Heiken Ashi คืออะไร ทำไมเหล่านักเทรดถึงใช้กันแพร่หลาย
ในโลกของการเทรดที่เต็มไปด้วยความผันผวนและข้อมูลรบกวน การมีเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ที่ช่วยให้มองเห็นทิศทางของตลาดได้ชัดเจนยิ่งขึ้นคือปัจจัยสำคัญของการประสบความสำเร็จ Heiken Ashi หรือที่เรียกอีกอย่างว่า “แท่งเทียนเฉลี่ย” เป็นหนึ่งในเทคนิคที่นักเทรดทั่วโลกนิยมใช้มากที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่เน้นการตามเทรนด์
ที่มาของชื่อ “Heiken Ashi” คือภาษาญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึง “แท่งเทียนเฉลี่ย” (Average Bar) ซึ่งอธิบายแก่นของมันได้อย่างตรงไปตรงมา แทนที่จะแสดงความผันผวนทั้งหมดของราคาเหมือนกราฟแท่งเทียนปกติ เทคนิคนี้ใช้การคำนวณค่าเฉลี่ยจากข้อมูลย้อนหลังเพื่อลดความปั่นป่วนที่ไม่สำคัญ ทำให้นักลงทุนสามารถมองเห็นทิศทางของตลาดได้อย่างต่อเนื่องและชัดเจนขึ้น
ผลลัพธ์ที่ได้คือกราฟที่เรียบและไหลลื่น ช่วยให้เทรดเดอร์หลีกเลี่ยงการตัดสินใจผิดพลาดจากอารมณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเห็นภาพกราฟสั่นไหวรุนแรงหรือมีสัญญาณรบกวน ทำให้สามารถโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญที่สุดได้ดีกว่า นั่นคือ “แนวโน้มหลัก” และนี่คือเหตุผลที่ Heiken Ashiกลายเป็นเครื่องมือไม่ทางการของเทรดเดอร์มืออาชีพจำนวนมาก

Heiken Ashi ต่างจากกราฟแท่งเทียนธรรมดาอย่างไร
หลายคนอาจนึกว่า Heiken Ashi เป็นแค่กราฟแท่งเทียนธรรมดาที่เปลี่ยนรูปแบบการแสดงผล ทั้งที่จริง ๆ แล้ว มันมีการคำนวณและโครงสร้างที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง การเข้าใจความแตกต่างนี้จะเปิดประตูให้คุณใช้เครื่องมือนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
จุดสำคัญคือ ในกราฟแท่งเทียนแบบดั้งเดิม ข้อมูลทั้ง 4 จุด (เปิด สูงสุด ต่ำสุด ปิด) คือราคาที่เกิดขึ้นจริงในช่วงเวลาหนึ่ง ในขณะที่ Heiken Ashi จะใช้สูตรเฉพาะที่คำนวณจากข้อมูลก่อนหน้าร่วมด้วย ทำให้แต่ละแท่งเทียนไม่ได้เป็นอิสระ แต่มีความเชื่อมโยงกันอย่างต่อเนื่อง ตามที่ Investopedia อธิบายไว้ เทคนิคนี้ช่วยเน้นทิศทางแนวโน้ม แต่ก็มาพร้อมกับข้อจำกัดเรื่องความล่าช้าของสัญญาณ
คุณสมบัติ | กราฟแท่งเทียน (Candlestick) | Heiken Ashi |
---|
การคำนวณ | ใช้ราคาเปิด-ปิด-สูง-ต่ำ ที่เกิดขึ้นจริงในช่วงเวลานั้น | คำนวณใหม่โดยใช้ข้อมูลแท่งก่อนหน้า เน้นค่าเฉลี่ย |
การแสดงผล | แสดงความผันผวนจริง อาจมีช่องว่าง (Gap) | ภาพรวมเรียบและต่อเนื่อง ลด Noise |
การระบุแนวโน้ม | อาจวุ่นวายจากสัญญาณรบกวน ทำให้ดูยาก | สัญญาณแนวโน้มชัดเจน ติดตามง่าย |
ความเร็วของสัญญาณ | เรียลไทม์ ตอบสนองทันทีต่อราคา | ช้ากว่าราคาจริงเล็กน้อย (Lagging) |

สูตรคำนวณ Heiken Ashi ฉบับเข้าใจง่าย
แม้ว่าแพลตฟอร์มเทรดส่วนใหญ่จะมี Heiken Ashi ให้ใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องคำนวณเอง แต่ความเข้าใจในหลักการทางคณิตศาสตร์เบื้องหลังจะช่วยให้คุณตีความสัญญาณได้แม่นยำมากขึ้น และรู้ว่าสิ่งที่คุณเห็นบนกราฟไม่ใช่ “ภาพสวย” แต่คือการแสดงผลเชิงกลยุทธ์
- ราคาปิด (Close): (ราคาเปิด + ราคาสูงสุด + ราคาต่ำสุด + ราคาปิด) / 4
นี่คือ “ราคาปิดเฉลี่ย” ของแท่งเทียนนั้น ๆ เป็นจุดศูนย์กลางของการคำนวณ Heiken Ashi - ราคาเปิด (Open): [ราคาเปิด (แท่งก่อนหน้า) + ราคาปิด (แท่งก่อนหน้า)] / 2
หมายความว่า จุดเปิดของแท่งนี้ไม่ได้เป็นราคาเปิดจริงในช่วงเวลานั้น แต่ถูกกำหนดโดยค่าเฉลี่ยจากแท่งก่อนหน้า - ราคาสูงสุด (High): สูงสุดระหว่างราคาสูงสุดจริง ราคาเปิด และราคาปิดของแท่งนี้
ต้องการให้ราคาสูงสุดสะท้อนแนวต้านที่สำคัญที่สุด - ราคาต่ำสุด (Low): ต่ำสุดระหว่างราคาต่ำสุดจริง ราคาเปิด และราคาปิดของแท่งนี้
เพื่อให้สอดคล้องกับความราบรื่นของกราฟ
สิ่งที่น่าสนใจคือ ราคาแท้จริงในตลาดอาจไม่ตรงกับสิ่งที่ Heiken Ashi แสดง นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่เทรดเดอร์ควรใช้ Heiken Ashi เป็น “เครื่องมือยืนยันแนวโน้ม” ไม่ใช่ “เครื่องมือตั้งออร์เดอร์” โดยตรง เว้นแต่จะตรวจสอบคู่ขนานกับกราฟราคาปกติ

วิธีอ่านกราฟ Heiken Ashi วิเคราะห์แนวโน้มได้แม่นยำ
จุดเด่นของ Heiken Ashi คือ ความง่ายในการอ่านและการตีความ สัญญาณจะชัดเจนและมีรูปแบบซ้ำ ๆ ที่คุณสามารถสร้างระบบการเทรดจากมันได้ ไม่ว่าคุณจะเทรดหุ้น ฟอเร็กซ์ หรือคริปโต
แท่งเทียนกระทิง (Bullish Candles): สัญญาณขาขึ้น
เมื่อเห็นแท่งเทียนสีเขียวที่มี “ตัวแท่งยาว” และ “ไม่มีไส้ด้านล่าง” แปลว่าแรงซื้อกำลังครอบงำ และพัฒนาการราคาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ยิ่งหากมีหลายแท่งต่อเนื่องกันก็ยิ่งบ่งบอกว่าแนวโน้มขาขึ้นแข็งแกร่ง
จุดนี้ เทรดเดอร์ควรพิจารณาสนับสนุนตำแหน่ง Long หรือรอเข้าซื้อหากราคาปรับตัวเล็กน้อยแล้วกลับมาแสดงแท่งเขียวรูปทรงดีอีกครั้ง
แท่งเทียนหมี (Bearish Candles): สัญญาณขาลง
แท่งเทียนสีแดงที่มี “ตัวแท่งยาว” และ “ไม่มีไส้ด้านบน” แสดงถึงแรงขายที่ควบคุมสถานการณ์ ตลาดปิดตัวใกล้ต่ำสุดของช่วงเวลา สะท้อนถึงความมั่นใจของผู้ขาย
หากเห็นลักษณะนี้ต่อเนื่อง หมายความว่าแนวโน้มขาลงยังดำเนินอยู่ การถือสถานะหรือเปิดออร์เดอร์ Short ในช่วงนี้จึงปลอดภัยมากกว่า
สัญญาณการกลับตัวหรือตลาดพักตัว
เมื่อแนวโน้มเริ่มสิ้นสุด ภาพของกราฟ Heiken Ashi จะเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด โดยมีลักษณะเด่น คือ
- ตัวแท่งสั้นลง มีความผันผวนที่กลับมาปรากฏ
- เริ่มมี “ไส้ทั้งด้านบนและด้านล่าง”
- แท่งเทียนเริ่มเปลี่ยนสี หรือมีแท่งสีตรงข้ามแทรกเข้ามา
แท่งเทียนลักษณะนี้คล้ายกับ Doji ในกราฟแท่งเทียนปกติ บ่งบอกถึงความลังเลของตลาด และความไม่แน่นอนว่าทิศทางที่จะไปต่อคืออะไร การเห็นลักษณะนี้ควรเริ่มระมัดระวัง อาจใช้เป็นจุดตัดขาดทุน หรือปิดสถานะเพื่อป้องกันความเสี่ยง

กลยุทธ์การเทรดด้วย Heiken Ashi ทั้งแบบพื้นฐานและขั้นสูง
Heiken Ashi ไม่ได้มีแค่ไว้ “ชม” แต่สามารถนำมาใช้สร้างกลยุทธ์ที่ทำกำไรได้จริง โดยเฉพาะเมื่อนำไปผสมผสานกับเครื่องมืออื่น ๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากข้อจำกัดเรื่องความล่าช้า
กลยุทธ์พื้นฐาน: เทรดตามเทรนด์ (Trend Following)
เหมาะที่สุดสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่หรือผู้ที่ชอบการเทรดแบบเรียบง่าย
- สัญญาณเปิดสถานะซื้อ: เริ่มมองหาแท่งเทียนเขียวที่ไม่มีไส้ด้านล่าง และต่อเนื่องอย่างน้อย 1-2 แท่ง แสดงว่าตลาดเริ่มเข้าสู่ขาขึ้นอย่างมั่นคง จึงตัดสินใจเข้า Long
- สัญญาณปิดสถานะ: เมื่อเห็นแท่งแรกที่มีไส้ล่างชัดเจน หรือมีแท่งแดงแรกหลังจากช่วงขาขึ้นยาว ถือเป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มอาจสิ้นสุด ควรพิจารณาปิดการค้าขาย
ในกรณีแนวทางตรงกันข้ามกับแนวโน้มขาลง ก็ใช้หลักการเดียวกัน เพียงแต่กลับด้าน: รอแท่งแดงต่อเนื่องไม่มีไส้บน แล้วเข้า Short และออกจากตำแหน่งเมื่อเห็นแท่งเขียวแรก
กลยุทธ์ขั้นสูง 1: เสริมด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average)
การรวม Heiken Ashi กับ Moving Average คืออะไร ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในสัญญาณ โดยเฉพาะเส้น EMA 20 หรือ EMA 50 ซึ่งเป็นที่นิยมเพราะมีความตอบสนองดีต่อราคาในระยะสั้น – กลาง
- การยืนยันขาขึ้น: เมื่อราคาอยู่เหนือเส้น EMA และมีแท่งเทียนเขียวยาวไม่มีไส้ล่างเกิดขึ้น มันคือการยืนยันสองชั้นว่าตลาดยังคงมีแรงซื้อระดับสูง
- การยืนยันขาลง: ราคาต่ำกว่าเส้น MA และมีแท่งเทียนแดงยาวไม่มีไส้บน แสดงว่าแรงขายยังไม่หมด น่าถือสถานะ Short ต่อไป
เทคนิคนี้ช่วยลดสัญญาณปลอม (False Signal) ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อพึ่งพา Heiken Ashi แค่ตัวเดียว โดยเฉพาะในช่วงตลาดไซด์เวย์
กลยุทธ์ขั้นสูง 2: ผนวกกับ RSI เพื่อหาจังหวะกลับตัว
ขณะที่ Heiken Ashi เด่นเรื่องแนวโน้ม RSI (Relative Strength Index) กลับเชี่ยวชาญในเรื่องการมอง “แรงดีขึ้น” หรือ “แรงหมด” ของตลาด การรวมสองเครื่องมือนี้จึงเหมาะกับการหาจังหวะเปลี่ยนแนวโน้มหรือการเทรดสวนเทรนด์ (Counter-trend)
- สัญญาณกลับตัวขึ้น: เมื่อราก้าวลงทำ Low ใหม่ แต่ RSI กลับไม่ทำ Low ใหม่ (Bullish Divergence) และมีแท่งเทียนเขียวแทรกขึ้นมาใน Heiken Ashi จุดนี้คือจังหวะที่แรงขายเริ่มหมด พร้อมกลับตัว
- สัญญาณกลับตัวลง: เมื่อราคาขึ้นทำ High ใหม่ แต่ RSI กลับไม่ไปถึง แสดงถึง Bearish Divergence และเมื่อแท่งเทียนเปลี่ยนเป็นแดงแท่งแรกใน Heiken Ashi ถือเป็นการยืนยันจุดกลับตัว
กลยุทธ์นี้ต้องใช้ความแม่นยำสูง แนะนำให้ใช้ในช่วงเวลา (Timeframe) ใหญ่กว่า H1 เพื่อให้สัญญาณมีน้ำหนักมากพอ

จุดแข็งและข้อควรระวังการใช้ Heiken Ashi
แม้ Heiken Ashi จะถูกยกย่องว่าเปลี่ยนกราฟให้อ่านง่ายขึ้นทันที แต่ก็ไม่ใช่เครื่องมือ “สมบูรณ์” ทุกอย่างมีข้อจำกัด และการเข้าใจทั้งสองด้านจะช่วยให้คุณใช้เครื่องมือนี้ได้อย่างชาญฉลาด
ข้อดีของการใช้งาน
- กรองความปั่นป่วนได้ดี: ลดการวิเคราะห์ผิดจากแนวโน้มย่อย ๆ ที่ไม่มีนัยสำคัญ เหมาะกับผู้ที่เครียดกับกราฟสั่น
- มองเห็นแนวโน้มได้ชัด: สีของแท่งเทียนที่ต่อเนื่องกันนาน เปรียบเสมือนป้ายบอกทางสำหรับเทรนด์
- ลดอารมณ์จากการตัดสินใจ: เมื่อภาพตลาดเรียบง่าย ความลังเลในการถือสถานะหรือการตัดขาดทุนก็ลดลง
- สัญญาณออกตำแหน่งที่ชัดเจน: การเปลี่ยนสีของแท่งเทียนหรือการเกิดไส้ทั้งสองด้าน คือสัญญาณที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง
ข้อควรระวัง
- สัญญาณล่าช้า: เนื่องจากใช้ข้อมูลย้อนหลัง การเกิดแท่งเขียวหรือแดงอาจช้ากว่าราคาจริง คุณอาจพลาดจุดเข้าที่ดีที่สุด
- ราคาไม่ตรงกับตลาดจริง: ราคา “ปิด” ที่แสดงบน Heiken Ashi ไม่ใช่ราคาที่คุณจะได้เมื่อสั่งซื้อขายจริง ควรใช้ควบคู่กับกราฟราคาปกติเมื่อวางออร์เดอร์
- อาจลืมเห็นความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ: ความราบรื่นของกราฟอาจทำให้คุณพลาดการกลับตัวระยะสั้น หรือแบบจำลอง Price Action ที่สำคัญ เช่น Pin Bar, Engulfing
เว็บไซต์สอนเทรดชั้นนำอย่าง Babypips ย้ำว่า อย่าใช้ Heiken Ashi เป็นเพียงตัวเดียวในการตัดสินใจ “ควรใช้เป็นเครื่องมือเสริม” พร้อมกับอินดิเคเตอร์หรือการวิเคราะห์เชิงพื้นฐานอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยยำ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Heiken Ashi (FAQ)
Heiken Ashi คืออะไร?
Heiken Ashi เป็นกราฟแท่งเทียนที่ใช้สูตรค่าเฉลี่ยจากข้อมูลก่อนหน้ามาคำนวณ ทำให้กราฟดูเรียบขึ้น ช่วยกรองความผันผวนเล็กน้อยออกไป และเน้นให้เห็นแนวโน้มของราคาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงตลาดมีทิศทาง
Heiken Ashi แตกต่างจากกราฟแท่งเทียน (Candlestick) ทั่วไปอย่างไร?
ข้อแตกต่างหลักคือการคำนวณ แท่งเทียนทั่วไปแสดงราคาจริงที่เกิดขึ้น ขณะที่ Heiken Ashi สร้างราคาขึ้นใหม่โดยอิงจากแท่งก่อนหน้า ทำให้มีความต่อเนื่องและลด Noise แต่ก็มาพร้อมความล่าช้าและไม่เหมาะกับการมองราคาแบบเรียลไทม์
Heiken Ashi เหมาะกับเทรดเดอร์สไตล์ไหน?
เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เน้นการตามแนวโน้ม (Trend Following) หรือผู้ที่ต้องการลดความเครียดจากการดูความผันผวนของราคา โดยเฉพาะในตลาดที่เคลื่อนไหวแรง เช่น คริปโตหรือฟอเร็กซ์ แต่ไม่เหมาะกับนัก Scalping ที่ต้องรับรู้ราคาแบบทันที
เราสามารถเชื่อถือสัญญาณจาก Heiken Ashi ได้ 100% หรือไม่?
ไม่ได้ แม้ Heiken Ashi จะให้ภาพรวมทิศทางตลาดได้ดี แต่เป็น Lagging Indicator ที่อาจให้สัญญาณล่าช้า ดังนั้นควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่น เช่น Moving Average, RSI หรือ MACD เพื่อยืนยันสัญญาณก่อนตัดสินใจ
จะตั้งค่ากราฟ Heiken Ashi ในโปรแกรมเทรดได้อย่างไร?
ในแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น TradingView, MT4 หรือ MT5 คุณสามารถเปิดใช้งาน Heiken Ashi ได้ง่าย ๆ โดยไปที่เมนู “Chart Type” หรือ “Indicators” แล้วเลือก Heiken Ashi จากลิสต์ เมื่อเปิดใช้งาน กราฟธรรมดาจะเปลี่ยนเป็นรูปแบบ Heiken Ashi ทันที โดยไม่ต้องปรับค่าพารามิเตอร์ใด ๆ