หากคุณเป็นเทรดเดอร์มือใหม่ที่กำลังมองหาแพลตฟอร์มเทรดที่ดี คำถาม “MT5 คืออะไร?” น่าจะเป็นหนึ่งในคำถามแรก ๆ ที่คุณอยากได้คำตอบ
MetaTrader 5 (MT5) คือแพลตฟอร์มเทรดที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากเทรดเดอร์ทั่วโลก ด้วยฟีเจอร์ครบครันและรองรับสินทรัพย์หลากหลายประเภท บทความนี้จะอธิบายทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ MT5 ทั้งความแตกต่างกับ MT4 ฟีเจอร์เด่น วิธีใช้งาน และคำแนะนำสำหรับการเริ่มต้น เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าแพลตฟอร์มนี้เหมาะกับคุณหรือไม่

MT5 คืออะไร? ทำความรู้จักแพลตฟอร์มเทรดระดับโลก
MT5 คือแพลตฟอร์มเทรดออนไลน์ที่พัฒนาโดย MetaQuotes Software Corp. ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดและก้าวหน้ากว่า MT4 อย่างมีนัยสำคัญ คุณอาจมองว่า MT5 ไม่ได้เป็นแค่การปรับปรุง MT4 แต่เป็นการสร้างแพลตฟอร์มใหม่ตั้งแต่ต้น มีฟีเจอร์ที่ทันสมัยกว่าและตอบโจทย์การเทรดที่ซับซ้อนในปัจจุบัน
ประวัติและการพัฒนา
MetaTrader 5 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2010 ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นแพลตฟอร์มเทรดแห่งอนาคตที่รองรับสินทรัพย์หลากหลายประเภท ไม่จำกัดแค่ Forex แต่ยังรวมถึงหุ้น, Futures และ Commodities ในแพลตฟอร์มเดียว
วัตถุประสงค์หลักของ MT5
MT5 ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์เทรดเดอร์สมัยใหม่ที่ต้องการ:
- ความหลากหลายของสินทรัพย์: เทรด Forex, หุ้น, Futures และสินค้าโภคภัณฑ์ได้ครบในที่เดียว
- เครื่องมือวิเคราะห์ที่ทันสมัย: มี Technical Indicators กว่า 80 ตัว และ Analytical Objects กว่า 40 ประเภท
- ความสะดวกในการใช้งาน: รองรับ PC, Web และ Mobile
- การพัฒนาอัตโนมัติ: ใช้ภาษา MQL5 สำหรับสร้าง EA และ Indicators
ปัจจุบัน MT5 ได้รับการยอมรับจากโบรกเกอร์ทั่วโลกกว่า 1,500 แห่ง และมีผู้ใช้งานมากกว่า 15 ล้านคน
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง MT5 กับ MT4: ควรเลือกใช้อะไร?
เทรดเดอร์หลายคนมักสงสัยว่า MT5 กับ MT4 แตกต่างกันอย่างไร และแพลตฟอร์มไหนเหมาะกับสไตล์การเทรดของตัวเอง
ฟีเจอร์ | MT4 | MT5 |
---|
ปีที่เปิดตัว | 2005 | 2010 |
---|
ประเภทตลาด | Forex และ CFDs เท่านั้น | Forex, หุ้น, Futures, Options |
---|
จำนวน Timeframes | 9 Timeframes | 21 Timeframes |
---|
Technical Indicators | 30 ตัว | มากกว่า 80 ตัว |
---|
Analytical Objects | 24 ประเภท | 44 ประเภท |
---|
ภาษาโปรแกรม | MQL4 | MQL5 (ทันสมัยกว่า) |
---|
Economic Calendar | ไม่มี | มีในตัว |
---|
Depth of Market (DOM) | ไม่มี | มี |
---|
Strategy Tester | พื้นฐาน | ขั้นสูง (Multi-currency) |
---|
Hedging | รองรับ | รองรับแบบ Netting |
---|
ข้อดีของ MT5
- ความหลากหลายของสินทรัพย์: เทรดหุ้น, ETFs, Bonds, และ Futures ได้โดยตรง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระจายพอร์ต
- เครื่องมือวิเคราะห์ครบครัน: Indicators และ Analytical Objects มากกว่า MT4 ถึงสองเท่า ช่วยให้การวิเคราะห์ทางเทคนิคแม่นยำขึ้น
- การบริหารจัดการคำสั่งที่ดีกว่า: ระบบ Order Management ทันสมัย รองรับคำสั่งซื้อขายหลากหลาย
