หากเป็นนักเทรด Forex มือใหม่ คุณอาจเคยสงสัยว่า swap คืออะไร เมื่อเห็นตัวเลขบวกหรือลบปรากฏในบัญชีเทรดหลังจากถือ position ข้ามคืน วันนี้เราจะมาอธิบายเรื่อง swap ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงการประยุกต์ใช้จริง เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถวางแผนการเทรดได้ดีขึ้น
ก่อนที่จะเจาะลึกเรื่องเทคนิค เราจะเริ่มจากการอธิบายง่ายๆ ว่า swap ใน Forex นั้นคล้ายกับดอกเบี้ยที่เราได้รับหรือต้องจ่ายเมื่อยืมเงินจากธนาคาร เมื่อคุณถือสกุลเงินหนึ่งและขายสกุลเงินอีกตัวหนึ่ง คุณก็เสมือนกำลัง “ยืม” สกุลเงินตัวหนึ่งมาแลกกับการ “ให้ยืม” อีกสกุลหนึ่ง

ทำความเข้าใจ Swap ในการเทรด Forex อย่างง่ายที่สุด

Swap ในตลาด Forex หมายถึงค่าดอกเบี้ยที่เทรดเดอร์จะได้รับหรือต้องจ่ายเมื่อถือ position ข้ามคืน หรือที่เรียกว่า rollover การถือครองข้ามคืนนี้เกิดขึ้นเมื่อคุณไม่ปิด position ก่อนเวลา 5 โมงเย็นตามเวลา New York ซึ่งเป็นเวลาที่ตลาด Forex จะทำการ settle รายการของวันนั้น
ลองคิดภาพง่ายๆ เมื่อคุณเปิด position EUR/USD แบบ long คุณกำลัง “ซื้อ” EUR ด้วย USD นั่นหมายความว่าคุณกำลังยืม USD มาซื้อ EUR เมื่อถึงเวลา rollover ระบบจะคำนวณดอกเบี้ยจากการยืม USD และดอกเบี้ยที่ได้จากการถือ EUR
การแบ่งประเภทของ ค่า swap มีสองแบบหลักๆ คือ positive swap และ negative swap โดย positive swap เป็นเงินที่คุณจะได้รับเข้าบัญชี ส่วน negative swap คือเงินที่จะถูกหักออกจากบัญชีของคุณ
สิ่งที่น่าสนใจคือ swap rate จะแตกต่างกันไปตามคู่สกุลเงินที่คุณเทรด เพราะแต่ละประเทศจะมี อัตราดอกเบี้ย ที่กำหนดโดยธนาคารกลางที่แตกต่างกัน ประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าจะให้ swap rate ที่ดีกว่าเมื่อคุณถือสกุลเงินของประเทศนั้น
วิธีคำนวณค่า Swap ที่เทรดเดอร์ต้องเข้าใจ

การคำนวณ ค่า swap อาจดูซับซ้อนในตอนแรก แต่จริงๆ แล้วมีสูตรพื้นฐานที่เข้าใจได้ไม่ยาก โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการคำนวณมีดังนี้:
- อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง – เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่กำหนดทิศทางของ swap rate
- ขนาด Position – ยิ่ง lot size ใหญ่ ค่า swap ที่คิดก็จะมากขึ้นตามสัดส่วน
- ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ – แต่ละโบรกเกอร์มีอัตราการเก็บค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน
- ระยะเวลาการถือ Position – swap จะถูกคิดทุกคืนที่ถือ position ข้ามเวลา rollover
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน เช่น การปรับขึ้นหรือลดดอกเบี้ย จะส่งผลโดยตรงต่อค่า swap ที่เทรดเดอร์ได้รับหรือต้องจ่าย
สูตรพื้นฐานในการคำนวณ swap สามารถเขียนได้ดังนี้
สูตรพื้นฐาน (สำหรับผู้เริ่มต้น):
Swap = (ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย – ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์) × ขนาด Position
สูตรที่ละเอียดกว่า (สำหรับการคำนวณที่แม่นยำ):
Swap = (ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย – ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์) × ขนาด Position × อัตราแลกเปลี่ยน
เหตุผลที่มีการเพิ่ม “อัตราแลกเปลี่ยน” ในสูตรที่สอง: การคูณด้วยอัตราแลกเปลี่ยนจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำกว่า โดยเฉพาะเมื่อคำนวณกับคู่สกุลเงินที่ไม่ใช่ USD
ในทางปฏิบัติ แพลตฟอร์มเทรดจะคำนวณให้อัตโนมัติ แต่การเข้าใจหลักการจะช่วยให้คุณวางแผนการเทรดได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อคิดจะถือ position ระยะยาว
ตัวอย่างการคำนวณค่า Swap แบบเข้าใจง่าย
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น เรามาดูตัวอย่างการคำนวณ ค่า swap กับสถานการณ์จริงในตลาด Forex
คู่สกุลเงิน | Position | อัตราดอกเบี้ยฐาน | อัตราดอกเบี้ยเคาน์เตอร์ | Swap Rate (Long) | Swap Rate (Short) |
---|
EUR/USD | Long EUR | 4.25% | 5.50% | -1.25 points | +0.75 points |
---|
GBP/JPY | Long GBP | 5.25% | 0.10% | +5.15 points | -5.35 points |
---|
AUD/CAD | Long AUD | 4.35% | 5.00% | -0.65 points | +0.45 points |
---|
ในการคำนวณค่า swap คุณต้องเข้าใจวิธีคำนวณขนาด Lot และ Pip value ก่อน สามารถอ่านต่อที่ [1 pip เท่ากับกี่จุด? คู่มือเทรดครบครัน 2025]
จากตารางข้างต้น เราจะเห็นว่าเมื่อเปิด position EUR/USD แบบ long (ซื้อ EUR ขาย USD) เราจะต้องจ่าย swap เป็นจำนวน 1.25 points ต่อ 1 lot ต่อคืน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของ EUR (4.25%) ต่ำกว่า USD (5.50%)
ในทางตรงกันข้าม หากเปิด position GBP/JPY แบบ long เราจะได้รับ swap 5.15 points ต่อ 1 lot ต่อคืน เพราะอัตราดอกเบี้ยของ GBP (5.25%) สูงกว่า JPY (0.10%) อย่างมาก
การเข้าใจตัวเลขเหล่านี้จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเลือกคู่สกุลเงินและทิศทางการเทรดที่เหมาะสม โดยเฉพาะสำหรับ swing trading หรือ position trading ที่ต้องถือ position นานกว่า 1 วัน
สำหรับการคำนวณเป็นจำนวนเงินจริง หากคุณถือ EUR/USD long 1 lot เป็นเวลา 10 วัน ด้วย swap rate -1.25 points คุณจะเสียค่า swap ประมาณ 125 USD (1.25 × 10 × 10 USD per point)
เทคนิคการดูค่า Swap บนแพลตฟอร์ม MT4/MT5

หนึ่งในคำถามที่เทรดเดอร์มือใหม่มักสงสัยคือ ดูค่า swap ตรงไหน บนแพลตฟอร์มเทรด การรู้วิธีเช็คข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณวางแผนการเทรดได้ดีขึ้น
สำหรับผู้ใช้ MT4 สามารถดูค่า swap ได้ดังนี้ เริ่มจากการคลิกขวาที่คู่สกุลเงินใน Market Watch แล้วเลือก Specification หรือ Properties จะปรากฏหน้าต่างที่แสดงรายละเอียดของเครื่องมือการเทรด ในส่วน Swap จะมีข้อมูล “Swap long” และ “Swap short” ที่บอกค่า swap สำหรับการถือ position แต่ละทิศทаง
บน MT5 กระบวนการคล้ายกัน แต่จะมีข้อมูลที่ละเอียดกว่า โดยจะแสดงทั้งค่า swap แบบ points และเปอร์เซ็นต์ต่อปี รวมถึงข้อมูลเวลาที่ใช้ในการคำนวณ
วิธีการอ่านตัวเลข swap ที่ถูกต้องคือ หากเห็นค่าเป็นบวก (+) แสดงว่าคุณจะได้รับเงินเข้าบัญชี ส่วนค่าเป็นลบ (-) หมายถึงเงินจะถูกหักออกจากบัญชี ตัวเลขจะแสดงเป็นหน่วย points ซึ่งต้องแปลงเป็นจำนวนเงินตามขนาด lot ที่เทรด
สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ ค่า swap จะถูกคิดในเวลา 00:00 ตามเวลาเซิร์ฟเวอร์ของโบรกเกอร์ และในวันพุธจะมีการคิด swap เป็น 3 เท่า เพื่อชดเชยวันหยุดสุดสัปดาห์
กลยุทธ์การใช้ประโยชน์จาก Swap ในการเทรด
การเข้าใจเรื่อง swap forex คืออะไร ไม่ได้จบแค่การรู้คำจำกัดความ แต่สามารถนำมาประยุกต์เป็นกลยุทธ์การเทรดได้อีกด้วย เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มักใช้ swap เป็นปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจเทรด
Carry Trade เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ใช้ประโยชน์จาก positive swap โดยการถือสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงและขายสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ เช่น การถือ AUD/JPY long เพื่อรับ swap rate ที่ดี ขณะเดียวกันก็หวังผลกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา
กลยุทธ์การใช้ประโยชน์จาก swap มีหลายรูปแบบ:
- Short-term Swing Trading – ใช้ positive swap เป็นรายได้เสริมขณะรอให้ราคาเคลื่อนไหวตามทิศทางที่คาดการณ์
- Position Trading – ถือ position นานหลายสัปดาห์หรือเดือนเพื่อสะสม swap และรอความเคลื่อนไหวใหญ่ของตลาด
- Hedging Strategy – ใช้ positive swap ชดเชยความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนอื่นๆ
- Arbitrage Trading – หาโอกาสจากความแตกต่างของ swap rate ระหว่างโบรกเกอร์ต่างๆ
อย่างไรก็ตาม การ carry trade มีความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา เพราะหากราคาเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้าม ผลขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงราคาอาจมากกว่าผลกำไรจาก swap ที่ได้รับ
สำหรับ swing traders และ position traders การคำนึงถึงค่า swap เป็นสิ่งจำเป็น เพราะการถือ position หลายวันหรือหลายสัปดาห์ ค่า swap ที่สะสมจะส่งผลต่อผลกำไรขาดทุนโดยรวมได้อย่างมีนัยสำคัญ
การเลือกโบรกเกอร์ที่มีเงื่อนไข swap ที่ดีก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ โบรกเกอร์บางรายเสนอ บัญชี swap free หรือ Islamic account ที่ไม่คิดค่า swap เพื่อปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลาม ซึ่งอาจเหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายจาก rollover
Swap ไม่ได้มีแค่ใน Forex: รู้จักประเภทอื่นในตลาดการเงิน
แม้ว่าเราจะมุ่งเน้นไปที่ swap ใน forex แต่ในโลกการเงินมี swap ประเภทอื่นๆ ที่น่าสนใจและมีความสำคัญไม่แพ้กัน การรู้จักสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เข้าใจตลาดการเงินได้รอบด้านมากขึ้น
Interest Rate Swap (IRS) เป็นสัญญาแลกเปลี่ยนกระแสเงินดอกเบี้ยระหว่างสองฝ่าย โดยทั่วไปจะเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างอัตราดอกเบี้ยคงที่และอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เป็นเครื่องมือที่ธนาคารและสถาบันการเงินใช้บริหารความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย
Currency Swap หรือการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน เป็นการแลกเปลี่ยนเงินต้นและดอกเบี้ยในสกุลเงินหนึ่งกับเงินต้นและดอกเบี้ยในอีกสกุลเงินหนึ่ง มักใช้โดยบริษัทข้ามชาติเพื่อบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
Credit Default Swap (CDS) เป็นตราสารอนุพันธ์ที่ให้การป้องกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ ผู้ซื้อ CDS จะจ่ายเบี้ยประกันเป็นงวดๆ และจะได้รับการชดเชยหากหนี้ที่อ้างอิงผิดนัดชำระ
Commodity Swap เป็นการแลกเปลี่ยนกระแสเงินที่เกี่ยวข้องกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน ทอง หรือสินค้าเกษตร ช่วยให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาสินค้า
การเข้าใจ swap ในรูปแบบต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้เทรดเดอร์เห็นภาพใหญ่ของตลาดการเงินและสามารถค้นหาโอกาสในการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ ได้
ข้อควรระวังและความเสี่ยงจากการเทรดที่เกี่ยวข้องกับ Swap
การเทรดที่คำนึงถึง ค่า swap ต้องมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม เพราะแม้จะดูเป็นรายได้เสริมที่น่าสนใจ แต่ก็มีข้อจำกัดและความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา
- ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน – เมื่อธนาคารกลางปรับอัตราดอกเบี้ย swap rate ที่เคยเป็น positive อาจกลายเป็น negative ได้
- ความผันผวนของตลาด – แม้จะได้ positive swap แต่หากราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามอย่างรุนแรง ผลขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงราคาอาจมากกว่าผลกำไรจาก swap หลายเท่า
- ความเสี่ยงจากการเลือกโบรกเกอร์ – แต่ละโบรกเกอร์มีนโยบาย swap ที่แตกต่างกัน บางรายอาจมีค่าธรรมเนียมสูง หรือมีเงื่อนไขที่ซับซ้อน
- ความเสี่ยงจากการใช้ Leverage สูงเกินไป – การใช้ leverage สูงเพียงเพื่อเพิ่มผลกำไรจาก swap อาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้หากตลาดเคลื่อนไหวไม่เป็นไปตามคาดการณ์
