
VT Markets รีวิว (2025): แพลตฟอร์มนี้เหมาะสำหรับคุณในประเทศไทยหรือไม่?
VT Markets รีวิว (20
Eightcap เป็นโบรกเกอร์ที่รองรับแพลตฟอร์มการซื้อขายยอดนิยมอย่าง MT4, MT5 และ TradingView พร้อมแอปพลิเคชันบนมือถือ ข้อดีเด่นคือสเปรดต่ำและสินค้าเทรดที่หลากหลาย แต่อาจมีข้อจำกัดเรื่องกระบวนการถอนเงินที่ใช้เวลานานและการกำกับดูแลที่ไม่ใช่ระดับ Tier 1 สำหรับผู้ใช้ไทย
Eightcap เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์แล้ว คุ้นเคยกับแพลตฟอร์มการเทรดมาตรฐาน และมองหาสินค้าการเทรดที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นนักเทรดมือใหม่ที่ต้องการการคุ้มครองระดับสูงสุด หรือต้องการประสิทธิภาพการถอนเงินที่รวดเร็ว อาจต้องพิจารณาตัวเลือกอื่น
ASIC, SCB, CySEC, FCA
$100
500:1 (SCB), 30:1 (ASIC/FCA/CySEC)
จาก 0.0 pips (Raw Account)
รายการ | ข้อมูล |
ปีที่ก่อตั้ง | 2009 |
สำนักงานใหญ่ | เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย |
ใบอนุญาตกำกับดูแล | ASIC, SCB, CySEC, FCA |
เงินฝากขั้นต่ำ | 100 USD (หรือเทียบเท่า) |
จำนวนถอนขั้นต่ำ | 100 USD (ขึ้นอยู่กับวิธีการถอน) |
แพลตฟอร์มเทรด | MetaTrader 4, MetaTrader 5, TradingView |
เลเวอเรจสูงสุด | 500:1 (ภายใต้ SCB), 30:1 (ภายใต้ ASIC/FCA/CySEC) |
ภาษาที่รองรับ | อังกฤษ, ไทย, จีน, สเปน, โปรตุเกส และอื่นๆ |
บริการลูกค้าภาษาไทย | มีให้บริการ (อีเมล, แบบฟอร์ม, Line, โทรศัพท์) |
ประเทศที่เปิดให้บริการ | มากกว่า 194 ประเทศ (ยกเว้นสหรัฐฯ) |
สิ่งที่น่าสนใจคือ Eightcap รองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบฟังก์ชันการสร้างกราฟขั้นสูง นอกเหนือจากแพลตฟอร์มมาตรฐานอย่าง MT4 และ MT5 แล้ว
เลเวอเรจสูงสุด 500:1 จะเกี่ยวข้องกับข้อกำหนดของ SCB ผู้ใช้ชาวไทยควรเข้าใจว่าการเลือกเลเวอเรจสูงหมายถึงบัญชีจะไม่ได้รับการคุ้มครองโดยตรงจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับ Tier 1
Eightcap ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 ที่เมลเบิร์น ออสเตรเลีย ด้วยพันธกิจหลักคือการให้บริการทางการเงินที่เป็นเลิศ และมุ่งเน้นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบโจทย์ตลาดสมัยใหม่
บริษัทได้รับการยอมรับในวงกว้าง ได้รับรางวัล “โบรกเกอร์แห่งปี” จาก Global Forex Awards ปี 2023 และ “โบรกเกอร์บริการลูกค้าที่ดีที่สุด” จาก Global Brands Magazine ปี 2021 นอกจากนี้ Eightcap ยังเคยเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการของทีม Scuderia Ferrari ในฤดูกาล 2019-2020
Eightcap ไม่ได้เป็นแค่โบรกเกอร์รายย่อย แต่ยังให้บริการแบบ B2B เช่น โซลูชั่นการซื้อขายและ API สำหรับธุรกิจอื่น ซึ่งอาจส่งผลให้เทรดเดอร์รายย่อยได้รับประสบการณ์แพลตฟอร์มที่เสถียรมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในด้านความโปร่งใสของข้อมูล Eightcap ไม่ได้เปิดเผยรายงานทางการเงินประจำปีโดยละเอียด รวมถึงโครงสร้างการถือหุ้นที่ค่อนข้างซับซ้อน
รางวัลด้านบริการลูกค้าที่ได้รับอาจดูขัดแย้งกับปัญหาประสิทธิภaพที่ผู้ใช้บางรายพบเจอ ซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นถึงความไม่สม่ำเสมอในการดำเนินงาน
Eightcap ถือใบอนุญาตกำกับดูแลจากหลายหน่วยงานที่มีชื่อเสียง แต่ระดับการคุ้มครองที่ผู้ใช้ได้รับจะแตกต่างกันไปตามหน่วยงานที่กำกับดูแล
Australian Securities and Investments Commission (ASIC) ถือครองโดย Eightcap Pty Ltd (AFSL 391441) เป็นหน่วยงานกำกับดูแลระดับ Tier 1 ที่มีมาตรการคุ้มครองเข้มงวด เช่น การแยกเงินทุนของลูกค้า การคุ้มครองยอดคงเหลือติดลบ และข้อจำกัดเลเวอเรจที่ 30:1