- พัฒนาโปรแกรมอัตโนมัติได้ง่าย: MQL5 ทันสมัยและทรงพลัง ช่วยสร้าง EA และ Indicators ได้มีประสิทธิภาพ
ข้อเสียของ MT5
- ความซับซ้อน: มือใหม่อาจรู้สึกฟังก์ชันมากเกินไป ใช้งานยากกว่า MT4
- การรองรับ EA: EA ของ MT4 ไม่สามารถใช้บน MT5 ได้โดยตรง ต้องเขียนใหม่ทั้งหมด
คำแนะนำการเลือกใช้
- ควรเลือก MT5 หาก
- ต้องการเทรดสินทรัพย์อื่นนอกเหนือจาก Forex
- ชอบเครื่องมือวิเคราะห์และ Timeframes ที่หลากหลาย
- มีประสบการณ์การเทรดระดับกลางขึ้นไป หรือสนใจพัฒนา EA
- ควรเลือก MT4 หาก
- เทรดเฉพาะ Forex
- ต้องการความเรียบง่ายและใช้งานง่าย
- เป็นนักเทรดมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น
7 ฟีเจอร์เด่นของ MT5 ที่เทรดเดอร์ต้องรู้
เมื่อเข้าใจความแตกต่างแล้ว มาดูฟีเจอร์เด่นของ MT5 ที่ทำให้แพลตฟอร์มนี้เหนือกว่าคู่แข่ง
- Advanced Charting Tools: เครื่องมือสร้างกราฟที่ทันสมัยและรองรับการแสดงผลแบบ Multi-timeframe ในหน้าจอเดียว
- Technical Indicators มากกว่า 80 ตัว: มี Indicators ครอบคลุมทั้งกลุ่ม Trend, Oscillators, และ Volume ช่วยให้การวิเคราะห์ละเอียดและแม่นยำ
- Timeframes ที่หลากหลาย: มีให้เลือกถึง 21 Timeframes ตั้งแต่ M1 (1 นาที) ไปจนถึง MN1 (1 เดือน)
- Economic Calendar ในตัว: เป็นฟีเจอร์ที่ MT4 ไม่มี โดยแสดงข่าวเศรษฐกิจสำคัญแบบ Real-time พร้อมการแจ้งเตือน
- Depth of Market (DOM): แสดงข้อมูล Order Book แบบ Real-time ทำให้เห็นราคาซื้อ-ขายในระดับต่าง ๆ มีประโยชน์สำหรับเทรดเดอร์สาย Scalping
- MQL5 และ Strategy Tester: ภาษาโปรแกรมทรงพลังและเครื่องมือทดสอบกลยุทธ์ที่ล้ำสมัย สามารถทดสอบ EA แบบหลายสกุลเงินได้
- Multi-Asset Trading Support: รองรับการเทรดสินทรัพย์หลากหลาย ทั้ง Forex, หุ้น, Futures, Options และ Commodities ช่วยกระจายพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เจาะลึก: ภาษา MQL5 และ Strategy Tester ที่ทรงพลัง
สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการพัฒนาโปรแกรมเทรดอัตโนมัติ (Expert Advisors หรือ EA) และ Indicators ของตัวเอง MT5 นำเสนอภาษาโปรแกรม MQL5 ที่ทันสมัยกว่า MQL4 มาก
- ภาษา MQL5 ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการประมวลผลแบบ Multi-thread ทำให้สามารถรันโค้ดได้เร็วกว่า และรองรับการทำงานที่ซับซ้อนกว่า
- มีฟังก์ชันใหม่ ๆ ที่ช่วยให้การทดสอบและปรับแต่งกลยุทธ์ทำได้ง่ายขึ้น
ความสามารถของ Strategy Tester บน MT5
- ทดสอบกลยุทธ์แบบ Multi-currency: สามารถทดสอบกลยุทธ์ที่ใช้หลายคู่เงินพร้อมกัน
- ข้อมูลย้อนหลังที่แม่นยำสูง: จำลองการเทรดได้สมจริงกว่ารุ่นก่อน
- เพิ่มความมั่นใจ: ให้คุณตรวจสอบและปรับปรุง EA ได้ก่อนนำไปใช้จริง
MT5 ใช้ยังไง: คู่มือฉบับเต็มสำหรับมือใหม่
ขั้นตอนที่ 1: เลือกโบรกเกอร์และเปิดบัญชี
ก่อนดาวน์โหลด MT5 คุณต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่รองรับ MT5 ก่อน โบรกเกอร์คือบริษัทที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้คุณซื้อขายสินทรัพย์ในตลาดโลกได้
ตัวอย่างโบรกเกอร์ที่รองรับ MT5 ในประเทศไทย:
- Moneta Markets
- FBS
- IC Markets
หากคุณสนใจเริ่มต้นเทรด สามารถดู รีวิวโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ เพื่อประกอบการตัดสินใจได้
สิ่งที่ควรพิจารณา:
- ใบอนุญาต: เลือกโบรกเกอร์ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานทางการเงินที่น่าเชื่อถือ
- ค่าธรรมเนียม: เปรียบเทียบ Spread และ Commission
- สินทรัพย์ที่รองรับ: ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์รองรับสินทรัพย์ที่คุณต้องการเทรดหรือไม่
- การบริการ: มีฝ่ายสนับสนุนเป็นภาษาไทยหรือไม่
ขั้นตอนที่ 2: ดาวน์โหลดและติดตั้ง MT5
- สำหรับ PC (Windows/Mac): ไปที่เว็บไซต์ของ MetaQuotes หรือเว็บไซต์โบรกเกอร์ที่เลือก คลิก “ดาวน์โหลด MT5” และเลือกเวอร์ชันที่เหมาะสม
- สำหรับมือถือ (iOS/Android): เปิด App Store หรือ Google Play ค้นหา “MetaTrader 5” และดาวน์โหลด

ขั้นตอนที่ 3: เชื่อมต่อบัญชีเทรด
- เปิดโปรแกรม MT5
- ไปที่เมนู File > Login to Trade Account
- กรอกข้อมูลจากโบรกเกอร์ ได้แก่ หมายเลขบัญชี (Login), รหัสผ่าน (Password), และ เซิร์ฟเวอร์ (Server)
- คลิก OK เพื่อเข้าสู่ระบบและเริ่มเทรด

ขั้นตอนที่ 4: ทำความเข้าใจหน้าจอ (Interface)
- Market Watch: แสดงรายการและราคาสินทรัพย์
- Navigator: แสดงบัญชี, อินดิเคเตอร์, และ EA
- Chart Window: หน้าต่างหลักแสดงกราฟราคาสินทรัพย์
- Terminal: ข้อมูลบัญชี, ประวัติการเทรด, และรายการคำสั่งที่เปิดอยู่
ขั้นตอนที่ 5: ส่งคำสั่งซื้อขายแรก
- คลิกขวาที่กราฟสินทรัพย์ เลือก Trading > New Order
- ตั้งค่าคำสั่ง:
- Symbol: สินทรัพย์ที่ต้องการเทรด
- Volume: ปริมาณการเทรด (Lot Size)
- Type: เลือก Market Execution เพื่อส่งคำสั่งทันที
- Stop Loss (SL): ตั้งราคาจำกัดการขาดทุน
- Take Profit (TP): ตั้งราคาสำหรับทำกำไร
- กด Buy หรือ Sell เพื่อส่งคำสั่ง


คำแนะนำสำหรับมือใหม่
- ดาวน์โหลด MT5 และทดลองใช้ Demo Account เพื่อฝึกฝนจนคล่อง
- เลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และรองรับ MT5
- เริ่มต้นเทรดด้วยเงินจำนวนน้อยเพื่อสร้างประสบการณ์จริง
- ค่อยๆ เรียนรู้ฟีเจอร์ขั้นสูงตามความต้องการ
คำถามที่น่าสนใจ: ทำไม MT4 ยังคงได้รับความนิยม
แม้ว่า MT5 จะมีฟีเจอร์ที่เหนือกว่าในทุกด้าน แต่ MT4 ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์ทั่วโลก เนื่องจาก ความคุ้นเคยและชุมชนที่แข็งแกร่ง — MT4 อยู่ในตลาดมานานกว่าสิบปี ทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่คุ้นเคยกับหน้าตาและฟังก์ชัน อีกทั้งยังมีชุมชนออนไลน์ที่ใหญ่มาก จึงสามารถหา EA, Indicators และข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย
อีกเหตุผลหนึ่งคือ ความเรียบง่าย สำหรับผู้ที่เน้นการเทรด Forex เพียงอย่างเดียว ฟังก์ชันของ MT4 ก็มักจะเพียงพอแล้ว ในขณะที่ความหลากหลายของฟีเจอร์ใน MT5 อาจทำให้มือใหม่รู้สึกซับซ้อนเกินไป
แนวโน้มในอนาคต
โบรกเกอร์จำนวนมากเริ่มสนับสนุน MT5 มากขึ้น แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ MT4 จะยังคงอยู่ในตลาดต่อไปอีกระยะหนึ่ง การเลือกใช้แพลตฟอร์มจึงขึ้นอยู่กับความต้องการและสไตล์การเทรดของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้และปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยีใหม่อย่าง MT5 ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการเติบโตในระยะยา
สรุปบทความ MT5
หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับ MT5 มาโดยตลอด สามารถสรุปได้ว่า MetaTrader 5 เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มเทรดทั่วไป แต่เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เทรดเดอร์สมัยใหม่อย่างครบถ้วน
จุดสำคัญเกี่ยวกับ MT5 ที่คุณต้องจำ
- ความหลากหลายที่แท้จริง: MT5 ไม่ได้จำกัดแค่ตลาด Forex เท่านั้น แต่รองรับการเทรด หุ้น, Futures, Options และสินทรัพย์อื่น ๆ ได้ในแพลตฟอร์มเดียว
- เครื่องมือที่ทันสมัยกว่า: ด้วย Technical Indicators กว่า 80 ตัว, Timeframes ที่หลากหลายถึง 21 แบบ และ Economic Calendar ในตัว ทำให้การวิเคราะห์ครบครันกว่า MT4 อย่างชัดเจน
- เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า: MQL5, Strategy Tester แบบ Multi-currency, และ Depth of Market คือฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณเทรดได้อย่างมืออาชีพ
- ความเหมาะสมกับตลาดไทย: ปัจจุบันมีโบรกเกอร์ในไทยหลายรายที่เริ่มรองรับ MT5 มากขึ้น ทำให้การเข้าถึงและเทรดสินทรัพย์ไทยเป็นไปได้โดยตรง
คำแนะนำสำหรับการเริ่มต้น
สำหรับมือใหม่ที่กำลังตัดสินใจว่าจะใช้ MT5 หรือไม่ ให้พิจารณาจากความต้องการของตัวเอง หากคุณต้องการความครบครันและมองการณ์ไกลในการเทรดสินทรัพย์หลากหลาย MT5 คือตัวเลือกที่ดีกว่า
การลงทุนเวลาเพื่อเรียนรู้ MT5 ในช่วงแรกอาจดูยาก แต่เมื่อคุ้นเคยแล้ว คุณจะได้แพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้งานได้ยาวนาน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในอนาคต
- ขั้นตอนถัดไปที่แนะนำ:
- ดาวน์โหลด MT5 และทดลองใช้ Demo Account
- เลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้และรองรับ MT5
- เริ่มเทรดด้วยเงินจำนวนน้อยเพื่อฝึกประสบการณ์
- ค่อยๆ เรียนรู้ฟีเจอร์ขั้นสูงตามความต้องการ
MT5 คือการลงทุนในอนาคตของการเทรด การเข้าใจและใช้งานอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณก้าวไปสู่การเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
MT5 ฟรีหรือไม่?
ใช่ MT5 สามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับแพลตฟอร์มเอง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจะเป็น Spread และ Commission จากการเทรดผ่านโบรกเกอร์เท่านั้น
โบรกเกอร์ไหนในไทยรองรับ MT5 บ้าง?
โบรกเกอร์หลักในไทยที่รองรับ MT5 ได้แก่ Pi Securities, Infinox, FBS, FXCM, IC Markets และ Admiral Markets คุณสามารถเลือกโบรกเกอร์ตามความต้องการและสินทรัพย์ที่ต้องการเทรด
สามารถใช้ EA ของ MT4 บน MT5 ได้หรือไม่?
ไม่ได้ Expert Advisors ที่เขียนด้วย MQL4 ไม่สามารถทำงานบน MT5 ได้โดยตรง เนื่องจากใช้ภาษา MQL5 ที่แตกต่างกัน จำเป็นต้องเขียน EA ใหม่หรือแปลงจาก MQL4 เป็น MQL5
MT5 ใช้ยังไง สำหรับมือใหม่?
สำหรับมือใหม่ แนะนำให้เริ่มจาก Demo Account ก่อน เรียนรู้การใช้งาน Interface พื้นฐาน ทดลองส่งคำสั่งซื้อขาย และศึกษาการใช้ Technical Indicators เมื่อคุ้นเคยแล้วจึงค่อยเปลี่ยนไปใช้ Live Account
ข้อดีของ MT5 เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น?
MT5 มีข้อดี คือ รองรับสินทรัพย์หลากหลาย มี Technical Indicators มากกว่า 80 ตัว, Economic Calendar ในตัว, Depth of Market, และ Strategy Tester ที่ทันสมัย ทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่ครบครันที่สุดสำหรับเทรดเดอร์ทุกระดับ