ในยุคที่คนจำนวนมากกำลังมองหาช่องทางทำเงินเสริม การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงในเวลาอันสั้นจึงกลายเป็นสิ่งที่ดูน่าสนใจเกินกว่าจะปฏิเสธ แต่ภายใต้โอกาสเหล่านั้น กลโกงที่แฝงตัวอย่างแนบเนียนอย่าง “แชร์ลูกโซ่” ก็กำลังรออยู่ กลโกงรูปแบบนี้ไม่เพียงทำลายเงินออม แต่ยังสั่นคลอนความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจของครอบครัวและสังคมมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน โดยอาศัยความหวังและความไม่รู้เป็นช่องโหว่หลัก
หลายคนอาจคิดว่า ฉันรู้ทัน ฉันไม่ใช่เหยื่อง่าย แต่รู้หรือไม่ว่า กลโกงแชร์ลูกโซ่ในปัจจุบันไม่ได้หน้าตาแบบเดิม ๆ อีกต่อไป มันพัฒนาตัวเองกลายเป็น “การลงทุนยุคใหม่” ที่แฝงอยู่ในรูปแบบของสกุลเงินดิจิทัล เกมออนไลน์ การเทรด Forex หรือแม้แต่ระบบออมเงินผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้การแยกแยะระหว่างโอกาสที่แท้จริงกับกับดักทางการเงินกลายเป็นเรื่องยากขึ้นกว่าเดิม
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า แชร์ลูกโซ่ คืออะไร มีลักษณะเด่นอย่างไร และวิธีสังเกตสัญญาณเตือน 7 ประการที่บ่งบอกถึงอันตราย ก่อนจะสายเกินไป พร้อมเปรียบเทียบจุดต่างระหว่างแชร์ลูกโซ่กับธุรกิจขายตรงที่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงบทลงโทษทางกฎหมายและขั้นตอนที่ควรทำหากตกเป็นเหยื่อ เพื่อให้คุณและคนรอบข้างอยู่รอดปลอดภัยจากการถูกหลอกลวง

แชร์ลูกโซ่ คืออะไร? เข้าใจในไม่ถึง 2 นาที
คำจำกัดความที่เข้าใจง่ายที่สุดคือ “แชร์ลูกโซ่ คือ การนำเงินของคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ มาจ่ายให้กับคนที่อยู่ก่อน แล้วเรียงต่อเป็นทอด ๆ จนดูเหมือนเป็นผลกำไร ทั้งที่จริง ๆ แล้วไม่มีกิจกรรมทางธุรกิจใด ๆ ที่สร้างรายได้ที่แท้จริง”
กลไกของมันเริ่มต้นเมื่อคนกลุ่มแรกได้กำไรตามที่สัญญาไว้ ระบบจึงดูน่าเชื่อถือ พวกเขาเริ่มบอกต่อ ชักชวนคนรู้จัก ครอบครัว เพื่อนฝูงให้เข้ามาร่วม ทำให้มีกระแสเงินสดใหม่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่หลายคนไม่ทันตั้งใจคือ วงจรนี้ไม่ยั่งยืน เพราะจะต้องพึ่ง “สมาชิกใหม่” เข้ามาเรื่อย ๆ ไม่สิ้นสุด เมื่อใดก็ตามที่ไม่มีคนใหม่หรือการเติบโตของระบบช้าลง ระบบก็จะล้มทันที
นี่เป็นเหตุผลที่คนที่เข้าร่วมในช่วงปลายมักจะ “ขาดทุนยับเยิน” เพราะเงินที่พวกเขาลงทุนไป ถูกใช้ไปหมดแล้วเพื่อจ่ายสัญญาผลตอบแทนของคนก่อนหน้า ไม่เหลืออะไรให้ถอนคืน

เช็คลิสต์ 7 ข้อ: รู้ทันสัญญาณอันตรายของแชร์ลูกโซ่
ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน ก็สามารถป้องกันตนเองได้ เพียงแค่สังเกตให้ดี หากการลงทุนใด ๆ มีลักษณะตรงกับข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ ควรตั้งสติและระมัดระวังทันที
- ให้ผลตอบแทนสูงผิดปรกติ: ถ้าใครเสนอว่า “ลงทุน 10,000 บาท รับผลตอบแทน 1,000 บาทต่อเดือน” หรือ “ได้รับ 120% ต่อปี” โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม นั่นคือธงเตือนแรก เพราะแม้แต่หุ้นที่ดีที่สุดในโลกก็ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเพียง 7–10% ต่อปี
- เคลมว่า “ไม่มีความเสี่ยง”: ไม่มีการลงทุนใดในโลกที่ไม่มีความเสี่ยง หากบอกว่า “ลงทุนแล้วคืนทุนแน่นอน” หรือ “ไม่ขาดทุนเด็ดขาด” มันขัดกับหลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐาน
- เน้นการแนะนำคนมากกว่าขายของ: รายได้มาจากการชวนใครให้มาสมัครต่อ มากกว่าการขายสินค้าที่มีคุณภาพ เป้าหมายคือ “จำนวนคน” ไม่ใช่ “ยอดขาย”
- แผนธุรกิจซับซ้อน วุ่นวาย หรืออธิบายไม่ได้: เมื่อถามว่า “กินจากอะไร” แล้วได้คำตอบว่า “มีเทคโนโลยีดูแลผลตอบแทนเอง” หรือ “เป็นกลยุทธ์ลับ” โดยไม่มีชีต้าสินค้า ไม่มีหนังสือชี้ชวน ไม่มีแผนการลงทุนชัดเจน นั่นคือสัญญาณอันตราย
- เร่งให้ตัดสินใจเดี๋ยวนี้: ใช้เทคนิคทางจิตวิทยา เช่น “เหลือโควตายูนี่!” หรือ “โปรโมชั่นวันนี้เพียงวันเดียว!” เพื่อไม่ให้คุณมีเวลาคิดหรือตรวจสอบข้อมูล
- ไม่มีสินค้าหรือบริการที่ชัดเจน: ถ้ามีสินค้าจริง ควรซื้อได้จากนอกเครือข่าย อ้างว่า “สมัครเพื่อลงทุน ไม่ใช่ขายของ” หรือ “ออมเงินแล้วได้ของแถม” เป็นกลวิธีปิดบังกลโกง
- จ่ายเงินตรงเวลาในช่วงแรก: หลายรายจ่ายจริงในเดือนแรกหรือสองเดือนเพื่อสร้างความเชื่อมั่น เป็น “เหยื่อล่อ” ที่ทำให้นักลงทุนตายใจ และลงทุนเพิ่ม หรือชวนคนอื่นเข้ามา

แชร์ลูกโซ่ กับ ขายตรง (MLM) ต่างกันอย่างไร? อย่าสับสน
หลายคนมักสับสนว่า ขายตรงหรือธุรกิจเครือข่าย (Multi-Level Marketing หรือ MLM) คือแชร์ลูกโซ่ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เสมอไป เพราะสิ่งสำคัญที่ต่างกันคือ “ที่มาของรายได้” และ “ผลิตภัณฑ์ที่แท้จริง”
| ประเด็นเปรียบเทียบ | แชร์ลูกโซ่ (Ponzi Scheme) | ขายตรงที่ถูกกฎหมาย (MLM) |
|---|
| ที่มาของรายได้ | จากเงินลงทุนของสมาชิกใหม่ | จากการขายสินค้าให้ผู้บริโภคภายนอก |
| สินค้า | ไม่จับต้องได้ หรือราคาเกินจริง | มีสินค้าจับต้องได้ ขายจริงในตลาด |
| กลไกหลัก | ระดมทุน จ่ายดอกเบี้ย | ขายของ สร้างเครือข่ายลูกค้า |
| สถานะกฎหมาย | ผิดกฎหมาย | ต้องจดทะเบียนกับ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) |
ข้อสังเกตสำคัญ: ถ้ารายได้ของคุณมาจาก “จำนวนคนที่คุณพาเข้ามามากกว่าการที่คนพวกนั้นขายของได้จริง” มีโอกาสสูงที่รูปแบบธุรกิจนั้นจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ แม้จะอ้างว่าเป็น MLM ก็ตาม

แชร์ลูกโซ่ยุคใหม่: รูปแบบที่แปรเปลี่ยน หน้าตาที่เหมือนจริง
แชร์ลูกโซ่ในปัจจุบันมีการปรับตัวเพื่อหลอกคนรุ่นใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีและคำอธิบายที่ดูทันสมัย ทำให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น นี่คือกลโกงที่พบบ่อยที่คุณควรระวัง
- คริปโตแชร์: ชวนลงทุนใน “เหรียญใหม่” ที่อ้างว่าจะเป็น “Bitcoin ฉบับใหม่” ให้ผลตอบแทน 100 เท่าในไม่กี่เดือน แต่ไม่มี Whitepaper ไม่มีทีมงานชัดเจน ไม่มีเว็บไซต์โปร่งใส และสุดท้ายเหรียญก็หายไปพร้อมกับเงิน
- วงแชร์ออนไลน์: จัดวงแชร์ผ่าน Facebook, LINE หรือกลุ่ม Telegram โดยตั้งเป้าออมเงินเดือนละ 5,000 แล้วให้ผลตอบแทน 2% ต่อเดือน แต่ในทางกฎหมาย การรับฝากเงินโดยมิใช่สถาบันการเงินถือเป็นการผิดกฎหมาย หาก “เจ้ามือ” เชิดเงินหนี ก็ยากจะติดตามคืน
- แชร์ Forex หรือ AI ลวงตา: อ้างว่ามี “ปัญญาประดิษฐ์” หรือ “โหมดอัตโนมัติ” ที่จะเทรดแทนคุณ รับประกันกำไร อย่างไรก็ตาม ไม่เคยเห็น statement การเทรด ไม่มีบัญชีที่ตรวจสอบได้ และทุกอย่างมีแต่ภาพจำลอง ซึ่งสุดท้ายก็คือการนำเงินคนใหม่มาจ่ายคนเก่า

โทษของแชร์ลูกโซ่ในไทย รุนแรงแค่ไหน?
ไทยมีกฎหมายที่รัดกุมและเข้มงวดต่ออาชญากรรมทางการเงิน แชร์ลูกโซ่จัดเป็นความผิดอาญาภายใต้ พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ซึ่งกำหนดบทลงโทษอย่างรุนแรงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ
ผู้กระทำผิดสามารถถูกจำคุกตั้งแต่ 5 ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 500,000 ถึง 1,000,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีบทลงโทษเพิ่มเติมคือ “ปรับรายวัน” วันละไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืน ซึ่งเป็นการลงโทษที่มีลักษณะ “ลงไม่สิ้น” เพื่อให้สอดคล้องกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น
กฎหมายฉบับนี้ถูกใช้ไปแล้วกับคดีดัง ๆ หลายคนที่เคยอ้างว่า “เป็นแผนการลงทุน” แต่สุดท้ายถูกศาลตัดสินว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ ต้องได้รับโทษตามกฏหมายอย่างหนัก
ถ้าคุณหรือคนรู้จักถูกหลอก ควรทำอย่างไร?
แม้จะตัดสินใจผิดไปแล้ว แต่ยังมีทางออก หากคุณสังเกตเห็นว่ากำลังตกเป็นเหยื่อ สิ่งแรกที่ควรทำคือตั้งสติ และดำเนินการดังนี้ทันที
- เก็บหลักฐานให้ครบ: ทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง — ภาพหน้าจอแชท, เอกสารสัญญา, สลิปโอนเงิน, โฆษณา, รายการรายได้ — เป็นสิ่งสำคัญในการร้องเรียน
- ไปแจ้งความทันที: เดินทางไปที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือสามารถร้องทุกข์โดยตรงกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งมีทีมเฉพาะกิจดูแลคดีฉ้อโกงขนาดใหญ่ที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก
- แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง: ถ้าการหลอกลวงอ้างถึง “หุ้น”, “กองทุน”, หรือ “คริปโต” ควรแจ้ง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ผ่านศูนย์ Scam Alert เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้มีผู้เสียหายเพิ่มเติม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ แชร์ลูกโซ่ (FAQ)
แชร์ลูกโซ่กับธุรกิจขายตรง (MLM) ต่างกันอย่างไร?
จุดแตกต่างสำคัญคือที่มาของรายได้ ธุรกิจขายตรงที่ถูกกฎหมายมีรายได้หลักจากการ “ขายสินค้าจริง” ให้ลูกค้าภายนอก ส่วนแชร์ลูกโซ่เน้น “ระดมทุนจากสมาชิกใหม่” โดยไม่มีสินค้า/บริการที่มีมูลค่ารองรับ
แชร์ลูกโซ่มีโทษตามกฎหมายกี่ปี?
ผู้กระทำผิดตาม พ.ร.ก. การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯ มีโทษจำคุก 5–10 ปี และปรับ 500,000–1,000,000 บาท พร้อมปรับรายวันไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืน
การกระทำแบบไหนเข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่และผิดกฎหมาย?
การชักชวนให้ลงทุนโดยสัญญาผลตอบแทนสูงเกินจริง โดยไม่นำเงินไปประกอบกิจการจริง แต่ใช้เงินสมาชิกใหม่มาจ่ายให้สมาชิกเก่า ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
ธุรกิจแบบ MLM ผิดกฎหมายหรือไม่?
ไม่ผิด หากเน้นการขายสินค้าที่มีคุณภาพจริง และจดทะเบียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง แต่ถ้าโครงสร้างรายได้พึ่งพาการชักชวนคนเข้าระบบมากกว่าการขายสินค้า ก็เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่
หากตกเป็นเหยื่อของแชร์ลูกโซ่ควรแจ้งความที่ไหน?
แจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือยื่นเรื่องกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และติดต่อหน่วยงานกำกับ เช่น ก.ล.ต. ผ่านช่องทางร้องเรียน/สายด่วน