Financial Conduct Authority (FCA) ถือครองโดย Eightcap Group Ltd (FRN 921296) เป็นหน่วยงานกำกับดูแลระดับ Tier 1 ชั้นนำ มีโครงการชดเชยบริการทางการเงิน (FSCS) ที่ให้วงเงินชดเชยสูงสุดถึง 85,000 ปอนด์
Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) ถือครองโดย Eightcap EU Ltd (ใบอนุญาตหมายเลข 246/14) จัดอยู่ในระดับ Tier 2 มีการคุ้มครองตามข้อกำหนด MiFID II
Securities Commission of the Bahamas (SCB) ถือครองโดย Eightcap Global Limited (ใบอนุญาต SIA-F220) จัดเป็นหน่วยงานกำกับดูแลระดับ Tier 3 อนุญาตให้ใช้เลเวอเรจสูงสุด 500:1
สำหรับผู้ใช้ชาวไทย บัญชีส่วนใหญ่จะอยู่ภายใต้ Eightcap Global Limited ซึ่งได้รับการกำกับดูแลโดย SCB ดังนั้นผู้ใช้จึงควรตรวจสอบรายละเอียดในขั้นตอนการสมัครอย่างรอบคอบ
แม้ว่าแบรนด์ Eightcap จะถือใบอนุญาตระดับ Tier 1 หลายใบ แต่มาตรการคุ้มครองที่ผู้ใช้ชาวไทยได้รับจะขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของ SCB เป็นหลัก ซึ่งแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากมาตรฐานของ ASIC หรือ FCA
ความแตกต่างสำคัญ:
นักเทรดชาวไทยควรเข้าใจถึงการแลกเปลี่ยนนี้ การเลือกเลเวอเรจสูงและเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นมากขึ้น อาจหมายถึงการยอมรับระดับการคุ้มครองที่แตกต่างกันตามมาด้วย
เมื่อสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้จากแพลตฟอร์มต่างๆ จะพบว่าชื่อเสียงของ Eightcap ในการใช้งานจริงค่อนข้างหลากหลาย
จากข้อมูลบน TrustPilot พบว่าสถานการณ์ค่อนข้างไม่สอดคล้องกัน โดยข้อมูลเดิมระบุว่า Eightcap ได้รับคะแนนโดยรวมประมาณ 3.8 ดาว จากคะแนนเต็ม 5 ดาว
ปัญหาหลักที่ผู้ใช้มักพบคือ ประสิทธิภาพของกระบวนการถอนเงินและเวลารอของฝ่ายบริการลูกค้า โดยเฉพาะในขั้นตอนการยืนยันตัวตนหรือการขอถอนเงิน ซึ่งอาจใช้เวลานานกว่าปกติ
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลบางส่วนที่กล่าวถึงว่า Eightcap ได้รับคะแนน 4.5 ดาว จาก 5 รีวิว ความแตกต่างนี้อาจเกิดจากจำนวนตัวอย่างการรีวิวที่แตกต่างกันและช่วงเวลาที่ทำการรีวิว
ในแพลตฟอร์ม Reddit มีผู้ใช้บางรายแบ่งปันประสบการณ์ที่บัญชีการเทรดถูกบล็อกเนื่องจากติดปัญหาในขั้นตอนการยืนยันตัวตน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในบางสถานการณ์ ความราบรื่นของกระบวนการบริหารจัดการอาจส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ผู้ใช้ได้
จากความคิดเห็นภาษาไทยบนแพลตฟอร์ม TradingView และ Pantip พบว่าผู้ใช้ชาวไทยบางรายแสดงความขอบคุณต่อการช่วยเหลือของ Eightcap ในด้านบริการลูกค้า และชื่นชมแพลตฟอร์มว่า “ยอดเยี่ยมมาก ใช้งานง่าย”
อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้บางรายรายงานว่าเมื่อใช้ TradingView เชื่อมต่อกับ Eightcap แอปพลิเคชันบางครั้งอาจหลุดออกเอง หรือต้องเข้าสู่ระบบใหม่ ฝ่ายบริการลูกค้าของ Eightcap ตอบว่าอาจเป็นกลไกการออกจากระบบอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย
ที่น่าสังเกตคือ ทีมบริการลูกค้าภาษาไทยของ Eightcap ได้ตอบคำถามและข้อเสนอแนะจากผู้ใช้ชาวไทยอย่างกระตือรือร้นบน TradingView ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในชุมชนท้องถิ่น
โดยรวมแล้ว Eightcap แสดงให้เห็นภาพที่หลากหลาย จุดแข็งคือความเร็วในการดำเนินการคำสั่งซื้อขายและความง่ายในการใช้งานแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะ MT4/MT5 และ TradingView ส่วนจุดที่ยังต้องพัฒนาคือ ประสิทธิภาพในการดำเนินการด้านการเงิน โดยเฉพาะการถอนเงินและกระบวนการยืนยันตัวตน
Eightcap เสนอบัญชีซื้อขายจริงหลัก 2 ประเภท ได้แก่ บัญชี Standard และ Raw ซึ่งแต่ละประเภทมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ความแตกต่างหลักอยู่ที่โครงสร้างค่าใช้จ่ายของสเปรดและค่าคอมมิชชั่น
คุณสมบัติ | บัญชี Standard | บัญชี Raw |
เงินฝากขั้นต่ำ | $100 USD (หรือเทียบเท่า) | $100 USD (หรือเทียบเท่า) |
สเปรด | เริ่มต้นที่ 1.0 pips | เริ่มต้นที่ 0.0 pips |
ค่าคอมมิชชั่น | ไม่มี (ยกเว้น CFD หุ้น) | ฟอเร็กซ์ $3.5 ต่อล็อตต่อด้าน |
เหมาะสำหรับ | ผู้เริ่มต้นที่ชอบโครงสร้างต้นทุนง่าย | ผู้มีประสบการณ์ที่ต้องการสเปรดต่ำ |
ระดับ Margin Call | 80% | 80% |
ระดับ Stop Out | 50% | 50% |
ขนาดการเทรดขั้นต่ำ/สูงสุด | 0.01 – 100 ล็อต | 0.01 – 100 ล็อต |
สกุลเงินหลัก | AUD, USD, EUR, GBP, NZD, CAD, SGD | AUD, USD, EUR, GBP, NZD, CAD, SGD |
นักเทรดที่มีการเคลื่อนไหวสูงมักจะพบว่าบัญชี Raw มีข้อได้เปรียบมากกว่า แม้จะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น แต่ต้นทุนการเทรดโดยรวมมักจะต่ำกว่าบัญชี Standard อย่างชัดเจน
Eightcap รองรับการเปิดบัญชีทดลองที่มีอายุการใช้งาน 30 วัน ผู้ใช้งานสามารถเปิดบัญชีทดลองได้ดังนี้:
การเข้าใจต้นทุนการเทรดจริงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเทรดทุกคน Eightcap มีโครงสร้างค่าใช้จ่ายที่โปร่งใสและแข่งขันได้
สเปรด (Spreads)
บัญชี Standard ไม่มีค่าคอมมิชชั่น โดยสเปรดสำหรับคู่ EUR/USD เริ่มต้นที่ 1.0 pip ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่แข่งขันได้
บัญชี Raw นำเสนอสเปรดต่ำมาก เริ่มต้นที่ 0.0 pips และสเปรดเฉลี่ยประมาณ 0.1 pips ทำให้เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการความแม่นยำสูง
ค่าคอมมิชชั่น
ค่าธรรมเนียมข้ามคืน (Swap Fees)
หากถือคำสั่งซื้อขายข้ามคืน จะเกิดค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับสินค้าทางการเงิน ทิศทางการถือคำสั่ง และอัตราดอกเบี้ยตลาด
การฝาก/ถอนเงิน
ค่าธรรมเนียมการไม่เคลื่อนไหว
ปัจจุบัน Eightcap ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการไม่เคลื่อนไหวของบัญชี ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับนักเทรดที่อาจหยุดพักบ้างบางครั้ง
สำหรับนักเทรดไทย การเลือกบัญชี Raw และใช้ช่องทางการฝากถอนเงินบาทไทยที่มีต้นทุนต่ำ จะช่วยลดต้นทุนการเทรดโดยรวม นักเทรดที่มีการเคลื่อนไหวสูงจะพบว่ารูปแบบ “สเปรดต่ำ + ค่าคอมมิชชั่นคงที่” ของบัญชี Raw นั้นโปร่งใสและประหยัดกว่า
การใช้ประโยชน์จากวิธีการชำระเงินในประเทศไทยที่ Eightcap มีให้ เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับนักเทรดที่ต้องการถือคำสั่งซื้อขายเป็นเวลานาน ควรจับตาดูการเปลี่ยนแปลงของค่าธรรมเนียมข้ามคืน หรือพิจารณาขอเปิดบัญชีอิสลาม
Eightcap มีความโดดเด่นในการนำเสนอเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายสำหรับเทรดเดอร์ โดยครอบคลุมสินทรัพย์หลายประเภทและมีความยืดหยุ่นในการดำเนินการคำสั่งซื้อขายที่น่าประทับใจ
Eightcap นำเสนอเครื่องมือทางการเงินมากกว่า 800 รายการ และในบางข้อมูลมีการกล่าวถึงจำนวนที่สูงกว่า 1,000 รายการ สินค้าเหล่านี้แบ่งออกเป็นหมวดหมู่หลักดังนี้:
ระดับเลเวอเรจสูงสุดที่ Eightcap นำเสนอมีความแตกต่างตามหน่วยงานกำกับดูแล ประเภทบัญชี และสินค้าที่เทรด
สำหรับบัญชีที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ SCB ซึ่งอาจใช้กับผู้ใช้ชาวไทย เลเวอเรจสูงสุดสำหรับฟอเร็กซ์สามารถสูงถึง 500:1
หากบัญชีอยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่เข้มงวดกว่า เช่น ASIC, FCA, หรือ CySEC เลเวอเรจสำหรับคู่สกุลเงินหลักจะถูกจำกัดที่ 30:1 หรือต่ำกว่า
ระดับ Margin Call ตั้งอยู่ที่ 80% และระดับ Stop Out ที่ 50% ซึ่งหมายความว่าเมื่อมูลค่าสุทธิของบัญชีลดลงเหลือ 50% ของมาร์จิ้นที่ใช้ไป ระบบจะปิดคำสั่งซื้อขายที่ขาดทุนมากที่สุดโดยอัตโนมัติ
Eightcap อ้างว่าใช้เวลาดำเนินการคำสั่งซื้อขายเพียง 0.1 วินาที และรองรับกลยุทธ์ Scalping ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถดำเนินการซื้อขายระยะสั้นได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังรองรับการเทรดแบบ Hedging ที่อนุญาตให้ถือสถานะทั้ง Long และ Short ในสินค้าเดียวกันได้พร้อมกัน
จากความคิดเห็นของผู้ใช้หลายราย Eightcap ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกในด้านความเร็วในการดำเนินการคำสั่งซื้อขาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเทรดในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
สำหรับสินค้าที่ไม่เป็นที่นิยมซึ่งมีสภาพคล่องต่ำ หรือในสภาวะตลาดผันผวน อาจเกิด Slippage หรือความคลาดเคลื่อนของราคา ความถี่ในการอัปเดตราคาอาจค่อนข้างต่ำในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความแม่นยำในการกระตุ้นคำสั่ง Stop Loss
เทรดเดอร์ควรเลือกเลเวอเรจที่เหมาะสมโดยพิจารณาจากความสามารถในการรับความเสี่ยงและประสบการณ์การเทรด โดยเฉพาะผู้ใช้ชาวไทยที่อาจใช้เลเวอเรจ 500:1 จากหน่วยงานกำกับดูแลนอกชายฝั่ง
Eightcap ให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขายที่หลากหลาย โดยหลักแล้วจะใช้ MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการ นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการวิเคราะห์กราฟที่มีประสิทธิภาพสูง
MetaTrader 4 และ MetaTrader 5
แพลตฟอร์มทั้งสองนี้ได้รับความนิยมเนื่องจากความเสถียรในการทำงาน มีตัวชี้วัดทางเทคนิคที่หลากหลาย และรองรับการซื้อขายอัตโนมัติผ่าน Expert Advisors
MT5 เป็นเวอร์ชันที่อัปเกรดจาก MT4 โดยมีตัวชี้วัดทางเทคนิคมากกว่า ประมาณ 38 ตัวชี้วัดเทียบกับ MT4 ที่มี 30 ตัวชี้วัด ช่วงเวลากราฟก็มากกว่า โดย MT5 มี 21 ช่วงเวลา ในขณะที่ MT4 มี 9 ช่วงเวลา
MT5 ยังมีข้อมูลเชิงลึกของตลาด (Depth of Market) และปฏิทินเศรษฐกิจในตัวที่ครอบคลุมตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาคมากกว่า 600 รายการ
จากการทดสอบจริง พบว่า MT5 เวอร์ชันเดสก์ท็อปทำงานได้อย่างราบรื่น เครื่องมือสร้างกราฟและคลังตัวชี้วัดทางเทคนิคมีความหลากหลาย เหมาะสำหรับผู้ใช้ขั้นสูง
TradingView
การรองรับการเชื่อมต่อกับ TradingView เป็นคุณสมบัติที่สำคัญ TradingView มีฟังก์ชันกราฟที่ยอดเยี่ยม มีประเภทกราฟที่ปรับแต่งได้มากกว่า 20 แบบ ตัวชี้วัดทางเทคนิคจำนวนมหาศาล รวมถึงเครื่องมือการวาดที่ทรงพลัง
สำหรับผู้ใช้ชาวไทยที่คุ้นเคยกับ TradingView การเชื่อมต่อบัญชี Eightcap ได้โดยตรงจะช่วยเพิ่มความสะดวกและความราบรื่นในการดำเนินงาน
Eightcap ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ MT4/MT5 มาตรฐาน ด้วยการรวม TradingView และเสริมด้วยเครื่องมือต่างๆ ช่วยเพิ่มความลึกและความกว้างของบริการ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ตั้งแต่มือใหม่จนถึงนักเทรดเชิงปริมาณที่มีประสบการณ์
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ใช้ชาวไทยบางราย แม้ว่าแพลตฟอร์มเองอาจรองรับภาษาไทย แต่เอกสารหลักและอินเทอร์เฟซของเครื่องมือบุคคลที่สามขั้นสูงบางส่วนอาจยังคงเป็นภาษาอังกฤษเป็นหลัก ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ใช้ที่มีความรู้ภาษาอังกฤษจำกัด
Eightcap โดดเด่นด้วยระบบการเงินที่รองรับคนไทยอย่างครบครัน ทำให้การทำธุรกรรมสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่าย
วิธีการระดับสากล ระบบรองรับช่องทางที่ใช้ทั่วโลก ได้แก่ บัตรเครดิต/เดบิต (Visa, Mastercard), การโอนเงินผ่านธนาคารระหว่างประเทศ, กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Skrill, Neteller รวมถึงระบบชำระเงินอื่นๆ เช่น POLi, Fasapay ในบางภูมิภาค
สกุลเงินดิจิทัล รองรับการฝากเงินผ่าน Bitcoin และอนุญาตให้ถอนเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล แต่ที่อยู่สำหรับการถอนต้องตรงกับที่อยู่การฝาก มิฉะนั้นต้องมีการยืนยันตัวตนเพิ่มเติม
ตัวเลือกสำหรับคนไทย จุดเด่นสำคัญคือการรองรับเงินบาทไทย (THB) โดยตรง
วิธีการฝากเงิน | เวลาดำเนินการ | ค่าธรรมเนียม |
Thai QR Code Payment | ทันที | แปรผัน |
Thailand Online Banking | ทันที | แปรผัน |
PSP (Virtual Account) | ทันที | แปรผัน |
วิธีการถอนเงิน | เวลาเข้าบัญชี | ค่าธรรมเนียม |
PSP (Virtual Account) | ประมาณ 1 วันทำการ | $0* |
การมีช่องทางชำระเงินในท้องถิ่นช่วยลดความซับซ้อนในการทำธุรกรรมและประหยัดค่าใช้จ่ายจากการแปลงสกุลเงินหรือการโอนระหว่างประเทศ
เวลาดำเนินการ การฝากเงินด้วยบัตรเครดิต, กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์, และวิธีการชำระเงินในไทย เช่น QR Code และออนไลน์แบงก์กิ้ง เงินจะเข้าบัญชีทันทีหรือภายในเวลาอันสั้น การโอนเงินผ่านธนาคารระหว่างประเทศอาจใช้เวลา 1-3 วันทำการ
ค่าธรรมเนียม Eightcap ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมภายในสำหรับการฝากเงิน แต่ธนาคารผู้ออกบัตร, ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์, หรือธนาคารตัวกลางอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมของตนเอง
ข้อกำหนดสำคัญ การฝากเงินทั้งหมดต้องมาจากบัญชีธนาคาร, บัตรเครดิต, หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มีชื่อตรงกับชื่อบัญชีเทรด Eightcap เพื่อสอดคล้องกับข้อกำหนดป้องกันการฟอกเงิน (AML)
วิธีการดำเนินการ การถอนเงินจะใช้วิธีการคืนเงินต้นทาง คือเงินจะถูกส่งคืนไปยังบัญชีหรือช่องทางที่ใช้ในการฝากเงินครั้งแรก
เวลาดำเนินการ ทีมการเงินต้องตรวจสอบคำขอถอนเงินแต่ละรายการใช้เวลา 1-2 วันทำการ หลังจากตรวจสอบเสร็จสิ้น:
จากประสบการณ์ผู้ใช้บางราย การถอนเงินผ่านบัญชีธนาคารอาจใช้เวลา 4 วันทำการ ซึ่งนานกว่าค่าเฉลี่ยของโบรกเกอร์บางรายในอุตสาหกรรม
ค่าธรรมเนียม Eightcap ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการถอนเงินภายใน แต่การโอนเงินผ่านธนาคารระหว่างประเทศ ผู้ใช้อาจต้องรับภาระค่าธรรมเนียมจากธนาคารตัวกลาง ซึ่งอาจอยู่ระหว่าง 20-25 ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการถอนเงินผ่าน PSP Virtual Account ในไทย ค่าธรรมเนียมระบุว่า $0* ผู้ใช้ควรตรวจสอบข้อกำหนดเฉพาะที่ระบุโดยเครื่องหมายดอกจันอย่างละเอียด
การที่ Eightcap มีช่องทางการชำระเงินบาทไทย (THB) ในท้องถิ่นเป็นจุดเด่นสำคัญ การฝากเงินทันทีผ่าน Thai QR Code, ออนไลน์แบงก์กิ้ง หรือ PSP Virtual Account และสามารถถอนเงินไปยังบัญชีในท้องถิ่นได้ในเวลาค่อนข้างรวดเร็ว (ประมาณ 1 วันทำการหลังการตรวจสอบภายใน) ช่วยลดความซับซ้อนและต้นทุนการแปลงสกุลเงิน
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลารวมที่รวมถึงการตรวจสอบภายใน 1-2 วันทำการยังคงเป็นประเด็นที่ผู้ใช้ควรพิจารณา โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่มีความต้องการเงินทุนเร่งด่วน
Eightcap ให้บริการลูกค้าหลายภาษาสำหรับลูกค้าทั่วโลก รวมถึงการสนับสนุนภาษาไทยสำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย
Eightcap ให้บริการลูกค้าในหลายภาษา รวมถึงภาษาอังกฤษ, ภาษาไทย, และภาษาจีน สำหรับผู้ใช้ไทย ช่องทางการติดต่อที่สามารถใช้ได้:
สำหรับการสอบถามที่ส่งผ่านอีเมลหรือแบบฟอร์มออนไลน์ เวลาตอบกลับอาจใช้เวลาประมาณ 12-24 ชั่วโมง หากใช้แชทออนไลน์สด, Line, หรือโทรศัพท์ ควรได้รับการตอบกลับเบื้องต้นที่รวดเร็วกว่า
ความสามารถในการตอบคำถามทั่วไปของทีมบริการลูกค้าค่อนข้างดี แต่หากพบปัญหาทางเทคนิคที่ซับซ้อนหรือสถานการณ์พิเศษที่เกี่ยวข้องกับบัญชี อาจต้องใช้เวลาในการสื่อสาร หรือติดต่อหลายครั้งจึงจะได้รับการแก้ไข
สำหรับผู้ใช้ไทย แนะนำให้ใช้ช่องทางเรียลไทม์อย่าง Line หรือแชทสด พร้อมอธิบายปัญหาให้ชัดเจนและตรงประเด็นมากที่สุด เพื่อให้ทีมบริการเข้าใจสถานการณ์และช่วยเหลือได้รวดเร็วขึ้น
Eightcap มีเนื้อหาการศึกษาที่ครอบคลุมพื้นฐานฟอเร็กซ์, คู่มือกลยุทธ์, วิดีโอสอน, eBook และจัดสัมมนาผ่านเว็บอย่างสม่ำเสมอ บริษัทได้ตั้งส่วนการศึกษาชื่อ “Eightcap Labs” ที่มีเป้าหมายเพื่อ “เชื่อมช่องว่างระหว่างทฤษฎีและการปฏิบัติ”
แม้ว่า Eightcap จะได้รับรางวัลด้านการศึกษา (เช่น “โบรกเกอร์แหล่งข้อมูลการศึกษาฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดปี 2021” จาก Global Forex Awards) แต่เนื้อหาเชิงลึกและสัมมนาส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ไทยที่มีความรู้ภาษาอังกฤษจำกัด
Trading Central Eightcap รวมรายงานวิเคราะห์จาก Trading Central ที่ให้การวิเคราะห์ทางเทคนิค, ตัวชี้วัดความรู้สึกของตลาด, และสัญญาณการเทรด ผู้ใช้ควรยืนยันว่าบริการนี้ยังคงเป็นเครื่องมือวิเคราะห์หลักอยู่
FX Blue Labs ชุดเครื่องมือขั้นสูงที่ทรงพลัง ครอบคลุมระบบแจ้งเตือนการเทรดที่ซับซ้อน, การวิเคราะห์ความรู้สึกตลาดแบบเรียลไทม์, การติดตามความสัมพันธ์สกุลเงิน, และฟังก์ชันการวิเคราะห์ขั้นสูงอื่นๆ เครื่องมือนี้มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการวิจัยตลาดเชิงลึกและพัฒนากลยุทธ์ซับซ้อน
ปฏิทินเศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วย AI เครื่องมือที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์วิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังของเหตุการณ์เศรษฐกิจมหภาคกว่า 1,000 รายการ เพื่อประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อตลาดและความผันผวน
การรวมแพลตฟอร์ม TradingView การเชื่อมต่อกับ TradingView ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์กราฟที่หลากหลาย รวมถึงอินดิเคเตอร์แบบกำหนดเอง และกลยุทธ์จากชุมชนเทรดเดอร์ทั่วโลก
เครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูงบางประเภทอาจเปิดให้เฉพาะบัญชีบางประเภทหรือเทรดเดอร์ที่มีปริมาณการเทรดตามเงื่อนไข ความถี่การอัปเดตข้อมูลเพียงพอสำหรับเทรดเดอร์ทั่วไป แต่เทรดเดอร์มืออาชีพอาจต้องใช้แหล่งข้อมูลระดับโปรเพิ่มเติม
โดยรวมแล้ว Eightcap แสดงวิสัยทัศน์ชัดเจนในการเป็น “ผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีการเทรด” ผ่านเครื่องมือต่างๆ เช่น ปฏิทินเศรษฐกิจแบบ AI, FX Blue Labs และการผสานการทำงานกับ TradingView
อย่างไรก็ตาม ยังมีช่องว่างในการจัดเนื้อหาการศึกษาภาษาไทยสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ หาก Eightcap สามารถพัฒนาสื่อการเรียนรู้ภาษาไทยที่มีคุณภาพและอธิบายการวิเคราะห์ตลาดในบริบทที่เข้าใจง่าย จะช่วยส่งเสริมการเติบโตของกลุ่มเทรดเดอร์ไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลังจากประเมิน Eightcap ในทุกแง่มุมแล้ว สามารถให้คะแนนโดยรวม 7.5/10 ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหลายประเทศ มีเครื่องมือการเทรดครบถ้วน
จุดเด่นของ Eightcap ได้แก่ การรองรับแพลตฟอร์มหลากหลาย (MT4, MT5, TradingView), ความหลากหลายของสินทรัพย์ โดยเฉพาะ CFD คริปโตกว่า 250 รายการ, และความสะดวกในการฝาก-ถอนเงินบาทไทย บัญชี Raw Account เป็นตัวเลือกน่าสนใจสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการต้นทุนต่ำ
เทรดเดอร์ไทยที่มีประสบการณ์ฟอเร็กซ์/CFD คุ้นเคย MT4/MT5 หรือ TradingView, ผู้ที่ต้องการสินค้าการเทรดหลากหลาย โดยเฉพาะสกุลเงินดิจิทัล, เทรดเดอร์ที่อ่อนไหวต่อต้นทุนการเทรด และยอมรับการกำกับดูแลที่ไม่เข้มงวดที่สุด, และผู้ที่ต้องการความสะดวกในการชำระเงินบาทไทย
เทรดเดอร์มือใหม่ที่ต้องการการกำกับดูแลระดับ Tier 1 เท่านั้น, ผู้ที่ต้องการความเร็วในการถอนเงินอย่างเคร่งครัด, ผู้เริ่มต้นที่ต้องการแหล่งข้อมูลการสอนภาษาไทยที่ครบถ้วน, และเทรดเดอร์ที่ต้องการบริการลูกค้าที่ตอบสนองรวดเร็วสำหรับปัญหาซับซ้อน
หากให้ความสำคัญกับมาตรฐานการกำกับดูแล Tier 1 อย่างเคร่งครัด แนะนำให้เปรียบเทียบกับโบรกเกอร์ชั้นนำรายอื่นก่อนตัดสินใจ
สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์การเทรด เข้าใจและยอมรับความเสี่ยงภายใต้การกำกับดูแลของ SCB รวมถึงชื่นชอบความหลากหลายของเครื่องมือเทรด โดยเฉพาะ CFD สกุลเงินดิจิทัล Eightcap ยังถือเป็นโบรกเกอร์ที่มีจุดแข็งแข่งขันได้ในตลาด
สิ่งสำคัญที่สุด: ก่อนเปิดบัญชี ให้ยืนยันข้อมูลกับฝ่ายบริการลูกค้าว่าบัญชีจะถูกดูแลภายใต้หน่วยงานกำกับดูแลใด และอ่านข้อตกลงลูกค้าและข้อกำหนดการให้บริการอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าทราบสิทธิ์และความเสี่ยงทั้งหมดอย่างรอบด้าน
การเปิดบัญชีเทรดจริงกับ Eightcap ค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่ผู้ใช้ไทยควรใส่ใจเป็นพิเศษกับเอกสารที่จำเป็นและเวลาดำเนินการที่อาจเกิดขึ้นในขั้นตอนการยืนยันตัวตน (KYC)
แนะนำให้ผู้ใช้ไทยเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ทางการภาษาไทยของ Eightcap (eightcap.com/th/) โดยตรง จากนั้นคลิกที่ปุ่ม “เปิดบัญชีจริง” หรือปุ่มลงทะเบียนที่คล้ายกันบนหน้าเว็บ
ตามคำแนะนำของระบบ คุณจะต้องกรอกข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ ซึ่งโดยปกติจะรวมถึง:
ในขั้นตอนนี้ จะต้องเลือกแพลตฟอร์มการเทรดที่ต้องการ (MetaTrader 4, MetaTrader 5 หรือ TradingView), ประเภทบัญชี (Standard Account หรือ Raw Account), สกุลเงินหลักของบัญชี (เช่น USD) และระดับเลเวอเรจที่ต้องการ
โปรดทราบว่าเลเวอเรจสูงสุดจะถูกจำกัดตามกฎระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแลที่สังกัด
ก่อนส่งใบสมัคร คุณจะต้องอ่านและยอมรับนโยบายการเปิดเผยความเสี่ยง, ข้อตกลงลูกค้า และข้อกำหนดทางกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องของ Eightcap อย่างละเอียด
นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในกระบวนการเปิดบัญชี คุณจะต้องเตรียมและอัปโหลดภาพสแกนหรือรูปถ่ายที่ชัดเจนของเอกสารสองประเภทต่อไปนี้:
เอกสารที่อัปโหลดทั้งหมดจะต้องชัดเจน, อ่านง่าย, ข้อมูลครบถ้วน และยังไม่หมดอายุ ชื่อและที่อยู่บนเอกสารจะต้องตรงกับข้อมูลที่คุณกรอกในแบบฟอร์มใบสมัครทุกประการ
หากเอกสารของคุณ (เช่น บัตรประจำตัวประชาชนไทยหรือเอกสารยืนยันที่อยู่) เป็นภาษาไทย ทีมตรวจสอบของ Eightcap อาจขอให้คุณจัดเตรียมเอกสารแปลภาษาอังกฤษที่ออกโดยหน่วยงานที่ได้รับการรับรอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาว่า Eightcap มีฝ่ายบริการลูกค้าในประเทศไทย ขอแนะนำให้คุณลองอัปโหลดเอกสารต้นฉบับที่เป็นภาษาไทยก่อน หากทีมตรวจสอบมีข้อกำหนดเพิ่มเติม ค่อยดำเนินการจัดหาเอกสารแปลตามคำแนะนำ