เทรดเดอร์ควรมี money management ที่ดี ไม่ใช้ leverage สูงเกินไปเพียงเพื่อเพิ่มผลกำไรจาก swap เพราะความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วน และอาจทำให้สูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้หากตลาดเคลื่อนไหวไม่เป็นไปตามคาดการณ์
เปรียบเทียบ Swap Rate ของคู่สกุลเงินยอดนิยม
ประเภทคู่สกุลเงิน | ตัวอย่าง | ลักษณะ Swap | ความเหมาะสมสำหรับ Carry Trade |
---|
Major Pairs | EUR/USD, GBP/USD | Swap rate ปานกลาง | เหมาะสำหรับมือใหม่ |
---|
Cross Pairs | EUR/GBP, AUD/CAD | Swap rate หลากหลาย | ต้องศึกษาเพิ่มเติม |
---|
Exotic Pairs | USD/TRY, EUR/ZAR | Swap rate สูงแต่เสี่ยง | เหมาะสำหรับผู้เชี่ยวชาญ |
---|
JPY Pairs | AUD/JPY, NZD/JPY | มักให้ positive swap | ได้รับความนิยมใน carry trade |
---|
การเลือกคู่สกุลเงินที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และประสบการณ์ในการเทรดของแต่ละบุคคล
เทรนด์และการเปลี่ยนแปลงของ Swap ในอนาคต
ตลาด Forex และระบบ swap กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงหลายประการที่เทรดเดอร์ควรติดตาม การเข้าใจเทรนด์เหล่านี้จะช่วยให้สามารถปรับกลยุทธ์การเทรดได้ทันท่วงที
การปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของธนาคารกลางในยุคหลัง COVID-19 ส่งผลต่อ swap rate อย่างมีนัยสำคัญ การที่หลายประเทศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ช่วงต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป
เทคโนโลยี blockchain และ digital currency ก็เริ่มส่งผลต่อตลาด Forex โบรกเกอร์หลายรายเริ่มนำเสนอการเทรด cryptocurrency pairs ที่มีลักษณะ swap แตกต่างจากสกุลเงินดั้งเดิม
การเพิ่มขึ้นของ บัญชี swap free หรือ Islamic account ก็เป็นอีกเทรนด์หนึ่ง โบรกเกอร์พยายามตอบสนองความต้องการของเทรดเดอร์ที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงความโปร่งใสในการคำนวณ swap rate
ระบบ AI และ algorithmic trading ก็เริ่มนำ swap เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ ทำให้การคาดการณ์และการใช้ประโยชน์จาก swap มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เคล็ดลับสำหรับมือใหม่ในการจัดการ Swap

สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ที่ต้องการเริ่มเรียนรู้การใช้ swap ในการเทรด มีเคล็ดลับหลายประการที่จะช่วยให้เริ่มต้นได้อย่างปลอดภัย
เริ่มต้นด้วยการศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุนจริง ใช้ demo account ในการทดลองเทรดและสังเกตการเปลี่ยนแปลงของ swap ในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งก่อนใช้เงินจริง
จดบันทึกการเทรดทุกครั้ง รวมถึงข้อมูล swap ที่ได้รับหรือจ่ายไป เพื่อวิเคราะห์ว่าปัจจัยไหนส่งผลต่อผลกำไรขาดทุนและปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดในอนาคต
เลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและมีข้อมูล swap ที่โปร่งใส สามารถเปรียบเทียบเงื่อนไข swap rate ระหว่างโบรกเกอร์หลายรายก่อนตัดสินใจ
เริ่มต้นด้วยคู่สกุลเงินหลักที่มีสภาพคล่องสูง เช่น EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY เพราะมีความเสี่ยงต่ำกว่าและข้อมูลครบถ้วนกว่าคู่สกุลเงิน exotic
ไม่ควรให้ swap เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเทรด แต่ใช้เป็นข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ร่วมกับเทคนิคอื่นๆ เช่น technical analysis และ fundamental analysis
เคล็ดลับสำคัญสำหรับการจัดการ swap อย่างมีประสิทธิภาพ:
- ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน – กำหนดว่าต้องการใช้ swap เป็นรายได้หลักหรือเสริม
- ติดตามข่าวการเงิน – ข่าวการปรับอัตราดอกเบี้ยส่งผลต่อ swap rate โดยตรง
- ใช้ Risk Management – ตั้ง stop loss และไม่ลงทุนเกินความสามารถ
- ทดลองก่อนลงทุนจริง – ใช้ demo account เพื่อทำความเข้าใจก่อน
การพิจารณาตารางเปรียบเทียบ Swap Rate ของ Major vs Minor Pairs:
ประเภท | ความผันผวน | Swap Rate | ความเหมาะสม |
---|
Major Pairs | ต่ำ-ปานกลาง | มีเสถียรภาพ | เหมาะกับมือใหม่ |
---|
Minor Pairs | ปานกลาง-สูง | หลากหลายขึ้น | ต้องมีประสบการณ์ |
---|
สรุปสำคัญเกี่ยวกับ Swap ใน Forex
การเข้าใจ swap คืออะไร เป็นพื้นฐานสำคัญที่เทรดเดอร์ทุกคนควรมี ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ เพราะค่า swap นี้ส่งผลต่อผลกำไรขาดทุนของการเทรดโดยตรง โดยเฉพาะเมื่อถือ position ข้ามคืนหรือระยะยาว
จุดสำคัญที่ต้องจำไว้คือ swap เกิดจากส่วนต่างของ อัตราดอกเบี้ย ระหว่างสองสกุลเงินในคู่ที่เทรด เมื่อถือสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า จะได้รับ positive swap ในทางกลับกัน หากถือสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า จะต้องจ่าย negative swap
การประยุกต์ใช้ความรู้เรื่อง swap ในการเทรดสามารถทำได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่การเลือกคู่สกุลเงินที่เหมาะสม การวางแผน carry trade ไปจนถึงการคำนวณต้นทุนการถือ position ระยะยาว แต่ต้องระวังไม่ให้ swap กลายเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเทรด เพราะความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงราคาอาจมากกว่าผลกำไรจาก swap ได้
สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ ควรเริ่มต้นด้วยการศึกษาและทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนก่อน รวมถึงการเลือกโบรกเกอร์ที่มีเงื่อนไข swap ที่เหมาะสมและโปร่งใส การจัดการความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จาก swap ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Swap
Swap คิดยังไงและเมื่อไหร่จึงจะถูกคิดค่า
Swap จะถูกคิดทุกวันเมื่อเวลา 00:00 ตามเวลาเซิร์ฟเวอร์ของโบรกเกอร์ หากคุณถือ position ข้ามเวลานี้ ระบบจะคำนวณและหักหรือเพิ่มเงินเข้าบัญชีอัตโนมัติ สำหรับวันพุธจะมีการคิด swap เป็น 3 เท่าเพื่อชดเชยวันหยุดสุดสัปดาห์
ทำไมค่า Swap ของแต่ละโบรกเกอร์ถึงไม่เหมือนกัน
แต่ละโบรกเกอร์มีนโยบายการคิดค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน รวมถึงแหล่งที่มาของอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงและระบบการคำนวณที่อาจมีความแตกต่าง บางโบรกเกอร์อาจมีการเพิ่มค่าธรรมเนียมมากกว่า หรือใช้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเปรียบเทียบเงื่อนไข swap จึงเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกโบรกเกอร์
สามารถหลีกเลี่ยงการจ่ายค่า Swap ได้หรือไม่
ได้ โดยการเปิดบัญชี Swap Free หรือ Islamic Account ที่หลายโบรกเกอร์เสนอให้ บัญชีประเภทนี้จะไม่คิดค่า swap แต่อาจมีเงื่อนไขอื่นๆ เช่น spread ที่กว้างกว่า หรือข้อจำกัดในการเทรดบางรูปแบบ นอกจากนี้การปิด position ก่อนเวลา rollover ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการหลีกเลี่ยงค่า swap
การถือ position หลายวันจะส่งผลต่อกำไรมากแค่ไหน
ผลกระทบจะขึ้นอยู่กับขนาดของ position และค่า swap rate ของคู่สกุลเงินที่เทรด สำหรับ position ขนาดใหญ่และคู่สกุลเงินที่มี swap rate สูง การสะสมค่า swap หลายวันอาจส่งผลต่อผลกำไรขาดทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นเทรดเดอร์ควรคำนวณค่า swap ล่วงหน้าก่อนวางแผนถือ position ระยะยาว
Positive Swap กับ Negative Swap แตกต่างกันอย่างไร
Positive Swap คือเงินที่เทรดเดอร์จะได้รับเข้าบัญชีเมื่อถือ position ข้ามคืน เกิดขึ้นเมื่อสกุลเงินที่ซื้อมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าสกุลเงินที่ขาย ส่วน Negative Swap คือเงินที่จะถูกหักออกจากบัญชี เกิดขึ้นเมื่อสกุลเงินที่ซื้อมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าสกุลเงินที่ขาย การเข้าใจสองแนวคิดนี้จะช่วยในการวางแผนการเทรดที่เหมาะสม