คำถามหนึ่งที่คนเริ่มต้นในตลาด Forex มักตั้งข้อสงสัยเป็นอันดับแรก คือ “การซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศผิดกฎหมายหรือไม่?” โดยเฉพาะในบริบทของประเทศไทยที่หลายคนยังมีภาพลักษณ์ของ Forex ติดกับเรื่องฉ้อโกงหรือแชร์ลูกโซ่

ไขข้อข้องใจเรื่องสถานะทางกฎหมายในไทย
เพื่อให้ทุกคนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่ตีความผิด และไม่เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียด ครอบคลุมทั้งสถานะทางกฎหมาย เทคนิคการเลือกโบรกเกอร์ที่ปลอดภัย รวมถึงข้อควรรู้เรื่องการเสียภาษีในปี 2025 ซึ่งเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนมักเผลอละเลยไป
สรุปสั้นๆ: Forex ผิดกฎหมายไหมในประเทศไทย?
คำตอบคือ การเทรด Forex ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย แต่ก็ยังไม่มีกรอบกฎหมายเฉพาะที่รองรับในประเทศไทยอย่างชัดเจน ทำให้กิจกรรมนี้ตกอยู่ใน “พื้นที่สีเทา” ทางกฎหมาย
นั่นหมายความว่า:
- พฤติกรรมการซื้อขายเพื่อเก็งกำไรจากส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยน ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย
- แต่ในทางปฏิบัติ ยังไม่มีบริษัทใดในไทยได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจเป็นโบรกเกอร์ Forex สำหรับนักลงทุนรายย่อยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
จุดสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ ความเสี่ยงส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการ “เทรด” เอง แต่มาจาก “ผู้ให้บริการ” หรือ “โบรกเกอร์” ที่คุณเลือก หากเลือกโบรกเกอร์ที่ไร้คุณภาพ ไม่มีใบอนุญาต หรือเป็นกลุ่มหลอกลวง คุณอาจตกเป็นเหยื่อได้โดยไม่รู้ตัว
ทำความเข้าใจสถานะทางกฎหมายของ Forex ในไทย
หากจะเข้าใจภาพรวมของ Forex ในไทยอย่างถูกต้อง จำเป็นต้องรู้จักกับ 2 หน่วยงานหลักที่มีบทบาทโดยตรงในเรื่องนี้ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
บทบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ธปท. เป็นหน่วยงานที่ดูแลเสถียรภาพของค่าเงินบาทและควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราภายใต้ พระราชกำหนดควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ. 2485 กฎหมายนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันไม่ให้การเคลื่อนเงินทุนต่างประเทศส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ
แม้ธปท. จะไม่ได้ห้ามบุคคลธรรมดาแลกเปลี่ยนเงินตราเพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัว แต่ก็มีการเตือนอย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะ คำเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงในรูปแบบ Forex Robot ที่มักใช้ชื่อการลงทุนมาหลอกให้คนฝากเงิน โดยอ้างว่า “ทำกำไรได้ง่ายและสูง”
บทบาทของสำนักงาน ก.ล.ต.
ก.ล.ต. มีหน้าที่คล้ายคลึงกับหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนในต่างประเทศ โดยดูแลเรื่องการลงทุน สินทรัพย์ดิจิทัล และกองทุนต่าง ๆ แต่ถึงแม้เวลาจะผ่านมานาน ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่า ก.ล.ต. ได้ออกใบอนุญาตให้กับโบรกเกอร์ Forex ใด ๆ สำหรับการให้บริการกับนักลงทุนรายย่อยในไทย
นั่นหมายความว่า แม้คุณจะเห็นเว็บไซต์ที่มีที่อยู่ในประเทศไทยหรือใช้ภาษาไทย แต่หากอ้างว่าตัวเองเป็น “โบรกเกอร์ Forex ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.” ก็อาจเป็นข้อมูลเท็จหรือการหลอกลวงได้
ด้วยข้อจำกัดเหล่านี้ นักลงทุนส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องใช้บริการผ่าน โบรกเกอร์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ ซึ่งกฎหมายไทยไม่ได้ห้ามโดยตรง แต่ในทางกลับกันก็ไม่มีการคุ้มครองคุณอย่างเป็นทางการเช่นกัน

แยกให้ออก: เทรด Forex จริง หรือ แชร์ลูกโซ่หลอกลวง?
ปัญหาหนึ่งที่ทำให้ Forex มีภาพลักษณ์เชิงลบในสังคมไทย คือการที่มิจฉาชีพมักใช้คำว่า “เทรด Forex” มาเป็นเครื่องมือในการดึงดูดนักลงทุนเข้าสู่แชร์ลูกโซ่ (Ponzi Scheme)
การรู้วิธีแยกแยะจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อป้องกันตัวเองจากการสูญเสียทั้งเงินและโอกาส
| ลักษณะเปรียบเทียบ | การเทรด Forex แท้ | แพลตฟอร์มหลอกลวง (แชร์ลูกโซ่) |
|---|
| ผลตอบแทน | ไม่มีการการันตีกำไร ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ ความรู้ และวินัยของผู้เทรด | อ้างว่า “ได้กำไรแน่นอน” 10-30% ต่อเดือน โดยไม่ต้องทำอะไร |
| รูปแบบการลงทุน | ผู้ลงทุนเปิดบัญชีเอง วิเคราะห์และกดเทรดด้วยตนเอง หรือใช้ EA ที่ควบคุมได้ | ให้ “มืออาชีพจัดการให้” เงินทั้งหมดส่งให้เค้าบริหาร คุณแค่รอนับเงิน |
| โมเดลรายได้ | โบรกเกอร์มีรายได้จากค่าสเปรดหรือค่าคอมมิชชั่นต่อการซื้อขาย | สร้างรายได้จากการชักชวนคนใหม่มากขึ้น (ระบบ Referral) ใช้เงินของคนใหม่จ่ายคนเก่า |
| ความโปร่งใส | ดูประวัติการเทรด คำสั่งซื้อขาย และยอดคงเหลือได้ชัดเจน | ไม่สามารถดูว่าเงินไปอยู่ที่ไหน หรือมีการเทรดจริงหรือไม่ |
| การถอนเงิน | ถอนได้ตามเงื่อนไข ภายใน 1-5 วัน ขึ้นกับวิธีการ | ขอลายออกไม่ได้ หรือถูกบ่ายเบี่ยงด้วยข้ออ้างต่างๆ |
หากมีใครเสนอโอกาส “ลงทุนแบบไม่ต้องทำอะไร แล้วได้กำไรทุกเดือน” ให้ตั้งสติก่อนทันที โอกาสที่คุณจะเจอแชร์ลูกโซ่สูงถึง 99%

เทรดอย่างไรให้ปลอดภัย? เคล็ดลับเลือกโบรกเกอร์ต่างประเทศ
เนื่องจากไม่มีโบรกเกอร์ในประเทศที่ได้รับอนุญาต การใช้บริการจากโบรกเกอร์ต่างประเทศจึงเป็นเพียงทางเลือกเดียว แต่ต้องเลือกให้ถี่ถ้วน เพราะความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์คือเกราะป้องกันชั้นสุดท้ายของคุณ
เลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลระดับโลก
นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่าเชื่อคำโฆษณา แต่ให้พิสูจน์ด้วยตัวเอง โบรกเกอร์ที่ดีจะต้องมีการควบคุมจากองค์กรที่มีชื่อเสียงและเข้มงวด เช่น:
- FCA (Financial Conduct Authority) – สหราชอาณาจักร: หนึ่งในหน่วยงานที่ได้รับความน่าเชื่อถือสูงสุด มีกระบวนการตรวจสอบละเอียดและคุ้มครองเงินทุนของลูกค้า
- ASIC (Australian Securities and Investments Commission) – ออสเตรเลีย: มีมาตรฐานสูง มีบทลงโทษที่ชัดเจนต่อผู้ประกอบการที่ทำผิด
- CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission) – ไซปรัส: ได้รับความนิยมจากโบรกเกอร์จำนวนมาก เพราะเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป ซึ่งช่วยให้สามารถให้บริการในยุโรปได้
แม้บางโบรกเกอร์จะอยู่ภายใต้การกำกับของ CySEC ในบางกรณี อาจมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นกว่า แต่ก็ยังน่าเชื่อถือมากกว่าโบรกเกอร์ที่ไม่มีการควบคุมใด ๆ เลย
วิธีตรวจเช็คใบอนุญาตโบรกเกอร์ (License Verification) แบบมืออาชีพ
อย่าเพียงดูว่าโบรกเกอร์ประกาศว่า “เราได้รับอนุญาตจาก FCA” แล้วเชื่อทันที คุณต้องตรวจสอบด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ทางการของแต่ละองค์กร
- ค้นหารหัสลงทะเบียน: เข้าไปที่หน้า Regulations หรือ Legal Documents บนเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ เพื่อหาเลขที่ใบอนุญาต
- ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์หลัก:
- ค้นหาจากชื่อหรือเลขทะเบียน: ใช้ช่อง Search เพื่อระบุชื่อบริษัทหรือเลขที่ใบอนุญาต
- ยืนยันสถานะ: ตรวจดูว่าสถานะเป็น “Authorised”, มีชื่อบริษัทตรงกัน และบริการที่ให้ได้รับอนุญาตตรงกับที่โฆษณาไว้หรือไม่
หากตรวจสอบแล้ว “ไม่มีข้อมูล” หรือ “สถานะไม่ปกติ” ขอแนะนำให้หยุดทันที

รายได้จาก Forex ต้องเสียภาษีไหม?
แม้หลายคนยังคิดว่า เนื่องจากเทรดกับโบรกเกอร์ต่างประเทศ และเงินไม่ผ่านธนาคารในไทย เลย “ไม่ต้องเสียภาษี” แต่ความจริงคือ ถือเป็นรายได้ที่ต้องประเมินภาษี ตามกฎหมาย
พื้นฐานกฎหมายเกี่ยวกับภาษี
ตาม ประมวลรัษฎากร มาตรา 40 กำไรจากการเทรด Forex จัดอยู่ในประเภท เงินได้พึงประเมินข้อ 40(4) หมวดรายได้จากเงินลงทุน และเนื่องจากเงินนี้เกิดจากแหล่งภายนอกประเทศ มาตรา 41 วรรคสอง จึงระบุว่า:
“ในกรณีที่เงินได้ดังกล่าวเกิดจากต่างประเทศ ต้องนำเงินได้นั้นเข้ามาในประเทศไทยในปีเดียวกันที่ได้รับ เพื่อให้มีหน้าที่ต้องเสียภาษี”
นั่นแปลว่า หากคุณมีกำไรและถอนเงินกลับมาเป็นบาทในปีเดียวกัน คุณต้องนำยอดนั้นไปรวมในแบบยื่นภาษี
ขั้นตอนการยื่นภาษีเบื้องต้น
- สรุปกำไร-ขาดทุนทั้งปี (1 ม.ค. – 31 ธ.ค.): จากประวัติการเทรด นำมาคำนวณเป็นกำไรสุทธิ
- แปลงเป็นสกุลเงินบาท: ใช้อัตราแลกเปลี่ยนของ ธปท. วันที่ถอนเงินหรือนำเข้าประเทศ
- รวมกับรายได้อื่น: เขียนในแบบ ภ.ง.ด.90 ยื่นก่อน 31 มีนาคม ของปีถัดไป
ตัวอย่าง: หักขาดทุนทั้งปีแล้วได้กำไรสุทธิ 50,000 เหรียญสหรัฐ แปลงที่ 35 บาทต่อดอลลาร์ = 1,750,000 บาท ต้องยื่นภาษีในส่วนนี้ตามขั้นบันได
ข้อควรระวัง
บทความนี้ไม่ใช่คำแนะนำทางภาษีอย่างเป็นทางการ กรมสรรพากร อาจมีการตีความหรือปรับเกณฑ์ในอนาคต ดังนั้น หากคุณทำกำไรอย่างสม่ำเสมอ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือนักบัญชีเพื่อวางแผนอย่างถูกต้องและปลอดภัย
สรุป: เทรด Forex อย่างมีความรับผิดชอบในสังคมไทย
Forex ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย แต่มีบริบทเฉพาะในประเทศไทยที่ต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ ความเสี่ยงไม่ได้อยู่ที่ตัวตลาด แต่อยู่ที่ “ผู้ให้บริการ” และ “ความรู้ของผู้ลงทุน”
การเริ่มต้นอย่างมั่นคง ควรมีแนวทางดังนี้:
- เข้าใจสถานะทางกฎหมาย: รู้ว่าเทรดได้ แต่ต้องผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศ
- จำแนกให้ออก: แยกให้ได้ว่าแพลตฟอร์มที่คุณเห็นเป็นการลงทุนจริง หรือเป็นขบวนการหลอกลวง
- ตรวจสอบโบรกเกอร์ทุกครั้ง: ใช้เว็บไซต์ FCA, ASIC หรือ CySEC เพื่อยืนยันใบอนุญาต
- เตรียมพร้อมเรื่องภาษี: กำไรถือเป็นรายได้ ถ้าถอนกลับมา ต้องยื่นภาษี
- Do Your Own Research (DYOR): อย่าเชื่อสิ่งที่เห็นบน Facebook หรือ YouTube แบบไม่ตรวจสอบ เรียนรู้จากแหล่งข้อมูลเชื่อถือได้ เสมอ
ตลาด Forex ไม่ใช่ทางลัดรวยเร็ว แต่เป็นเวทีสำหรับผู้ที่มีวินัย ความรู้ และทัศนคติถูกต้อง หากคุณเตรียมตัวมาอย่างดี มันก็อาจเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยสร้างอนาคตทางการเงินให้กับคุณได้เช่นกัน
FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกฎหมาย Forex
ทำไม Forex ยังไม่ถูกกฎหมายเต็มตัวในไทย?
ยังไม่มีหน่วยงานอย่าง ก.ล.ต. หรือ ธปท. อนุญาตโบรกเกอร์ Forex ให้บริการนักลงทุนรายย่อยในไทยโดยตรง นักลงทุนจึงต้องใช้โบรกเกอร์ต่างประเทศ ทำให้อยู่ใน “พื้นที่สีเทา” ทางกฎหมาย
รายได้จาก Forex ต้องเสียภาษีไหม?
ต้องเสีย หากมีกำไรจากต่างประเทศและนำเงินเข้ามาในไทยในปีภาษีเดียวกัน ต้องรวมยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40(4) และมาตรา 41 วรรคสอง
มีคนร่ำรวยจาก Forex จริงไหม?
มี แต่มีสัดส่วนไม่มาก ผู้ที่สำเร็จมีวินัย ความรู้ลึก และบริหารความเสี่ยงดี คนส่วนใหญ่ล้มเหลวเพราะมองว่าเป็นทางรวยเร็วและขาดแผน
จะตรวจสอบโบรกเกอร์ว่าน่าเชื่อถือได้อย่างไร?
ตรวจใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับ เช่น FCA (สหราชอาณาจักร) หรือ ASIC (ออสเตรเลีย) โดยค้นชื่อบริษัทหรือเลขทะเบียนในเว็บไซต์ทางการ อย่าเชื่อเพียงภาพหน้าเว็บของโบรกเกอร์
ธุรกิจ Forex คืออะไร?
Forex ไม่ใช่ “ธุรกิจ” ของบริษัท แต่คือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรานานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก การเทรดคือการซื้อ-ขายคู่สกุลเงินเพื่อหวังกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน