxPro มีโบนัสเงินฝากหรือไม่?

    A: โดยทั่วไป FxPro ไม่มีโบนัสเงินฝากแบบที่เห็นกันทั่วไป แต่จะมีโปรแกรม FxPro Membership Program ที่จะให้เงินคืน (rebate) ตามปริมาณการซื้อขายของคุณแทน

    นอกจากนั้นยังมีการจัดแข่งขันการเทรดเป็นครั้งคราว ซึ่งจะมีรางวัลเป็นโบนัสหรือเงินสดให้กับผู้ชนะด้วย

บทความเด็ดจากFxPro
การจัดอันดับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
แบรนด์
คะแนน
รีวิวแบบละเอียด
1. Moneta Markets
9.8/10
2. Vantage FX
9.4/10
3. VT Markets
9.2/10
4. Eightcap
8.9/10
5. GOFX
8.8/10
บทความล่าสุด
แนะนำเพิ่มเติม

สำหรับผู้โชคดีเท่านั้น!

ยินดีด้วย! บัญชีของคุณได้รับเลือกจากระบบ
เพื่อรับรางวัลอัปเกรดสุดพิเศษ!

?
?
?
?
?

โปรดทราบ: หากปิดหรือออกจากหน้านี้จะถือว่าสละสิทธิ์ทันที