หลังจากที่คุณส่งเอกสาร KYC ที่จำเป็นทั้งหมดเรียบร้อยแล้วและข้อมูลถูกต้อง กระบวนการตรวจสอบและตั้งค่าบัญชีจริงของ Eightcap โดยปกติจะเสร็จสมบูรณ์ภายใน 24 ชั่วโมงทำการ การเปิดบัญชีทดลองจะเกือบจะทันที
เอกสารไม่ตรงตามข้อกำหนด นี่คือสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้เกิดความล่าช้า ตัวอย่างเช่น เอกสารยืนยันที่อยู่ไม่ได้ออกภายใน 6 เดือนล่าสุด, ที่อยู่บนเอกสารไม่ตรงกับที่อยู่ที่กรอกในใบสมัครทั้งหมด, ไม่ได้ใช้เอกสารทางการในการยืนยันที่อยู่ (เช่น บิลค่าโทรศัพท์มือถืออาจไม่ได้รับการยอมรับ), หรือเอกสารยืนยันตัวตนไม่ชัดเจนหรือหมดอายุ
การดำเนินการเอกสารภาษาไทย หากเอกสารภาษาไทยที่อัปโหลดไม่ได้จัดเตรียมเอกสารแปลตามที่กำหนด (ในกรณีที่มีการร้องขออย่างชัดเจน) หรือคุณภาพการแปลไม่ตรงตามมาตรฐาน อาจทำให้การตรวจสอบล่าช้า
ข้อมูลไม่ตรงกัน หากข้อมูลส่วนบุคคลที่กรอกในใบสมัคร (เช่น การสะกดชื่อ, วันเดือนปีเกิด) มีความแตกต่างเล็กน้อยกับข้อมูลในเอกสารที่อัปโหลด อาจทำให้การยืนยันไม่ผ่านหรือต้องส่งเอกสารเพิ่มเติม
หากการยืนยันไม่ผ่านหรือต้องส่งเอกสารเพิ่มเติม Eightcap โดยปกติจะแจ้งให้ทราบทางอีเมล และจะระบุรายละเอียดของเอกสารเฉพาะที่ต้องส่งเพิ่มเติม หรือข้อมูลที่ต้องแก้ไขในอีเมล
เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าที่ไม่จำเป็น แนะนำอย่างยิ่งให้ตรวจสอบความชัดเจน, ความสมบูรณ์, วันหมดอายุของเอกสารทั้งหมด และตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลที่กรอกทั้งหมดถูกต้อง ก่อนส่งใบสมัคร
รองรับแน่นอน! เทรดเดอร์จากประเทศไทยสามารถใช้บริการของ Moneta Markets ได้อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมรับโบนัสเงินคืนสูงสุด 50% และเพลิดเพลินกับระบบคัดลอกการเทรด ที่พัฒนาโดยทีมงานของเราเอง ใช้งานง่าย ปลอดภัย และเชื่อถือได้ สเปรดต่ำ การดำเนินการรวดเร็ว ครบจบในที่เดียว
เงินฝากขั้นต่ำของ Moneta Markets อยู่ที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นบัญชีมาตรฐานหรือบัญชี ECN ก็สามารถเริ่มต้นเทรดได้ด้วยเงินจำนวนไม่มาก เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเทรดด้วยทุนต่ำ และสะดวกสำหรับเทรดเดอร์ที่มีหลายบัญชีในการบริหารกลยุทธ์
Moneta Markets รองรับแพลตฟอร์มหลักอย่าง MT4 และ MT5 นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์ม ProTrader ที่พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งมีเครื่องมือกราฟและอินดิเคเตอร์ครบครัน เหมาะกับสายวิเคราะห์เทคนิคโดยเฉพาะ รวมถึงแอปเทรดบนมือถือ AppTrader ที่ออกแบบโดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเทรดได้ทุกที่ทุกเวลา
ไม่ใช่ และในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า Moneta Markets เป็นแพลตฟอร์มเถื่อน แม้ว่าจะมีข่าวลือออนไลน์เรื่องปัญหาการถอนเงินหรือการหลอกลวง แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะมิจฉาชีพสร้างแพลตฟอร์มปลอมขึ้นมาโดยใช้ชื่อคล้าย Moneta Markets ไม่ใช่บริษัทจริง
VT Markets รีวิว (20
Doo Prime รีวิว (202
รีวิว Exness (2025):
VT Markets รีวิว (20
ขอแสดงความยินดี! บัญชีของคุณถูกสุ่มเลือกเพื่อรับโอกาสอัปเกรดโบนัส!
ข้อควรระวัง: นี่คือข้อเสนอพิเศษที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว หากปิดหรือออกหน้าต่างนี้ ข้อเสนอจะหายไปอย่างถาวร
รับ โบนัสเงินฝาก 50% (เช่น ฝาก $1,000 รับเพิ่ม $500)
ฝากรางวัลเข้าบัญชี Moneta Markets ของคุณทันที: