Skip to content
  • ไทย
    • หน้าแรก
    • รีวิวโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
      • รายละเอียดโบรกเกอร์ Forex
    • การเทรด Forex
      • วิเคราะห์คู่สกุลเงิน Forex
      • คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex
    • คริปโตเคอร์เรนซี
      • รวมคริปโตเคอร์เรนซียอดนิยม
      • พื้นฐานการลงทุนบล็อกเชน
    • การลงทุนในหุ้น
      • วิเคราะห์หุ้นกลุ่มยอดนิยม
      • คู่มือเริ่มต้นลงทุนหุ้น
      • แนะนำกองทุน ETF
    • การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์
      • เจาะลึกการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
      • คู่มือเริ่มต้นลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
    • วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
    • พื้นฐานการลงทุน
    • หน้าแรก
    • รีวิวโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
      • รายละเอียดโบรกเกอร์ Forex
    • การเทรด Forex
      • วิเคราะห์คู่สกุลเงิน Forex
      • คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex
    • คริปโตเคอร์เรนซี
      • รวมคริปโตเคอร์เรนซียอดนิยม
      • พื้นฐานการลงทุนบล็อกเชน
    • การลงทุนในหุ้น
      • วิเคราะห์หุ้นกลุ่มยอดนิยม
      • คู่มือเริ่มต้นลงทุนหุ้น
      • แนะนำกองทุน ETF
    • การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์
      • เจาะลึกการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
      • คู่มือเริ่มต้นลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
    • วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
    • พื้นฐานการลงทุน

    หน้าแรก - วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค

    คำนวณ RSI อย่างไร? เจาะลึกสูตรและตัวอย่างจริงจากหุ้นไทย

    • วันที่เผยแพร่บทความ: 2025-07-29
    • วันที่อัปเดตบทความ:2025-09-18
    ภาพ RSI คืออะไร

    สารบัญ

    การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเครื่องมือสำคัญที่นักลงทุนใช้เพื่อทำนายทิศทางของราคาหุ้น หนึ่งในอินดิเคเตอร์ที่ได้รับความนิยมสูงและมีประสิทธิภาพมากที่สุดคือ Relative Strength Index (RSI) หรือดัชนีวัดความแข็งแรงสัมพัทธ์ ซึ่งช่วยให้ผู้ลงทุนสังเกตจังหวะการกลับตัวของราคาได้ล่วงหน้า

    แม้หลายแพลตฟอร์มจะแสดงค่า RSI อัตโนมัติ แต่การเข้าใจพื้นฐานการคำนวณจะช่วยให้คุณตีความผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำและมั่นใจมากขึ้น ไม่ใช่แค่เดาตามตัวเลข บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกตั้งแต่ที่มาของ RSI โครงสร้างสูตร ไปจนถึงการประยุกต์ใช้จริงจากตัวอย่างหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทย โดยยึดหลักความถูกต้องและเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และนักเทรดระดับกลาง

    ภาพ RSI คืออะไร

    Relative Strength Index (RSI) คืออะไร?

    RSI เป็นอินดิเคเตอร์ประเภท Momentum Oscillator ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย J. Welles Wilder Jr. ในปี 1978 ผ่านหนังสือชื่อโด่งดังอย่าง New Concepts in Technical Trading Systems จุดประสงค์หลักคือการวัดความเร็ว และพลังของแนวโน้มราคาในช่วงเวลาหนึ่ง แล้วแสดงเป็นค่าตัวเลขระหว่าง 0 ถึง 100

    ค่า RSI ทำหน้าที่เหมือนสัญญาณไฟจราจรในตลาดหุ้น โดยให้ข้อมูลว่าสินทรัพย์กำลังอยู่ในภาวะ ซื้อมากเกินไป (Overbought) หรือ ขายมากเกินไป (Oversold) ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงจุดเปลี่ยนของแนวโน้ม โดยเฉพาะเมื่อราคายังเคลื่อนตัวแรง แต่โมเมนตัมเริ่มอ่อนตัวลง

    ตัวอย่างเช่น หากหุ้นพุ่งต่อเนื่อง แต่ค่า RSI เริ่มทรงตัวหรือกลับตัวลง นั่นอาจเป็น “การเตือน” ว่าแรงซื้อกำลังหมดลม ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับฐานหรือการกลับตัว

    ภาพการคำนวณ RSI แบบ Step-by-Step

    สูตรคำนวณ RSI อย่างละเอียด

    การคำนวณ RSI ดูซับซ้อนจากสูตร แต่หากแบ่งขั้นตอนจะเข้าใจได้ง่าย โดยพื้นฐานแล้ว RSI คำนวนจาก “ค่าเฉลี่ยการเปลี่ยนแปลงราคา” ในช่วงเวลาหนึ่ง มาเปรียบเทียบกันระหว่างแรงซื้อ (Gain) และแรงขาย (Loss)

    สูตรหลักแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน ตามข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ด้านการเงินที่น่าเชื่อถืออย่าง Investopedia

    ขั้นตอนที่ 1: คำนวณ Relative Strength (RS)

    $$RS = \frac{\text{ค่าเฉลี่ยของราคาที่ขึ้น (Average Gain)}}{\text{ค่าเฉลี่ยของราคาที่ลง (Average Loss)}}$$

    ขั้นตอนที่ 2: แปลงค่า RS เป็น RSI

    $$RSI = 100 – \left( \frac{100}{1 + RS} \right)$$

    โดยช่วงเวลา (period) ที่ใช้โดยทั่วไปคือ 14 วัน สำหรับกราฟรายวัน ซึ่งมีความสมดุลระหว่างความไวและเสถียรภาพ เหมาะสำหรับการติดตามแนวโน้มระยะสั้นถึงกลาง

    ภาพการใช้สัญญาณ Divergence

    ตัวอย่างการคำนวณ RSI จริงจากหุ้นไทย

    เพื่อให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง เราจะใช้ตัวอย่างหุ้นสมมติในตลาด SET โดยคำนวณ RSI เองทีละขั้นตอนจากข้อมูลราคาปิดย้อนหลัง 15 วัน

    ข้อมูลหุ้นตัวอย่าง: ราคาปิดย้อนหลัง 15 วัน (หน่วย: บาท)

    วันราคาปิดเปลี่ยนแปลงราคาขึ้น (Gain)ราคาลง (Loss)
    1100.00–––
    2102.00+2.002.000.00
    3101.50-0.500.000.50
    4103.00+1.501.500.00
    5102.50-0.500.000.50
    6104.00+1.501.500.00
    7105.00+1.001.000.00
    8104.00-1.000.001.00
    9103.50-0.500.000.50
    10106.00+2.502.500.00
    11107.00+1.001.000.00
    12106.50-0.500.000.50
    13108.00+1.501.500.00
    14109.00+1.001.000.00
    ผลรวม 14 วันแรก13.503.00
    15108.00-1.000.001.00

    ขั้นตอนที่ 1: คำนวณค่าเฉลี่ยเริ่มต้น (Avg Gain และ Avg Loss)

    • ผลรวม Gain 14 วัน = 13.50
    • ผลรวม Loss 14 วัน = 3.00
    • ค่าเฉลี่ย Gain = 13.50 ÷ 14 = 0.964
    • ค่าเฉลี่ย Loss = 3.00 ÷ 14 = 0.214

    ขั้นตอนที่ 2: คำนวณ Relative Strength (RS)

    $$RS = \frac{0.964}{0.214} = 4.505$$

    ขั้นตอนที่ 3: คำนวณ RSI วันที่ 14

    $$RSI = 100 – \left( \frac{100}{1 + 4.505} \right) = 100 – \left( \frac{100}{5.505} \right) = 100 – 18.165 = 81.835$$

    หมายความว่า ณ วันที่ 14 หุ้นตัวนี้มีค่า RSI สูงถึง 81.84 ชี้ให้เห็นว่าเข้าสู่เขต Overbought และอาจมีแรงขายเกิดขึ้น

    ขั้นตอนที่ 4: คำนวณต่อไป (Smoothing)

    สำหรับ RSI ในวันถัดไป จะใช้วิธีการอัปเดตค่าเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก เพื่อความราบรื่น:

    • New Avg Gain = [(0.964 × 13) + 0] ÷ 14 = 0.895
    • New Avg Loss = [(0.214 × 13) + 1.00] ÷ 14 = 0.270
    • RS ใหม่ = 0.895 / 0.270 = 3.315
    • RSI วันที่ 15 = 100 − (100 / (1 + 3.315)) = 76.82

    ค่า RSI ลดลงจาก 81.84 เป็น 76.82 สะท้อนว่าแรงซื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับการที่ราคาเริ่มปรับตัวลงในวันที่ 15

    ภาพการใช้ร่วมกับเทรนด์

    วิธีอ่านและตีความค่า RSI เพื่อการตัดสินใจ

    การดูว่า “RSI เท่าไหร่” ไม่เพียงพอ ต้องเข้าใจบริบทของตลาด ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วนสำคัญ ตามแนวทางที่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เสนอให้นักลงทุนพิจารณา

    เขตซื้อมากเกินไป (Overbought): ค่า RSI > 70

    เมื่อ RSI เคลื่อนตัวเหนือระดับ 70 มักบ่งชี้ว่ามีการซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาสั้น นักลงทุนส่วนใหญ่อาจเริ่มขายทำกำไร เช่น กรณีในตัวอย่างที่ RSI วันที่ 14 สูงถึง 81.84 ก่อนที่ราคาจะย่อตัวลงในวันถัด ๆ มา

    อย่างไรก็ตาม ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง RSI อาจอยู่ในเขต Overbought เป็นเวลานาน ไม่ได้หมายถึงการกลับตัวเสมอไป

    เขตขายมากเกินไป (Oversold): ค่า RSI < 30

    หาก RSI ต่ำกว่า 30 แปลว่ามีแรงขายต่อเนื่อง นักลงทุนเริ่มหมดความหวังและอาจขายในช่วงความตื่นตระหนก ซึ่งเป็นโอกาสของนักลงทุนรายย่อยที่จะเก็บหุ้นถูกราคา หรือมองหาจุดกลับตัวขาขึ้น

    เส้นค่ากลาง 50: เครื่องมือระบุแนวโน้ม

    แม้ไม่ใช่เกณฑ์หลัก แต่ RSI เหนือ 50 แสดงว่าโมเมนตัมอยู่ในฝั่งขาขึ้น ในขณะที่ต่ำกว่า 50 ชี้ถึงโมเมนตัมขาลง การใช้เส้นนี้เป็นจุดอ้างอิงช่วยแยกแยะว่า RSI ที่ Overbought อยู่ในขาขึ้นจริง หรือเป็นเพียงการเด้งตัวในขาลง

    เทคนิคขั้นสูง: ใช้ RSI เพื่อหาสัญญาณ Divergence

    Divergence หรือความผิดปกติระหว่างราคาและการวัดโมเมนตัม เป็นหนึ่งในสัญญาณที่แม่นยำที่สุดของ RSI เนื่องจากบ่งชี้ถึงความอ่อนแรงของแนวโน้มก่อนที่ราคาจะกลับตัวจริง

    Bullish Divergence (สัญญาณซื้อ)

    เกิดเมื่อราคาทำ “จุดต่ำสุดใหม่” (Lower Low) แต่ RSI กลับทำ “จุดต่ำสุดที่ไม่ลึกลง” (Higher Low) แม้ราคาลบแต่โมเมนตัมการขายอ่อนลง นี่คือสัญญาณเตือนว่าแรงขายเริ่มหมดแรง

    Bearish Divergence (สัญญาณขาย)

    ตรงกันข้ามกัน เมื่อราคาทำ “จุดสูงสุดใหม่” (Higher High) แต่ RSI กลับทำ “จุดสูงสุดที่ต่ำลง” (Lower High) แสดงว่าแรงซื้อไม่แข็งแรงพอในการผลักดันราคาให้สูงขึ้น ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลง

    ภาพการใช้ RSI ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น

    ข้อผิดพลาดและการใช้ RSI ให้ถูกต้อง

    แม้ RSI จะทรงประสิทธิภาพ แต่หากใช้ผิดวิธีอาจนำไปสู่การขาดทุนได้ โดยยึดถือคำแนะนำจากแหล่งเชี่ยวชาญอย่าง Fidelity ต่อไปนี้

    • อย่าต่อต้านแนวโน้มใหญ่: ในช่วงแนวโน้มแรง ทั้งขาขึ้นหรือขาลง RSI อาจค้างในเขต Overbought/Oversold ได้นาน การสั่งซื้อหรือขายทันทีอาจทำให้หลงทิศ
    • อย่าใช้ RSI เพียงตัวเดียว: การใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์อื่น เช่น MACD, Moving Average หรือแนวรับแนวต้าน จะช่วยยืนยันสัญญาณและลดความเสี่ยง
    • ค่า 14 ไม่ใช่กฎตายตัว: เทรดเดอร์สามารถปรับค่าเป็น 9 วัน (ไวขึ้น) หรือ 21 วัน (เสถียรขึ้น) ตามสไตล์การเทรดของตนเอง

    คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

    1. ค่ามาตรฐานที่ใช้คำนวณ RSI คืออะไร?

      ค่าที่นิยมใช้มากที่สุดคือ 14 คาบเวลา (14 periods) ซึ่งสำหรับกราฟรายวันคือ 14 วัน และสำหรับรายชั่วโมงก็คือ 14 ชั่วโมง นักลงทุนสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามกลยุทธ์การเก็งกำไรของตนเอง

    2. RSI สามารถใช้กับทุกตลาดได้หรือไม่?

      ได้แน่นอน RSI ถูกออกแบบมาให้ใช้ได้กับทุกสินทรัพย์ที่มีราคาเคลื่อนไหวตามเวลา ไม่ว่าจะเป็น หุ้น, ฟอเร็กซ์, สินค้าโภคภัณฑ์ หรือ คริปโทเคอร์เรนซี เพราะวัดตามหลักโมเมนตัม ซึ่งเป็นพฤติกรรมร่วมกันของทุกตลาด

    3. ค่า RSI ที่ 50 หมายความว่าอย่างไร?

      ค่า 50 แสดงถึงความสมดุลของแรงซื้อและแรงขายในช่วงเวลาหนึ่ง เป็นเส้นกลางที่ใช้แยกแยะแนวโน้ม: หาก RSI อยู่เหนือ 50 แสดงถึงภาวะโมเมนตัมขาขึ้น และต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงโมเมนตัมขาลง

    4. คำนวณ Average Gain และ Average Loss ครั้งแรกอย่างไร?

      สำหรับการคำนวณครั้งแรก ให้หาผลรวมของทุก “Gain” ตลอด 14 วันแรก แล้วหารด้วย 14 เพื่อได้ Average Gain เริ่มต้น และทำในทำนองเดียวกันกับ “Loss” เพื่อหาค่าเฉลี่ยแรงขาย

    5. RSI ต่างจาก Stochastic Oscillator อย่างไร?

      ทั้งสองเป็นเครื่องมือวัดโมเมนตัม แต่ RSI ดู “ความเร็วของการเปลี่ยนแปลงราคา” ขณะที่ Stochastic ว่าด้วย “ราคาปิดเทียบกับช่วงราคาทั้งหมดในช่วงเวลาที่กำหนด” ดังนั้น Stochastic มักไวต่อการเปลี่ยนแปลงมากกว่า แต่ก็ให้สัญญาณรบกวนได้เช่นกัน

    Picture of Ariya Suksawadee
    Ariya Suksawadee
    อริยา สุขสวัสดิ์ เป็นนักวิจัยอาวุโสแห่งเว็บไซต์รีวิวโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ เธอมีประสบการณ์มากกว่า 14 ปีในการวิเคราะห์นโยบายการเงินและระบบอัตราแลกเปลี่ยนในเอเชีย เชี่ยวชาญด้านการตัดสินใจของธนาคารกลาง ความร่วมมือทางการเงินในภูมิภาคอาเซียน และการวิเคราะห์อัตราแลกเปลี่ยนตามสถานการณ์สำคัญ อริยาเคยเป็นที่ปรึกษาให้กับกระทรวงการคลังของไทยและธนาคารพัฒนาเอเชีย พร้อมให้คำแนะนำด้านกลยุทธ์แก่บริษัทและสถาบันการเงินชั้นนำ ความเห็นของเธอมักปรากฏในสื่อระดับประเทศ เช่น Bangkok Biz News และ Bloomberg Asia จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดเงินที่น่าเชื่อถือ
    Prev上一篇คู่เงิน Forex ที่วิ่งแรงที่สุด: คู่มือสำหรับนักเทรดที่ต้องการความผันผวนสูง
    下一篇Take Profit คือ: เทคนิคขั้นเทพเพื่อล็อคกำไรแบบมืออาชีพNext
    การจัดอันดับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
    แบรนด์
    คะแนน
    รีวิวแบบละเอียด
    1. Moneta Markets
    ★ 9.8/10
    2. Vantage FX
    ★9.4/10
    3. VT Markets
    ★ 9.2/10
    4. Eightcap
    ★ 8.9/10
    5. GOFX
    ★ 8.8/10
    บทความล่าสุด
    ภาพแนะนำบทความ MT5 PC
    พื้นฐานการลงทุน
    วิธีดาวน์โหลดและติดตั้ง MT5 PC ตัวเต็มล่าสุด (2025)

    สำหรับนักเทรดในตลาด

    อ่านเพิ่มเติม »
    ภาพแนะนำ MT5 สำหรับมือใหม่
    พื้นฐานการลงทุน
    MT5 คืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่

    หากคุณเป็นเทรดเดอร์ม

    อ่านเพิ่มเติม »
    ภาพแนะนำดอกเบี้ย Fed ล่าสุด
    พื้นฐานการลงทุน
    ดอกเบี้ย Fed ล่าสุด: สรุปผลประชุม FOMC และผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

    สำหรับนักลงทุนยุคนี้

    อ่านเพิ่มเติม »
    แนะนำเพิ่มเติม
    ภาพลักษณะของ Cup and Handle
    วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
    แนวรับ แนวต้าน คือ อะไร? เชี่ยวชาญ Cup and Handle Pattern เพิ่มอัตราชนะเทรด

    รู้จัก Cup and Handl

    อ่านเพิ่มเติม »
    ภาพ Charles Dow กับการเทรด
    วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
    Dow Theory คือ: คู่มือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาดสำหรับเทรดเดอร์ Forex ไทย

    การเปิดประตู Dow The

    อ่านเพิ่มเติม »
    ภาพความแตกต่างระหว่างมุมมอง Retail vs SMC
    วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
    สุดยอดคู่มือ SMC Trading: คิดและเทรดอย่างสถาบัน (อัปเดต 2025)

    คุณเคยสัมผัสกับความร

    อ่านเพิ่มเติม »

    10 อันดับโบรกเกอร์ Forex เป็นแพลตฟอร์มรีวิวมืออาชีพที่สร้างขึ้นเพื่อเทรดเดอร์ชาวไทยโดยเฉพาะ ทีมงานของเรามีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม Forex มากกว่า 10 ปี มุ่งมั่นคัดสรรและนำเสนอข้อมูลโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือในประเทศไทย เพื่อให้คุณสามารถเทรดได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจสูงสุด

    เกี่ยวกับเรา

    • เกี่ยวกับเรา
    • ติดต่อเรา
    • คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
    • ข้อกำหนดในการใช้งาน
    • นโยบายความเป็นส่วนตัว

    เงื่อนไขการใช้งาน

    • หน้าแรก
    • รีวิวโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
      • รายละเอียดโบรกเกอร์ Forex
    • การเทรด Forex
      • วิเคราะห์คู่สกุลเงิน Forex
      • คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex
    • คริปโตเคอร์เรนซี
      • รวมคริปโตเคอร์เรนซียอดนิยม
      • พื้นฐานการลงทุนบล็อกเชน
    • การลงทุนในหุ้น
      • วิเคราะห์หุ้นกลุ่มยอดนิยม
      • คู่มือเริ่มต้นลงทุนหุ้น
      • แนะนำกองทุน ETF
    • การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์
      • เจาะลึกการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
      • คู่มือเริ่มต้นลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
    • วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
    • พื้นฐานการลงทุน
    • หน้าแรก
    • รีวิวโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์
      • รายละเอียดโบรกเกอร์ Forex
    • การเทรด Forex
      • วิเคราะห์คู่สกุลเงิน Forex
      • คู่มือเริ่มต้นเทรด Forex
    • คริปโตเคอร์เรนซี
      • รวมคริปโตเคอร์เรนซียอดนิยม
      • พื้นฐานการลงทุนบล็อกเชน
    • การลงทุนในหุ้น
      • วิเคราะห์หุ้นกลุ่มยอดนิยม
      • คู่มือเริ่มต้นลงทุนหุ้น
      • แนะนำกองทุน ETF
    • การซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์
      • เจาะลึกการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
      • คู่มือเริ่มต้นลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์
    • วิเคราะห์อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค
    • พื้นฐานการลงทุน

    สมัครรับจดหมายข่าวจากเรา

    รับข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ของเราและสัญญาณการเทรดประจำสัปดาห์

    🎁 ปลดล็อกของขวัญเงินฝาก 50% สุดพิเศษ

    สนับสนุนโดย Moneta Markets — ได้รับการกำกับดูแลโดย FCA เชื่อถือได้

    ⏰ สิทธิ์พิเศษหมดอายุใน 10:00

    แพลตฟอร์มทั่วไป

    $1000ฝากเงิน $1000

    ปลดล็อกเพื่อคุณ

    ของขวัญพิเศษของคุณ

    $1500ฝากเงิน $1000 เท่ากัน

    แพลตฟอร์มทั่วไป $1000 ฝากเงิน $1000
    →
    ของขวัญพิเศษของคุณ $1500 ฝากเงิน $1000 เท่ากัน
    ✅ เทรดเดอร์กว่า 1,000,000+ คนเข้าร่วมแล้ว!
    เทรดด้วยเงินเริ่มต้น $1500

    🏆 แพลตฟอร์มเทรดที่ไว้วางใจได้ทั่วโลก

    🛡️
    กำกับดูแลโดย FCA

    มั่นใจในความปลอดภัยของเงินทุนด้วยการกำกับดูแลที่เข้มงวดจาก FCA แห่งสหราชอาณาจักร

    ⚽️
    พันธมิตร Atlético de Madrid

    ความน่าเชื่อถือระดับโลกในฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทางการของสโมสรฟุตบอลชั้นนำ

    📈
    คัดลอกการเทรดง่ายๆ

    ติดตามกลยุทธ์ของเทรดเดอร์ชั้นนำได้ในคลิกเดียว เหมาะสำหรับมือใหม่

    ⚖️
    เลเวอเรจคริปโต 500x

    เพิ่มโอกาสทำกำไรในตลาดคริปโตด้วยเลเวอเรจที่ยืดหยุ่นและสูงถึง 500 เท่า

    การเทรดผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจมีความเสี่ยงสูงและอาจส่งผลให้สูญเสียเงินทุนทั้งหมด โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบ