ภาพรวมโบรกเกอร์
รายการ | รายละเอียด |
ก่อตั้ง | 2008 |
สำนักงานใหญ่ | เซเชลส์ |
ใบอนุญาต | FCA (อังกฤษ), CySEC (ไซปรัส), FSCA (แอฟริกาใต้), FSA (เซเชลส์) |
ฝากขั้นต่ำ | 10 ดอลลาร์ |
ถอนขั้นต่ำ | 3 ดอลลาร์ |
แพลตฟอร์ม | MT4, MT5, Exness Terminal, Exness Trade App |
เลเวอเรจสูงสุด | ไม่จำกัด (ในบัญชีที่ผ่านเงื่อนไข) |
รองรับภาษา | 14 ภาษา รวมถึงภาษาไทย |
รองรับลูกค้าไทย | ใช่ |
เปิดให้บริการ | 190 ประเทศ เช่น ไทย, ฮ่องกง, สิงคโปร์ |
ประวัติเบื้องต้น
Exness ได้รับการก่อตั้งเมื่อปี 2008 โดย Pyotr Petr และ Igor Lychagov สัญชาติรัสเซีย ณ เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และย้ายฐานไปยังเซเชลส์เพื่อลดภาระภาษีและความซับซ้อนด้านการกำกับดูแล ปัจจุบันมีอายุเกือบ 20 ปี ถือเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์เก่าแก่
ตั้งแต่ปี 2019 Exness ได้ประกาศว่ามีปริมาณเทรดถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อเดือน แต่รายงานการเงินสาธารณะนั้นแสดงเป็นช่วงและไม่ชัดเจน จุดนี้อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ
ด้วยโครงสร้างธุรกิจระดับนานาชาติ Exness มีนิติบุคคลหลายแห่งในโลก รวมถึงสำนักงานในสหราชอาณาจักร, ไซปรัส, เซเชลส์, แอฟริกาใต้, คูราเซา, หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน, โมริเชียส, เคนยา และจอร์แดน ซึ่งช่วยให้สามารถให้บริการลูกค้าทั่วโลกได้อย่างครอบคลุม
ภาพรวมการกำกับดูแล
หน่วยงานกำกับดูแล | ใบอนุญาต | การคุ้มครองลูกค้า | ความเห็น |
FCA (UK) | 730729 | สูงสุด 85,000 GBP | ระดับท็อป แค่ครอบคลุมลูกค้า UK |
CySEC (Cyprus) | 178/12 | สูงสุด 20,000 EUR | พาสปอร์ต EU, ค่าคุ้มครองต่ำ |
FSCA (South Africa) | 51024 | ไม่มีระบุ | เฉพาะภูมิภาค, บางทีไม่ครอบคลุมเอเชีย |
FSA (Seychelles) | SD025 | ไม่มีกองทุนคุ้มครอง | Offshore ระดับน้อยมาก |
แม้ Exness จะมีใบอนุญาตถึง 4 ใบ แต่มีเพียง FCA เท่านั้นที่น่าเชื่อถือ ส่วนอื่นถ้าเปิดบัญชีจากนิติบุคคลนอก UK การคุ้มครองเงินทุนและค่าชดเชยจะน้อยกว่ามาก นักเทรดชาวไทยจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบ
รีวิวจากผู้ใช้ & ชื่อเสียงตามงานทดลอง
คะแนนผ่านการประเมินเชิงปริมาณยังดูดี:
- TrustPilot: 4.7/5
- Google Play: 4.7/5
- App Store: 4.6/5
- FxVerify: 4.5/5
- WikiFX: 8.3/10

คะแนนสูงเหล่านี้มักสะท้อนข้อมูลเชิงวัตถุ เช่น ใบอนุญาตหรือแพลตฟอร์มการเทรด แต่รีวิวประสบการณ์โดยตรงของผู้ใช้เผยปัญหาหลายประการ:
- คำร้องเรียน 1: เลเวอเรจถูกปรับโดยไม่ได้แจ้งก่อน ทำให้เกิดการขาดทุน
- คำร้องเรียน 2: การฝากเงินล่าช้า เกิดกรณีผู้ใช้เงินไม่เข้าบัญชีแม้ระบบอ้างว่า “เข้าทันที”
- คำร้องเรียน 3: ปัญหาไถลราคา (slippage) ยิ่งสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจระบบ forex
เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำๆ ซึ่งทำให้เราตั้งคำถามว่า “เป็นเพราะ Exness จริงๆ หรือเป็นเพราะเว็บไซต์ปลอมกันแน่?” แต่ที่ชัดคือ แบรนด์จัดการภาพลักษณ์ได้ไม่ดีเท่าไรนัก นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนเปิดบัญชี
ประเภทบัญชี
บัญชี | ฝากขั้นต่ำ | สเปรดเริ่มต้น | ค่าคอม (ทางเดียว) | เลเวอเรจสูงสุด |
Standard | 10 USD | 0.2 pips | ไม่มี | ไม่จำกัด |
Cent | 10 USD | 0.3 pips | ไม่มี | ไม่จำกัด |
Pro (หรือ “พรีวิเลจ”) | 3,000 USD | 0.1 pips | ไม่มี | ไม่จำกัด |
Zero | 3,000 USD | 0.0 pip | 0.05 USD | ไม่จำกัด |
Raw Spread | 3,000 USD | 0.0 pip | 3.5 USD | ไม่จำกัด |
บัญชี Standard เหมาะกับมือใหม่ เนื่องจากมีเงินฝากต่ำ ไม่มีค่าคอม และสามารถเทรดได้หลายประเภท พร้อมเลเวอเรจสูงและ Market Execution แต่จุดด้อยคือสเปรดกว้างกว่าและระดับ margin call 60%
บัญชี Cent ดีสำหรับการทดสอบกลยุทธ์ เทรดขั้นต่ำเป็นเซนต์ รองรับเฉพาะ MT4 และไม่มีค่าคอม
บัญชี Pro มีสเปรดต่ำ (0.1) ไม่มีค่าคอม และใช้ Immediate Execution เหมาะกับสคัลป์และเดย์เทรด แต่ต้องฝากเงินเริ่มต้นสูง (3,000 USD)
บัญชี Zero มีสเปรดเป็นศูนย์ ค่าคอมต่ำ (0.05) เหมาะกับการเทรดเก็บกำไรเร็ว แต่ต้องฝากขั้นต่ำ 3,000 USD และอาจแพงสำหรับการเทรดเล็ก
บัญชี Raw Spread มีสเปรดต่ำมาก ค่าคอม (3.5 USD/ล็อต) เหมาะกับกลยุทธ์อัตโนมัติ และต้องฝากขั้นต่ำ 3,000 USD
สรุปจากการทดสอบ
สำหรับมือใหม่ที่เน้นฝากน้อย แนะนำ Standard หรือ Cent สำหรับเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ Pro มีสเปรดต่ำและการดำเนินคำสั่งดี และสำหรับเทรดความถี่สูง/เชิงเทคนิค/สถาบัน Zero และ Raw Spread เหมาะสุด
ต้นทุนการเทรดและค่าธรรมเนียมแฝง
เราได้ทำการเทรด EUR/USD ในช่วงตลาดเอเชีย บัญชีทั้ง 5 แบบ ให้ผลลัพธ์ดังนี้:
บัญชี | สเปรดเฉลี่ย | คอม/ล็อต | ต้นทุนรวม/ล็อต |
Standard | 0.6 pips | 0 USD | 6 USD |
Cent | 0.7 pips | 0 USD | 7 USD |
Pro | 0.5 pips | 0 USD | 5 USD |
Zero | 0.2 pips | 0.1 USD | 2.20 USD |
สเปรดดิบ (Raw Spread) | 0.2 pips | 3.5 USD | 9 USD |
ข้อค้นพบจากการทดสอบ
บัญชี Zero มีต้นทุนต่ำสุด (~2.20 USD/ล็อต) แต่โปรดตรวจดูเงื่อนไขเพิ่มเติม Pro เป็นบัญชีไม่มีคอมที่ต้นทุนต่ำที่สุด (~5 USD) Raw Spread แม้สเปรดต่ำ แต่ค่าคอมทำให้ต้นทุนสูงขึ้น (~9 USD) และบัญชี Standard & Cent มีต้นทุนค่อนข้างสูง (~6–7 USD)
ผลการทดสอบพบว่า ต้นทุนจริงมักสูงกว่าที่โบรกระบุ พร้อมกับมีปัญหา slippage และสภาพคล่อง ผู้เทรดควรจับคู่บัญชีกับกลยุทธ์ของตน และติดตามสเปรดและค่าธรรมเนียมอยู่สม่ำเสมอ
สินค้าที่สามารถเทรดได้และความยืดหยุ่นของระบบ
Exness ให้บริการสินทรัพย์หลักเกินพอสำหรับเทรดเดอร์ระดับเริ่มต้นถึงกลาง โดยเน้นเป็น CFD แต่ตลาดเฉพาะทางอาจจำกัดกว่าบางโบรกชั้นนำ
สินทรัพย์ที่รองรับรวมถึง ฟอเร็กซ์มากกว่า 100 คู่สกุลเงิน (เช่น EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY), โลหะมีค่าอย่างทอง (XAU/USD), เงิน (XAG/USD), แพลทินัม (XPT/USD), พลังงานเช่น WTI (USOIL), Brent (UKOIL), Natural Gas (XNG/USD), ดัชนีหุ้นอย่าง S&P 500 (US500), Dow (US30), DAX (DE30), หุ้น CFD เช่น Apple, Amazon, Tesla, Alibaba และคริปโต BTC/USD, ETH/USD, LTC/USD ที่เทรดได้ 24/7
คุณสมบัติการเทรด
การดำเนินคำสั่งมีทั้ง Market และ Instant Execution แล้วแต่ประเภทบัญชีและสินทรัพย์ ความเร็วในการเทรดอยู่ในระดับมิลลิวินาที เหมาะกับนักเทรดความถี่สูง เลเวอเรจสูงสุดไม่จำกัด แต่ขึ้นอยู่กับบัญชี สินทรัพย์ กฎระเบียบ และมีความเสี่ยงสูง
ล็อตขั้นต่ำ 0.01 และล็อตสูงสุดในช่วงตลาดกลางวัน (07:00–20:59 GMT) 200 ล็อต ส่วนกลางคืน (21:00–06:59 GMT) 20 ล็อต สเปรดและค่าคอมเริ่มต้นที่ 0.0 pips แล้วแต่บัญชี บางบัญชีก็มีค่าคอมแบบคงที่
แพลตฟอร์มการเทรดและการทดสอบเครื่องมือ
MT4 เป็นแพลตฟอร์มมาตรฐาน ใช้งานง่าย มี indicator เยอะ รองรับ EA แต่หน้าตาเก่า
MT5 เป็นรุ่นใหม่ รองรับสินทรัพย์หลากหลาย มีฟังก์ชันพื้นฐานโดยทั่วไป
Exness Terminal (เว็บ) ไม่ต้องติดตั้ง UI ใช้งานง่าย มีกราฟสไตล์ TradingView แต่ล้าช้าและเสถียรภาพต่ำเล็กน้อย
Exness Trade App สำหรับ iOS/Android เทรดมือถือได้ มีฟีเจอร์พื้นฐานแต่ไม่มีอะไรโดดเด่น และมีบางรายงานเรื่องเสถียรภาพต่ำ
โดยสรุป แพลตฟอร์มของ Exness ใช้งานได้ แต่ไม่ได้น่าประทับใจกว่านี้ ทำให้ MT4/MT5 ยังคงเป็นตัวเลือกมาตรฐานที่สุด
ขั้นตอนการฝากและถอนเงิน และประสบการณ์การทดสอบ
Exness รองรับช่องทางการฝาก-ถอนหลากหลาย รวมถึงการโอนผ่านธนาคาร, บัตรเครดิต, Skrill, Neteller และสกุลเงินดิจิทัล (USDT) โดยมีหมายเหตุสำคัญว่าการถอนเงินต้องใช้วิธีเดียวกับที่ฝากเข้ามา
Exness ระบุว่าฝากเงินมาถึงบัญชีทันที ส่วนถอนอาจนานกว่าขึ้นอยู่กับวิธี จากการทดลองจริง USDT ใช้เวลา 10–15 นาที ฝากสำเร็จ แต่ถอนใช้เวลาราว 3 วัน ถือว่าช้ากว่าที่ระบุ
มีผู้ใช้แจ้งปัญหาถอนเงินไม่ผ่าน หากแม้เราไม่ได้พบ แต่ก็แนะนำให้ระมัดระวัง สำหรับผู้ใช้ในไทย การใช้ USDT น่าจะสะดวกที่สุด
คุณภาพของฝ่ายบริการลูกค้าและการสนับสนุนผู้ใช้งาน
Exness ให้บริการผ่านแชทสด, อีเมล, และโทรศัพท์ พร้อมรองรับ 14 ภาษา รวมถึงภาษาไทย จุดนี้ทำให้ลูกค้าในไทยได้รับการดูแลตลอด 24/7
สำหรับแชทสด ต้องรอประมาณ 10 นาที หรือได้รับข้อความอัตโนมัติก่อนถึงจะมีคนตอบ อีเมลอาจต้องใช้เวลาถึง 1 วันจึงจะได้รับตอบ แต่โทรศัพท์รับสายได้ค่อนข้างเร็ว
หากต้องการการช่วยเหลือฉุกเฉิน แนะนำให้โทรหรือใช้แชทสดจะเร็วที่สุด
เครื่องมือการศึกษาและวิเคราะห์ตลาด
ด้านการเรียนรู้ Exness มีเฉพาะวิดีโอพื้นฐานและ webinar เท่านั้น ไม่ค่อยเหมาะกับเทรดเดอร์ระดับสูง
สำหรับเครื่องมือวิเคราะห์ มีปฏิทินเศรษฐกิจ, สัญญาณจาก Trading Central และข่าว & วิเคราะห์จาก FXStreet ซึ่งสามารถใช้งานผ่านเว็บไซต์หรือแอปของ Exness ได้
จุดเด่นของแพลตฟอร์มและความแตกต่าง
- เลเวอเรจไม่จำกัด คือจุดขายใหญ่สุด แต่มีเงื่อนไขใช้งานเข้มงวด เช่น ยอดเงินในบัญชีน้อยกว่า 1,000 USD, ไม่มีตำแหน่งเปิด, ไม่มี margin call และหลีกเลี่ยงข่าวใหญ่ ช่วงทดลองเราเจอเลเวอเรจลดลงกะทันหัน ทำให้ต้นทุน margin เพิ่มและไม่ทันปิดตำแหน่ง จึงเหมือนคำโฆษณามากกว่าที่ใช้งานจริง
- รองรับหลายภาษาและการขยายระหว่างประเทศ มีภาษาไทย, อังกฤษ, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, จีน และตลาดอื่นๆ ในเอเชีย, แอฟริกา แม้จะสะดวก แต่บริการภาษาไทยยังคงคุณภาพไม่สม่ำเสมอ หลายคนบ่นถึงการตอบแบบอัตโนมัติ จึงไม่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ระดับโลก
- แพลตฟอร์มพัฒนาของตัวเอง Terminal กับ Trade App ทำงานได้ระดับพื้นฐาน แต่มีปัญหาโหลดช้า, หลุดช่วงราคาผันผวนสูง จึงมีช่องว่างให้ปรับปรุงหากเทียบกับคู่แข่งชั้นนำ
สรุปและคำแนะนำในการเลือกใช้
หลังการทดสอบเข้มข้นและเปรียบเทียบอย่างละเอียด คำสรุปคือ Exness ใช้งานได้ “แต่อาจยังไม่ได้ดีที่สุด”
มีภาพลวงของเงื่อนไขน่าสนใจ แต่การใช้งานจริงกลับพบข้อจำกัด เช่น การกดเลเวอเรจ, การออกคำสั่ง, การถอนเงิน, บริการลูกค้า ชนิดบัญชีทั้ง 5 มีจุดเด่นต่างกัน แต่ต้นทุนจริงมักสูงกว่าที่โฆษณาโดยเฉพาะบัญชี Raw Spread ที่แม้สเปรดเป็นศูนย์ ค่าส่งคำสั่งกลับทำให้ต้นทุนไม่ได้ต่างจากบัญชีธรรมดา
สำหรับมือใหม่ ควรเริ่มด้วย Standard หรือ Cent แบบฝากน้อยเพื่อทดสอบระบบ แนะนำให้ศึกษาคู่แข่งอื่นๆ ด้วย ผู้เทรดความเสี่ยงสูง หรือทำกำไรระยะสั้น อาจสนใจ Exness เพราะมีเลเวอเรจสูง บัญชีสเปรดต่ำ และรองรับคริปโต แต่ควรเข้าใจเงื่อนไขจริงของเลเวอเรจอย่างชัดแจ้ง
คนที่ให้ความสำคัญกับการถอนเงินทันใจและบริการลูกค้า ควรระวัง เพราะ Exness ยังมีพัฒนาการเหล่านี้ที่ยังไม่ครบถ้วน และไม่มีความแน่นอนว่าจะไม่ติดขัดในอนาคต เป็นความเสี่ยงที่ไม่ควรละเลยหากลงทุนระยะยาว
คู่มือขั้นตอนการเปิดบัญชี
หน้าเปิดบัญชีของ Exness ไม่มีภาษาไทย แต่คุณสามารถคลิกขวาแล้วเลือก “แปลเป็นไทย” ก็ใช้งานได้ ทางเราทดสอบผ่านคอมพิวเตอร์ใช้เวลาประมาณ 5 นาที (บนมือถือมีปัญหาหน้าหลุดบ้างบางครั้ง)
- เข้าหน้าเว็บ Exness และคลิก “สมัคร”

- เลือกสมัครผ่าน Gmail หรือ Email ก็ได้
- กรอก Email ภูมิภาค และตั้งรหัสผ่าน

- เลือกระหว่าง บัญชีจริง หรือ Demo

- ตรวจสอบเบอร์มือถือก่อนฝากเงิน

- ตอบแบบฝึกความรู้เรื่องการเทรดจำนวน 18 ข้อ

- ยืนยันตัวตน (KYC) ใช้เวลาประมาณหนึ่งวัน
- หลังยืนยันเสร็จ สามารถเทรดจริงได้ทันที
- บัญชีทดลอง (Demo) มีเงินให้ทดลอง $10,000 ทันที เหมาะกับมือใหม่ลองระบบก่อน
